นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีผลิตไบโอดีเซล ตามโครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทน ของสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.2550) เวลา 17.10 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีผลิตไบโอดีเซล ของสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์และการดำเนินงานตามโครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทน ว่า โครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทน เป็นโครงการหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ดำเนินการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 อีกทั้งยังเป็นการสนองแนวพระราชดำริเกี่ยวกับการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งเมื่อปี 2526 ได้ทรงนำน้ำมันปาล์มมาทดลองใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลและได้พัฒนาจนเป็นผลสำเร็จ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของพลังงานทดแทนดังกล่าว มาดำเนินการจัดทำ “โครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ขึ้น โดยได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีและติดตั้งเครื่องมือในการผลิตไบโอดีเซลตามสถานีตำรวจต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปใช้กับรถยนต์สายตรวจ ซึ่งจะดำเนินการให้ครบ 80 แห่ง ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นี้ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากภาคราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ประชาชน ตลอดจนข้าราชการตำรวจและครอบครัว ที่ได้ร่วมกันบริจาคเครื่องมือ รวมทั้งนำน้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณของแผ่นดินได้เป็นจำนวนมากแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์สายตรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนด้วย เสร็จแล้ว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมความสำเร็จของโครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทำให้เกิดสถานีผลิตไบโอดีเซลขึ้นที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นโครงการหนึ่งที่ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทำให้ข้าราชการตำรวจได้มีโอกาสร่วมกันสนองพระราชดำริอย่างเต็มกำลังความ สามารถ และแสดงให้เห็นว่าข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกที่จะร่วมกันประหยัดพลังงานและประหยัดงบประมาณของประเทศอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะคงราคาอยู่ในระดับนี้อีกเป็นเวลานาน ทำให้เกิดผลกระทบทั้งต่อประชาชน และข้าราชการ ซึ่งจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการติดต่อราชการ ขณะเดียวกัน ประเทศชาติก็ต้องสูญเสียเงินตราในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การนำพลังงานทดแทนมาใช้ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลนี้ เป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลสนับสนุน และเป็นผลดีทั้งต่อเกษตรกร การลดมลพิษทางอากาศและลดภาวะโลกร้อนไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่นำมาใช้นี้นอกจากจะไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจตราลาดตระเวนของรถยนต์สายตรวจทั้งในด้านระยะเวลาและระยะทาง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการป้องกัน ปราบปราม และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยส่วนรวมต่อไปด้วย เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดสถานีผลิตไบโอดีเซล และเดินทางกลับในเย็นวันเดียวกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อวานนี้ (27 พ.ย.2550) เวลา 17.10 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีผลิตไบโอดีเซล ของสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์และการดำเนินงานตามโครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทน ว่า โครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทน เป็นโครงการหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ดำเนินการเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 อีกทั้งยังเป็นการสนองแนวพระราชดำริเกี่ยวกับการใช้พลังงานทดแทน ซึ่งเมื่อปี 2526 ได้ทรงนำน้ำมันปาล์มมาทดลองใช้ในเครื่องยนต์ดีเซลและได้พัฒนาจนเป็นผลสำเร็จ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของพลังงานทดแทนดังกล่าว มาดำเนินการจัดทำ “โครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ขึ้น โดยได้ดำเนินการก่อสร้างสถานีและติดตั้งเครื่องมือในการผลิตไบโอดีเซลตามสถานีตำรวจต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อนำไปใช้กับรถยนต์สายตรวจ ซึ่งจะดำเนินการให้ครบ 80 แห่ง ภายในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นี้ ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งจากภาคราชการ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ประชาชน ตลอดจนข้าราชการตำรวจและครอบครัว ที่ได้ร่วมกันบริจาคเครื่องมือ รวมทั้งนำน้ำมันพืชและน้ำมันสัตว์ที่ใช้แล้วมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดงบประมาณของแผ่นดินได้เป็นจำนวนมากแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และเพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์สายตรวจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนด้วย เสร็จแล้ว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีและชื่นชมความสำเร็จของโครงการอนุรักษ์พลังงานการใช้พลังงานทดแทนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งทำให้เกิดสถานีผลิตไบโอดีเซลขึ้นที่สถานีตำรวจต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นโครงการหนึ่งที่ร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ทำให้ข้าราชการตำรวจได้มีโอกาสร่วมกันสนองพระราชดำริอย่างเต็มกำลังความ สามารถ และแสดงให้เห็นว่าข้าราชการตำรวจมีจิตสำนึกที่จะร่วมกันประหยัดพลังงานและประหยัดงบประมาณของประเทศอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงของโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะคงราคาอยู่ในระดับนี้อีกเป็นเวลานาน ทำให้เกิดผลกระทบทั้งต่อประชาชน และข้าราชการ ซึ่งจำเป็นต้องใช้รถยนต์ในการติดต่อราชการ ขณะเดียวกัน ประเทศชาติก็ต้องสูญเสียเงินตราในการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การนำพลังงานทดแทนมาใช้ จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถลดการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไบโอดีเซลนี้ เป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลสนับสนุน และเป็นผลดีทั้งต่อเกษตรกร การลดมลพิษทางอากาศและลดภาวะโลกร้อนไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม มาตรการที่นำมาใช้นี้นอกจากจะไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจตราลาดตระเวนของรถยนต์สายตรวจทั้งในด้านระยะเวลาและระยะทาง ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการป้องกัน ปราบปราม และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยส่วนรวมต่อไปด้วย เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีเปิดสถานีผลิตไบโอดีเซล และเดินทางกลับในเย็นวันเดียวกัน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--