นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของบ้านห้วยแห้ง หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของบ้านห้วยแห้ง หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ข้าราชการ ตัวแทนจากหมู่บ้าน และประชาชนบ้านห้วยแห้ง ให้การต้อนรับ
นายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รายงานสรุปภาพรวมการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขจังหวัดอุทัยธานี ปี 2550 สรุปว่า ในปี 2550 รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข สำหรับใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยจัดสรรงบยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขให้แก่จังหวัดอุทัยธานี 2 ครั้ง รวม 83 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่หมู่บ้าน/ชุมชนได้เสนอโครงการที่มีกิจกรรมสอดรับต่อแผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียงเป็นจำนวน 803 โครงการ งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60 ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร จังหวัดสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานและเบิกจ่ายงบประมาณแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของหมู่บ้าน/ชุมชน ที่ได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาของตนเองอย่างเป็นระบบ ตรงตามสภาพปัญหาและสอดคล้องต่อศักยภาพของตนเองอย่างจริงจัง โดยเป็นผลจากการที่คนในหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ นอกจากนี้ จังหวัดอุทัยธานีได้ใช้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของรัฐบาล โดยกำหนดเป็นกรอบความคิดในด้านการลดรายจ่ายใน 2 มิติคือ 1. การลดรายจ่ายในอาชีพ ให้แก่เกษตรกร โดยการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ เพื่อลดการใช้สารเคมี ใช้ระบบสหกรณ์ ส่งเสริมการใช้จ่ายอย่างประหยัด ส่งเสริมให้ลด ละ เลิก อบายมุข 2. การลดรายจ่ายประจำวัน โดยริเริ่มโครงการ “ตู้เย็นข้างบ้าน” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เพาะเห็ด ไว้ใช้บริโภคในครอบครัว ซึ่งทำให้ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายพร้อมกล่าวกับประชาชนว่า โครงการอยู่ดีมีสุขที่บ้านห้วยแห้งนี้ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจในการร่วมคิด ร่วมทำ และแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาทั้งหมู่บ้านและตำบล ซึ่งโครงการอยู่ดีมีสุขนี้ จะยังคงมีอยู่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการที่เสนอกับชุมชนหมู่บ้าน ส่วนปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนนั้น รัฐบาลจะร่วมกันแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่อยากเห็นเป็นรูปธรรมคือ การมีชุมชนที่เข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด ปลอดอบายมุข และสามารถทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในครอบครัวอย่างมีความสุข พร้อมกันนี้ได้ขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และตั้งใจทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจงรักภักดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ตัวแทนประชาชน พร้อมเยี่ยมชมโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของตำบลห้วยแห้ง และเยี่ยมชมชุมชนร้านค้าต่าง ๆ เช่นการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ โครงการตู้เย็นข้างบ้าน การเพาะเมล็ดผักต้นกล้า การเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของบ้านห้วยแห้ง หมู่ที่ 1 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี โดยมีนายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ข้าราชการ ตัวแทนจากหมู่บ้าน และประชาชนบ้านห้วยแห้ง ให้การต้อนรับ
นายอุดม พัวสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี รายงานสรุปภาพรวมการดำเนินงานตามแนวทางยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขจังหวัดอุทัยธานี ปี 2550 สรุปว่า ในปี 2550 รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข สำหรับใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ โดยจัดสรรงบยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขให้แก่จังหวัดอุทัยธานี 2 ครั้ง รวม 83 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่หมู่บ้าน/ชุมชนได้เสนอโครงการที่มีกิจกรรมสอดรับต่อแผนงานด้านเศรษฐกิจพอเพียงเป็นจำนวน 803 โครงการ งบประมาณกว่า 50 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60 ของวงเงินที่ได้รับจัดสรร จังหวัดสามารถดำเนินการได้ตามแผนงานและเบิกจ่ายงบประมาณแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2550 ถือได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของหมู่บ้าน/ชุมชน ที่ได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาของตนเองอย่างเป็นระบบ ตรงตามสภาพปัญหาและสอดคล้องต่อศักยภาพของตนเองอย่างจริงจัง โดยเป็นผลจากการที่คนในหมู่บ้าน/ชุมชน ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมรับผิดชอบ นอกจากนี้ จังหวัดอุทัยธานีได้ใช้แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของรัฐบาล โดยกำหนดเป็นกรอบความคิดในด้านการลดรายจ่ายใน 2 มิติคือ 1. การลดรายจ่ายในอาชีพ ให้แก่เกษตรกร โดยการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เกษตรธรรมชาติ เพื่อลดการใช้สารเคมี ใช้ระบบสหกรณ์ ส่งเสริมการใช้จ่ายอย่างประหยัด ส่งเสริมให้ลด ละ เลิก อบายมุข 2. การลดรายจ่ายประจำวัน โดยริเริ่มโครงการ “ตู้เย็นข้างบ้าน” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกผัก เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เพาะเห็ด ไว้ใช้บริโภคในครอบครัว ซึ่งทำให้ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายพร้อมกล่าวกับประชาชนว่า โครงการอยู่ดีมีสุขที่บ้านห้วยแห้งนี้ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจในการร่วมคิด ร่วมทำ และแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาทั้งหมู่บ้านและตำบล ซึ่งโครงการอยู่ดีมีสุขนี้ จะยังคงมีอยู่ต่อไปอย่างต่อเนื่อง ตามโครงการที่เสนอกับชุมชนหมู่บ้าน ส่วนปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนนั้น รัฐบาลจะร่วมกันแก้ไขให้ดีขึ้น ทั้งนี้ สิ่งที่อยากเห็นเป็นรูปธรรมคือ การมีชุมชนที่เข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด ปลอดอบายมุข และสามารถทำให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างพอเพียงในครอบครัวอย่างมีความสุข พร้อมกันนี้ได้ขอให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิใช้เสียงในการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ และตั้งใจทำความดีถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจงรักภักดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ตัวแทนประชาชน พร้อมเยี่ยมชมโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของตำบลห้วยแห้ง และเยี่ยมชมชุมชนร้านค้าต่าง ๆ เช่นการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ โครงการตู้เย็นข้างบ้าน การเพาะเมล็ดผักต้นกล้า การเลี้ยงปลาในบ่อพลาสติก
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--