รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 18 เรื่อง สิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก ประจำปี 2550 ให้แก่ผู้ที่ทำงานด้านเด็กและสังคมด้วย
วันนี้ เวลา 08.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 18 เรื่อง “สิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” จัดโดยคณะทำงานด้านเด็ก ภาคีองค์กรเพื่อเด็ก สภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เครือข่ายกลุ่มเยาวชน ทั่วประเทศ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมี ผู้แทนเด็กและเยาวชนที่ได้รับเลือกจาการเสวนาส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง ตลอดจนผู้บริหาร และผู้ทำงานด้านเด็กทั้งภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน ประมาณ 500 คน เข้าร่วมงาน
นายเกื้อ แก้วเกตุ รักษาการคณะทำงานด้านเด็ก กล่าวรายงานสรุปสาระสำคัญว่า โครงการ”สิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อให้เกิดความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นลำดับแรก คณะผู้จัดงานซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน ที่เป็นแกนนำในการจัดเวทีสิทธิเด็กปีนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนและหน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นผู้สนับสนุน จึงได้ดำเนินการจัดงานเสวนา เรื่อง “เยาวชนกับเศรษฐกิจพอเพียง” เมื่อวันที่ 24 สิหาคม 2550 ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท โดยองคมนตรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย เป็นองค์ปาฐก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมเสวนา โดยจะนำข้อสรุปดังกล่าวมาใช้ในการเตรียมจัดงาน “เวทีสิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” และต่อมาแกนนำเยาวชนจากภาคต่าง ๆ ได้ประชุมกำหนดให้จัดงานเวทีสิทธิเด็กขึ้นทั้งในระดับภูมิภาค ส่วนกลางและระดับชาติ ดังนี้ ครั้งที่ 1 เสวนาที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ครั้งที่ 2 เสวนาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 3 เสวนาที่ภาคเหนือ ครั้งที่ 4 เสวนาที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง และครั้งที่ 5 เสวนาภาคใต้ แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ในช่วงกำหนดจัดการเสวนาจึงได้นำตัวแทนกลุ่มเยาวชนภาคใต้มาเสวนาที่กรุงเทพมหานครแทน
สำหรับการจัดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 18 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แทนเด็กและเยาวชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้นำเสนอบทสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเวทีส่วนภูมิภาคและเวทีส่วนกลาง เพื่อจะนำไปสู่บทสรุประดับประเทศที่จะเป็นแนวทางสำหรับเด็กและเยาวชนในการปฏิบัติตน พัฒนาลักษณะนิสัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการสร้างพันธะสัญญาร่วมกันอย่างจริงจังในการทำความดีนี้ เพื่อพ่อหลวงของเราในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
โอกาสนี้ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญว่า งานเวทีสิทธิเด็ก เป็นงานที่จัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนของเราได้มีโอกาสมาร่วมกันแสดงพลังสะท้อนความรู้สึก ความคิดเห็น และความปรารถนาในการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็กและเยาวชนเอง รวมทั้งสภาพแวดล้อมรอบในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเปรียบเสมือนการเตรียมตัวเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่เวทีต่าง ๆ ของสังคมต่อไป และขอแสดงความยินดีกับคณะผู้จัดงานที่งานเวทีสิทธิเด็กได้รับการคัดเลือกให้เป็นโครงการหนึ่งที่ร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กและเยาวชนที่จะได้มีโอกาสร่วมทำความดีเพื่อเฉลิมฉลองแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานมีการดำเนินงานเป็นกระบวนการ ทั้งการให้ความรู้ ความคิดและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งจากเวทีในภูมิภาคและเวทีระดับชาติในวันนี้ นับเป็นกระบวนงานที่ดี