แท็ก
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ทรัพยากรธรรมชาติ
กระทรวงมหาดไทย
นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีเยี่ยมค่ายเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และร่วมพิธีปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ที่ทุ่งกะมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมชมค่ายเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น “สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ ลดภาวะโลกร้อน” (รำลึกช้าง ปี 2550) ณ ค่ายสุรัสวดี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จัดโดยมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ และองค์กรเครือข่ายสิ่งแวดล้อมหลายองค์กร ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่แม่ช้างและลูกได้พลัดตกเหว เมื่อเดือนสิงหาคม 2535 รวมทั้งให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน
โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเยาวชน จากนั้นตัวแทนเยาวชนมอบหนังสือทำมือที่ร่วมกันทำให้แก่นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้ลงนามบนผืนผ้ากับผู้ร่วมงาน เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมบทเพลงไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสีย
จากนั้น เวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ตามโครงการเพิ่มพันธุกรรมและปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งกะมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อำเภอคอนสารจังหวัดชัยภูมิ
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานว่า เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2550 อนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุกรรมประชากรสัตว์ป่า และเพื่อศึกษา วิจัย ตรวจสอบ ติดตามและรวบรวมสายพันธุ์สัตว์ป่าที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่มีอยู่ เข้าสู่ระบบฐานข้อมูล และใช้ประโยชน์ในการเพาะขยายพันธุ์และเพิ่มพันธุกรรมสัตว์ป่าในกรงเลี้ยงและในธรรมชาติต่อไป ซึ่งโครงการเพิ่มพันธุกรรมและปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550 และจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2555 เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับในระยะแรกได้มีการประชาสัมพันธ์โครงการ ศึกษา รวบรวมข้อมูลของพื้นที่ดำเนินการ จัดเตรียมสัตว์ป่า จัดเตรียมกรงสัตว์ป่า ควบคุมดูแลและฝึกสัตว์ป่าในกรงเตรียมปล่อย ซึ่งในวันนี้ได้จัดให้มีพิธีปล่อยสัตว์ป่า ประกอบด้วย เนื้อทราย จำนวน 9 ตัว นกยูง จำนวน 9 ตัว และไก่ฟ้าพญาลอ จำนวน 81 ตัว โดยสัตว์ป่าที่ได้รับคัดเลือกมาปล่อยทุกตัวได้รับการตรวจสุขภาพทำเครื่องหมายและติดวิทยุติดตามตัว ตลอดจนได้มีการฝึกให้ปรับสภาพและมีพฤติกรรมเป็นสัตว์ป่าก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งหลังจากการปล่อยสัตว์ป่าในวันนี้แล้วจะมีการติดตามประเมินผล ศึกษาวิจัยและนำผลที่ได้ไปเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์ในการเพาะขยายพันธุ์สัตว่ป่า และรณรงค์ให้ความรู้ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าแก่ประชาชนและเยาวชนทั่วไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวนำถวายพระพร และนำร้องเพลงสดุดีมหาราชา จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อได้เสด็จพระราชดำเนินไปในสถานที่แห่งใด ก็จะทรงแสดงความห่วงใยและรับสั่งให้ข้าราชการหรือประชาชนช่วยกันดูแลฟื้นฟูสภาพป่า รวมทั้งช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า นอกจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงแสดงความห่วงใยถึงการลดลงของพื้นที่ป่าไม้ และทรงมีกระแสพระราชดำรัสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการป้องกันรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งทรงให้ความสำคัญและแสดงความห่วงใยมาโดยตลอด จะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงพระเมตตาห่วงใยสัตว์ป่า
เสร็จแล้ว นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวนำปฏิญาณตนเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า และให้สัจจะว่า “จะช่วยกันร่วมมือร่วมใจในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าต่อไปของประชาชนที่อาศัยบริเวณโดยรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว” และนายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติและร่วมกันทำแหล่งอาหารสัตว์ป่า (โป่งเทียม) ด้วย
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้าได้มีพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินโดยพราหมณ์ พิธีสู่ขวัญบายศรีสัตว์ป่าที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติโดยหมอขวัญ และพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพล
