นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารงานให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมทั้งให้การประปาส่วนภูมิภาคเชิญชวนให้ประชาชนใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผ่านสำนักงานประปาทั้ง 228 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม 1221-1223 อาคาร 1 สำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาค กรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารงานให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมทั้งมอบรางวัล “เพชรน้ำหนึ่ง” ให้แก่พนักงานดีเด่น จำนวน 6 คน
นายสุรอรรถ ทองนิรมล ประธานกรรมการ การประปาส่วนภูมิภาค กล่าวรายงานว่า การประปาส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงมหาดไทย ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดยมีภารกิจหลักในการสำรวจและจัดหาแหล่งน้ำดิบที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “การประปาส่วนภูมิภาคจะเป็นองค์กรชั้นดีเพื่อปวงชน ที่ให้บริการน้ำประปาอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และได้มาตรฐาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า ปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาคมีสำนักงานประปาในสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 228 แห่ง และจำนวนผู้ใช้น้ำ 2,628,470 ราย
การประปาส่วนภูมิภาคได้น้อมนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินการบริหารจัดการ ด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชน ภายใต้หลักการ “น้ำประปาต้องพอเพียง เลี้ยงชุมชนให้เข้มแข็ง” ตลอดจนดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ส่งเสริมสังคมอยู่เย็นเป็นสุข โดยมุ่งเน้นความประหยัด โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคม อาทิ โครงการเติมใจให้กันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบประปาแก่ประชาชน โครงการน้ำประปาดื่มได้ ซึ่งสามารถประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้รวม 99 แห่งทั่วประเทศ โครงการน้ำประปาเพื่อช่วยผู้ประสบภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงบรรเทาสาธารณภัย โดยบริการน้ำจ่ายฟรีแก่ประชาชนผู้ประสบภัย และโครงการรับแจ้งเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์ ได้ที่ call center หมายเลข 0-2551-8576 และเว็บไซต์ www.pwa.co.th
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาพบปะผู้บริหารระดับสูงของการประปาส่วนภูมิภาค และเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของการประปาส่วนภูมิภาค กรณีการจำหน่ายน้ำประปาต่ำกว่าต้นทุนที่ทำให้เกิดภาวะขาดทุน ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลังในเรื่องการหาแหล่งเงินทุน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเรื่องการสำรวจหาแหล่งน้ำดิบ เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินงานของการประปาส่วนภูมิภาคอย่างเต็มที่
สำหรับการน้อม นำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหลักในการบริหารจัดการร่วมกับหลักธรรมาภิบาลนั้น จะสามารถปรับเปลี่ยนค่านิยมการทำงานไปสู่ยุคการทำงานที่โปร่งใส ซื่อสัตย์ ซื่อตรงและความไม่ประมาท ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการบริหารจัดการที่เป็นแนวทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้การประปาส่วนภูมิภาคร่วมรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นี้ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผ่านสำนักงานประปาทั้ง 228 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุม 1221-1223 อาคาร 1 สำนักงานใหญ่ การประปาส่วนภูมิภาค กรุงเทพมหานคร พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการบริหารงานให้แก่การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) พร้อมทั้งมอบรางวัล “เพชรน้ำหนึ่ง” ให้แก่พนักงานดีเด่น จำนวน 6 คน
นายสุรอรรถ ทองนิรมล ประธานกรรมการ การประปาส่วนภูมิภาค กล่าวรายงานว่า การประปาส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของกระทรวงมหาดไทย ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522 โดยมีภารกิจหลักในการสำรวจและจัดหาแหล่งน้ำดิบที่จะนำมาผลิตเป็นน้ำประปาที่ได้มาตรฐาน สะอาด และปลอดภัย เพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ยกเว้น กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ภายใต้วิสัยทัศน์ “การประปาส่วนภูมิภาคจะเป็นองค์กรชั้นดีเพื่อปวงชน ที่ให้บริการน้ำประปาอย่างมีคุณภาพ ทั่วถึง และได้มาตรฐาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีสุขภาพอนามัยที่ดี ควบคู่กับการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า ปัจจุบัน การประปาส่วนภูมิภาคมีสำนักงานประปาในสังกัดทั่วประเทศ จำนวน 228 แห่ง และจำนวนผู้ใช้น้ำ 2,628,470 ราย
การประปาส่วนภูมิภาคได้น้อมนำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการดำเนินการบริหารจัดการ ด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชน ภายใต้หลักการ “น้ำประปาต้องพอเพียง เลี้ยงชุมชนให้เข้มแข็ง” ตลอดจนดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ส่งเสริมสังคมอยู่เย็นเป็นสุข โดยมุ่งเน้นความประหยัด โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การประปาส่วนภูมิภาคได้ดำเนินโครงการเพื่อสังคม อาทิ โครงการเติมใจให้กันเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โดยจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบประปาแก่ประชาชน โครงการน้ำประปาดื่มได้ ซึ่งสามารถประกาศพื้นที่น้ำประปาดื่มได้รวม 99 แห่งทั่วประเทศ โครงการน้ำประปาเพื่อช่วยผู้ประสบภัยแล้ง น้ำท่วม รวมถึงบรรเทาสาธารณภัย โดยบริการน้ำจ่ายฟรีแก่ประชาชนผู้ประสบภัย และโครงการรับแจ้งเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์ ได้ที่ call center หมายเลข 0-2551-8576 และเว็บไซต์ www.pwa.co.th
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาพบปะผู้บริหารระดับสูงของการประปาส่วนภูมิภาค และเป็นโอกาสอันดีที่ได้รับทราบปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานของการประปาส่วนภูมิภาค กรณีการจำหน่ายน้ำประปาต่ำกว่าต้นทุนที่ทำให้เกิดภาวะขาดทุน ซึ่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจำเป็นต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการคลังในเรื่องการหาแหล่งเงินทุน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเรื่องการสำรวจหาแหล่งน้ำดิบ เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลยินดีให้การสนับสนุนการดำเนินงานของการประปาส่วนภูมิภาคอย่างเต็มที่
สำหรับการน้อม นำแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหลักในการบริหารจัดการร่วมกับหลักธรรมาภิบาลนั้น จะสามารถปรับเปลี่ยนค่านิยมการทำงานไปสู่ยุคการทำงานที่โปร่งใส ซื่อสัตย์ ซื่อตรงและความไม่ประมาท ซึ่งจะเป็นมิติใหม่ของการบริหารจัดการที่เป็นแนวทางที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้การประปาส่วนภูมิภาคร่วมรณรงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นี้ พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนใช้สิทธิใช้เสียงเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผ่านสำนักงานประปาทั้ง 228 แห่งทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--