นอกจากนี้มิใช่เป็นเพียงเวทีทางความคิดเห็นเท่านั้น ยังมีคำมั่นสัญญาที่เด็กและเยาวชนจะมาร่วมกันจัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราสืบไปด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เด็กและเยาวชนคืออนาคตของชาติ” แต่ที่เราเห็นกันมาโดยตลอดคือเด็กเป็นเพียงผู้รับจากการกระทำหรือกิจกรรมที่ผู้ใหญ่จัดให้โดยเด็กมิได้มีส่วนร่วมใด ๆ เลย ปัจจุบันสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปมากและรวดเร็ว ดังเช่น พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและของประชาชนโดยทั่วไปมีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด เนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่อย่างประหยัด เพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปโดยสวัสดี”
ดังนั้น การที่ เด็ก ๆ เข้าร่วมงานเวทีสิทธิเด็กครั้งนี้และได้ร่วมกันจัดทำ “พันธะสัญญาความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา” จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่แสดงถึงศักยภาพของเด็กและเยาวชนไทย ที่เปลี่ยนไปตามกระแสของสังคมเช่นกัน และเป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดี คือ ไม่ใช่ผู้รับอีกต่อไป แต่เป็นผู้ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าและเป็นปัจจุบันแห่งความร่วมมือร่วมใจกัน โดยน้อมรับคำสั่งสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติตัวต่อไป
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี มอบประกาศเกียรติคุณ”ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก ประจำปี 2550” ให้แก่ ศาสตราจารย์วิทิต มันตาภรณ์ สาขานักวิชาการ และนายสิทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ สาขาสื่อมวลชน ทั้งนี้ในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานรับข้อเสนอจากเด็กและเยาวชนที่ได้ร่วมกันนำเสนอบทสรุปจากเวทีสิทธิเด็กภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมร่วมร้องเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน ”ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 08.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 18 เรื่อง “สิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” จัดโดยคณะทำงานด้านเด็ก ภาคีองค์กรเพื่อเด็ก สภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เครือข่ายกลุ่มเยาวชน ทั่วประเทศ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมี ผู้แทนเด็กและเยาวชนที่ได้รับเลือกจาการเสวนาส่วนภูมิภาค และส่วนกลาง ตลอดจนผู้บริหาร และผู้ทำงานด้านเด็กทั้งภาครัฐและเอกชน นักวิชาการ และสื่อมวลชน ประมาณ 500 คน เข้าร่วมงาน
นายเกื้อ แก้วเกตุ รักษาการคณะทำงานด้านเด็ก กล่าวรายงานสรุปสาระสำคัญว่า โครงการ”สิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการฝ่ายโครงการและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เพื่อให้เกิดความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นลำดับแรก คณะผู้จัดงานซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน ที่เป็นแกนนำในการจัดเวทีสิทธิเด็กปีนี้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนและหน่วยงานภาครัฐซึ่งเป็นผู้สนับสนุน จึงได้ดำเนินการจัดงานเสวนา เรื่อง “เยาวชนกับเศรษฐกิจพอเพียง” เมื่อวันที่ 24 สิหาคม 2550 ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท โดยองคมนตรี ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย เป็นองค์ปาฐก เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้าร่วมเสวนา โดยจะนำข้อสรุปดังกล่าวมาใช้ในการเตรียมจัดงาน “เวทีสิทธิเด็กกับเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพ่อหลวงของเรา” และต่อมาแกนนำเยาวชนจากภาคต่าง ๆ ได้ประชุมกำหนดให้จัดงานเวทีสิทธิเด็กขึ้นทั้งในระดับภูมิภาค ส่วนกลางและระดับชาติ ดังนี้ ครั้งที่ 1 เสวนาที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ครั้งที่ 2 เสวนาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 3 เสวนาที่ภาคเหนือ ครั้งที่ 4 เสวนาที่ภาคตะวันออกและภาคกลาง และครั้งที่ 5 เสวนาภาคใต้ แต่เนื่องจากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ในช่วงกำหนดจัดการเสวนาจึงได้นำตัวแทนกลุ่มเยาวชนภาคใต้มาเสวนาที่กรุงเทพมหานครแทน
สำหรับการจัดงานเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 18 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้แทนเด็กและเยาวชนจากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ ได้นำเสนอบทสรุปความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเวทีส่วนภูมิภาคและเวทีส่วนกลาง เพื่อจะนำไปสู่บทสรุประดับประเทศที่จะเป็นแนวทางสำหรับเด็กและเยาวชนในการปฏิบัติตน พัฒนาลักษณะนิสัยตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเน้นการสร้างพันธะสัญญาร่วมกันอย่างจริงจังในการทำความดีนี้ เพื่อพ่อหลวงของเราในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา
โอกาสนี้ นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญว่า งานเวทีสิทธิเด็ก เป็นงานที่จัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อเป็นเวทีให้เด็กและเยาวชนของเราได้มีโอกาสมาร่วมกันแสดงพลังสะท้อนความรู้สึก ความคิดเห็น และความปรารถนาในการมีส่วนร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับตัวเด็กและเยาวชนเอง รวมทั้งสภาพแวดล้อมรอบในสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเปรียบเสมือนการเตรียมตัวเด็กและเยาวชนเพื่อเข้าสู่เวทีต่าง ๆ ของสังคมต่อไป และขอแสดงความยินดีกับคณะผู้จัดงานที่งานเวทีสิทธิเด็กได้รับการคัดเลือกให้เป็นโครงการหนึ่งที่ร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในปีนี้ ซึ่งนับเป็นโอกาสดีสำหรับเด็กและเยาวชนที่จะได้มีโอกาสร่วมทำความดีเพื่อเฉลิมฉลองแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การจัดงานมีการดำเนินงานเป็นกระบวนการ ทั้งการให้ความรู้ ความคิดและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทั้งจากเวทีในภูมิภาคและเวทีระดับชาติในวันนี้ นับเป็นกระบวนงานที่ดี นอกจากนี้มิใช่เป็นเพียงเวทีทางความคิดเห็นเท่านั้น ยังมีคำมั่นสัญญาที่เด็กและเยาวชนจะมาร่วมกันจัดทำขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราสืบไปด้วย ทั้งนี้ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เด็กและเยาวชนคืออนาคตของชาติ” แต่ที่เราเห็นกันมาโดยตลอดคือเด็กเป็นเพียงผู้รับจากการกระทำหรือกิจกรรมที่ผู้ใหญ่จัดให้โดยเด็กมิได้มีส่วนร่วมใด ๆ เลย ปัจจุบันสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปมากและรวดเร็ว ดังเช่น พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและของประชาชนโดยทั่วไปมีความเปลี่ยนแปลงมาตลอด เนื่องจากความวิปริตผันแปรของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่อย่างประหยัด เพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวหน้าต่อไปโดยสวัสดี”
ดังนั้น การที่ เด็ก ๆ เข้าร่วมงานเวทีสิทธิเด็กครั้งนี้และได้ร่วมกันจัดทำ “พันธะสัญญาความดีเพื่อพ่อหลวงของเรา” จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งที่แสดงถึงศักยภาพของเด็กและเยาวชนไทย ที่เปลี่ยนไปตามกระแสของสังคมเช่นกัน และเป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดี คือ ไม่ใช่ผู้รับอีกต่อไป แต่เป็นผู้ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าและเป็นปัจจุบันแห่งความร่วมมือร่วมใจกัน โดยน้อมรับคำสั่งสอนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อนำมาเป็นแนวทางปฏิบัติตัวต่อไป
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี มอบประกาศเกียรติคุณ”ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก ประจำปี 2550” ให้แก่ ศาสตราจารย์วิทิต มันตาภรณ์ สาขานักวิชาการ และนายสิทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ สาขาสื่อมวลชน ทั้งนี้ในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานรับข้อเสนอจากเด็กและเยาวชนที่ได้ร่วมกันนำเสนอบทสรุปจากเวทีสิทธิเด็กภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมร่วมร้องเพลง “พ่อแห่งแผ่นดิน ”ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--