นายกรัฐมนตรีระบุสตช.และกกต.ประสานกันอย่างใกล้ชิดในการดูแลความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้บ้านเมืองผ่านห้วงวิกฤติ
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนด้านข้อมูล และจากการที่ได้ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้ทราบว่ามีการประสานระหว่าง สตช.และกกต. อย่างใกล้ชิด ดังนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ กกต.ได้ให้แนวทางและรายละเอียดในการทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งจะเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลจะเตรียมรับมืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคงไม่ได้มองในประเด็นนั้น เพราะเป็นเพียงการประเมิน แต่คิดว่าสิ่งที่เราจะช่วยกันได้คือการทำให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ถ้าหากจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเราผ่านพ้นห้วงเวลาวิกฤติไปได้ และมีการเข้ามาบริหารงานกันได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ไม่อยากให้คนไทยมองในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา อยากให้เรามองกันในแง่ดีบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่มีท่าทีไม่สมานฉันท์กันจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น ถ้าหากเรามองว่าเราอาจจะมีความแตกต่าง แต่ไม่ควรจะมีความแตกแยก ส่วนที่ว่าโพลหลายสำนักระบุว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เสียงข้างมากและได้จัดตั้งรัฐบาล จะถือว่าการทำรัฐประหารที่ผ่านมาล้มเหลวหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ตอบไปหลายครั้งแล้วว่าต้องอยู่ที่ประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสิน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการเลือกตั้งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนด้านข้อมูล และจากการที่ได้ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ได้ทราบว่ามีการประสานระหว่าง สตช.และกกต. อย่างใกล้ชิด ดังนั้น ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ กกต.ได้ให้แนวทางและรายละเอียดในการทำงานได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่าสถานการณ์ทางการเมืองหลังการเลือกตั้งจะเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลจะเตรียมรับมืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลคงไม่ได้มองในประเด็นนั้น เพราะเป็นเพียงการประเมิน แต่คิดว่าสิ่งที่เราจะช่วยกันได้คือการทำให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพ โดยเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ถ้าหากจะช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเราผ่านพ้นห้วงเวลาวิกฤติไปได้ และมีการเข้ามาบริหารงานกันได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง ไม่อยากให้คนไทยมองในแง่ร้ายอยู่ตลอดเวลา อยากให้เรามองกันในแง่ดีบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคการเมืองต่าง ๆ ที่มีท่าทีไม่สมานฉันท์กันจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น ถ้าหากเรามองว่าเราอาจจะมีความแตกต่าง แต่ไม่ควรจะมีความแตกแยก ส่วนที่ว่าโพลหลายสำนักระบุว่าพรรคพลังประชาชนจะได้เสียงข้างมากและได้จัดตั้งรัฐบาล จะถือว่าการทำรัฐประหารที่ผ่านมาล้มเหลวหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ตอบไปหลายครั้งแล้วว่าต้องอยู่ที่ประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสิน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--