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาเยี่ยมชมค่ายเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่น “สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์ ลดภาวะโลกร้อน” (รำลึกช้าง ปี 2550) ณ ค่ายสุรัสวดี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา จัดโดยมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกลุ่มรักษ์เขาใหญ่ และองค์กรเครือข่ายสิ่งแวดล้อมหลายองค์กร ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่แม่ช้างและลูกได้พลัดตกเหว เมื่อเดือนสิงหาคม 2535 รวมทั้งให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาสภาวะโลกร้อน
โดยนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเยาวชน จากนั้นตัวแทนเยาวชนมอบหนังสือทำมือที่ร่วมกันทำให้แก่นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีได้ลงนามบนผืนผ้ากับผู้ร่วมงาน เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมบทเพลงไว้อาลัยให้กับผู้สูญเสีย
จากนั้น เวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ ตามโครงการเพิ่มพันธุกรรมและปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ หน่วยพิทักษ์ป่าทุ่งกะมัง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อำเภอคอนสารจังหวัดชัยภูมิ
นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานว่า เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา ในปีพุทธศักราช 2550 อนุรักษ์และฟื้นฟูพันธุกรรมประชากรสัตว์ป่า และเพื่อศึกษา วิจัย ตรวจสอบ ติดตามและรวบรวมสายพันธุ์สัตว์ป่าที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่มีอยู่ เข้าสู่ระบบฐานข้อมูล และใช้ประโยชน์ในการเพาะขยายพันธุ์และเพิ่มพันธุกรรมสัตว์ป่าในกรงเลี้ยงและในธรรมชาติต่อไป ซึ่งโครงการเพิ่มพันธุกรรมและปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2550 และจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2555 เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับในระยะแรกได้มีการประชาสัมพันธ์โครงการ ศึกษา รวบรวมข้อมูลของพื้นที่ดำเนินการ จัดเตรียมสัตว์ป่า จัดเตรียมกรงสัตว์ป่า ควบคุมดูแลและฝึกสัตว์ป่าในกรงเตรียมปล่อย ซึ่งในวันนี้ได้จัดให้มีพิธีปล่อยสัตว์ป่า ประกอบด้วย เนื้อทราย จำนวน 9 ตัว นกยูง จำนวน 9 ตัว และไก่ฟ้าพญาลอ จำนวน 81 ตัว โดยสัตว์ป่าที่ได้รับคัดเลือกมาปล่อยทุกตัวได้รับการตรวจสุขภาพทำเครื่องหมายและติดวิทยุติดตามตัว ตลอดจนได้มีการฝึกให้ปรับสภาพและมีพฤติกรรมเป็นสัตว์ป่าก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งหลังจากการปล่อยสัตว์ป่าในวันนี้แล้วจะมีการติดตามประเมินผล ศึกษาวิจัยและนำผลที่ได้ไปเข้าสู่ระบบฐานข้อมูล เพื่อใช้ประโยชน์ในการเพาะขยายพันธุ์สัตว่ป่า และรณรงค์ให้ความรู้ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าแก่ประชาชนและเยาวชนทั่วไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกล่าวนำถวายพระพร และนำร้องเพลงสดุดีมหาราชา จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อได้เสด็จพระราชดำเนินไปในสถานที่แห่งใด ก็จะทรงแสดงความห่วงใยและรับสั่งให้ข้าราชการหรือประชาชนช่วยกันดูแลฟื้นฟูสภาพป่า รวมทั้งช่วยกันอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า นอกจากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงแสดงความห่วงใยถึงการลดลงของพื้นที่ป่าไม้ และทรงมีกระแสพระราชดำรัสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการป้องกันรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งทรงให้ความสำคัญและแสดงความห่วงใยมาโดยตลอด จะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงพระเมตตาห่วงใยสัตว์ป่า
เสร็จแล้ว นายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวนำปฏิญาณตนเพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า และให้สัจจะว่า “จะช่วยกันร่วมมือร่วมใจในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าต่อไปของประชาชนที่อาศัยบริเวณโดยรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว” และนายกรัฐมนตรีได้ร่วมกับข้าราชการและประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมกันปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติและร่วมกันทำแหล่งอาหารสัตว์ป่า (โป่งเทียม) ด้วย
ก่อนหน้านี้ ในช่วงเช้าได้มีพิธีบวงสรวงเทพยดาฟ้าดินโดยพราหมณ์ พิธีสู่ขวัญบายศรีสัตว์ป่าที่จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติโดยหมอขวัญ และพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเพล
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--