นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันบริหารจัดการให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งให้มากขึ้น และหวังว่าจะได้รัฐบาลที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่าน ๆ มา
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งหลังจากที่มีการสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบสัดส่วนของพรรคการเมืองไปแล้วว่า หวังว่าเราน่าจะช่วยกันบริหารจัดการให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันให้มากขึ้น ก็เป็นความหวัง คงจะพูดถึงความเชื่อมั่นลำบาก แต่ถ้าพูดถึงความหวังก็ยังหวังว่าจะมีรัฐบาลที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่าน ๆ มา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหลายพื้นที่พบว่า ประชาชนไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเข้ามาโกงหรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และยังระบุว่าการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงสูงสุดถึงหมื่นล้านบาท นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่จะดูกันคือในเรื่องของการบริหาร ถ้าบริหารงานโดยหลักธรรมาภิบาล การสูญเสียต่าง ๆ ก็จะน้อย และจากประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีการใช้เงินก็ต้องมีการถอนทุน ก็เป็นในลักษณะอย่างนั้น ถ้าเรายังไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงในส่วนเหล่านี้ได้ เราก็คงไม่มีความมั่นคงทางการเมือง และผลของความมั่นคงทางการเมืองก็คือความเจริญก้าวหน้าที่ช้า ไม่ทันคนอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ระบุว่าหาก พปช.ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีความผิดตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เราต้องแยกกัน เรื่องของความผิดอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมที่จะบอกว่าผิดหรือไม่ผิด ส่วนเรื่องการเลือกตั้งเป็นอีกส่วนหนึ่งคือเป็นการเลือกฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่จะมาทำหน้าที่ต่อไป ในหลักการคิดว่าการจะชี้ผิดชี้ถูกนั้น อยู่ที่ศาลสถิตยุติธรรม ส่วนการจะเลือกตัวบุคคลอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกตัวบุคคลหรือเลือกพรรค ก็อยู่ที่ประชาชนคงไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกันโดยตรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ้นปีนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยังปิดคดี พ.ต.ท.ทักษิณฯ ไม่ลง เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะมาล้มคดีอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่เท่าที่ได้สอบถามจากนายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ทราบว่าประมาณสิ้นปีนี้น่าจะปิดคดีได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งหลังจากที่มีการสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระบบสัดส่วนของพรรคการเมืองไปแล้วว่า หวังว่าเราน่าจะช่วยกันบริหารจัดการให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันให้มากขึ้น ก็เป็นความหวัง คงจะพูดถึงความเชื่อมั่นลำบาก แต่ถ้าพูดถึงความหวังก็ยังหวังว่าจะมีรัฐบาลที่มีคุณภาพที่ดีขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่าน ๆ มา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหลายพื้นที่พบว่า ประชาชนไม่สนใจว่ารัฐบาลจะเข้ามาโกงหรือไม่ แต่ขอให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และยังระบุว่าการเลือกตั้งโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงสูงสุดถึงหมื่นล้านบาท นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่จะดูกันคือในเรื่องของการบริหาร ถ้าบริหารงานโดยหลักธรรมาภิบาล การสูญเสียต่าง ๆ ก็จะน้อย และจากประสบการณ์ในอดีตที่ผ่านมา เมื่อมีการใช้เงินก็ต้องมีการถอนทุน ก็เป็นในลักษณะอย่างนั้น ถ้าเรายังไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงในส่วนเหล่านี้ได้ เราก็คงไม่มีความมั่นคงทางการเมือง และผลของความมั่นคงทางการเมืองก็คือความเจริญก้าวหน้าที่ช้า ไม่ทันคนอื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.) ระบุว่าหาก พปช.ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แสดงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีความผิดตามที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เราต้องแยกกัน เรื่องของความผิดอยู่ที่กระบวนการยุติธรรมที่จะบอกว่าผิดหรือไม่ผิด ส่วนเรื่องการเลือกตั้งเป็นอีกส่วนหนึ่งคือเป็นการเลือกฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติที่จะมาทำหน้าที่ต่อไป ในหลักการคิดว่าการจะชี้ผิดชี้ถูกนั้น อยู่ที่ศาลสถิตยุติธรรม ส่วนการจะเลือกตัวบุคคลอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกตัวบุคคลหรือเลือกพรรค ก็อยู่ที่ประชาชนคงไม่ได้เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกันโดยตรง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ้นปีนี้คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ยังปิดคดี พ.ต.ท.ทักษิณฯ ไม่ลง เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาก็จะมาล้มคดีอีก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่เท่าที่ได้สอบถามจากนายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ทราบว่าประมาณสิ้นปีนี้น่าจะปิดคดีได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--