นายกรัฐมนตรีกล่าวคำปราศรัยในงานสัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
เมื่อเวลา 20.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัยในงานสัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้
พี่น้องประชาชนที่รักทั้งหลาย
ปี 2550 นี้ เป็นปีมหามงคลยิ่งใหญ่อีกวาระหนึ่งของปวงชนชาวไทย เนื่องจากเป็นศุภมงคลโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ผู้ทรง พระคุณอันประเสริฐและทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติได้ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งนอกจากปวงชนพสกนิกรจะมีความปีติโสมนัสท่วมท้น และร่วมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี ตลอดปีมหามงคลนี้แล้ว คณะอนุกรรมการส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ยังได้เห็น สมควรให้จัดงาน “สัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม” เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระบรมราโชวาทด้านศาสนา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในปี มหามงคลนี้ด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกที่ได้พระราชทานความคุ้มครองและอุปถัมภ์ บำรุงแก่ทุกศาสนามาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน นับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ตั้งแต่เมื่อปีพุทธศักราช 2489 เป็นต้นมาจวบจนปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 60 ปี ซึ่งประเทศไทยของเรานี้ทุกศาสนาสามารถดำเนินภารกิจของตนได้อย่างอิสระและเท่าเทียมกัน ศาสนิกชนของแต่ละศาสนาสามารถประกอบศาสนพิธี ศาสนกิจ และเผยแผ่ศาสนธรรมได้โดยเสรี รวมทั้งสามารถเสริมสร้างศาสนสัมพันธ์อันดีภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ตลอดระยะเวลาอันต่อเนื่องยาวนาน ศาสนาจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของชาติ ส่งเสริม ความมั่นคงของประเทศและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมนอกเหนือจากปัจจัยอื่น ๆ
รัฐบาลโดยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวกับศาสนา และจริยธรรมมาเป็นแนวทาง ในการจัดทำ “แผนทำนุบำรุงส่งเสริมศาสนาและจริยธรรมแห่งชาติ” เพื่อให้คนไทยได้มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนา สามารถนำศาสนธรรมไปใช้ปฏิบัติในการดำรงชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่การงาน เพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้า มีศาสนาเป็นเครื่องนำทางในวิถีการดำรงตน ให้ศาสนธรรมเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาคน สังคม และประเทศชาติ ให้มีความสามัคคี ความสงบสุข และความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์อย่างสมดุลและยั่งยืน นำไป สู่ความเจริญงอกงามของคุณความดีของประชากร และความมั่งคั่งมั่นคงของชาติบ้านเมืองสืบต่อไป
เนื่องในปีมหามงคลพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2550 นี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้อง ร่วมชาติให้คิดดี พูดดี ทำดี และลงมือทำตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสร้างความดีถวายในหลวง และร่วมกันนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นจากวิกฤตต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ขอให้ทุกคนตั้งปณิธานมุ่งมั่นที่จะถือศาสนธรรมเป็นธงชัยในวิถีชีวิต มีความตั้งใจ เอาใจใส่อย่างจริงจัง และไม่ท้อแท้ ที่จะทำความดีเป็นอาจิณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
ในท้ายที่สุดนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมงาน “สัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม" โดยพร้อมเพรียงกัน และขอให้ร่วมกันตั้งจิตพร้อมน้อมอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงแคล้วคลาดจากสรรพโรคาพาธและอุปัทวันตรายทุกประการ ขอให้ทรงเจริญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระสิริวรรณชัชวาลอยู่เป็นนิตย์ สถิตเสถียรในสิริราชสมบัติด้วยพระบรมสุขสถาพร ตลอดกาลนานเทอญ
สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 20.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัยในงานสัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ดังนี้
พี่น้องประชาชนที่รักทั้งหลาย
ปี 2550 นี้ เป็นปีมหามงคลยิ่งใหญ่อีกวาระหนึ่งของปวงชนชาวไทย เนื่องจากเป็นศุภมงคลโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระมหากษัตริย์ผู้ทรง พระคุณอันประเสริฐและทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติได้ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ซึ่งนอกจากปวงชนพสกนิกรจะมีความปีติโสมนัสท่วมท้น และร่วมใจกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ แสดงความจงรักภักดี ตลอดปีมหามงคลนี้แล้ว คณะอนุกรรมการส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ยังได้เห็น สมควรให้จัดงาน “สัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม” เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระบรมราโชวาทด้านศาสนา เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญในปี มหามงคลนี้ด้วย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภกที่ได้พระราชทานความคุ้มครองและอุปถัมภ์ บำรุงแก่ทุกศาสนามาโดยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน นับแต่เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ ตั้งแต่เมื่อปีพุทธศักราช 2489 เป็นต้นมาจวบจนปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 60 ปี ซึ่งประเทศไทยของเรานี้ทุกศาสนาสามารถดำเนินภารกิจของตนได้อย่างอิสระและเท่าเทียมกัน ศาสนิกชนของแต่ละศาสนาสามารถประกอบศาสนพิธี ศาสนกิจ และเผยแผ่ศาสนธรรมได้โดยเสรี รวมทั้งสามารถเสริมสร้างศาสนสัมพันธ์อันดีภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้อย่างกว้างขวาง ทำให้ตลอดระยะเวลาอันต่อเนื่องยาวนาน ศาสนาจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพของชาติ ส่งเสริม ความมั่นคงของประเทศและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมนอกเหนือจากปัจจัยอื่น ๆ
รัฐบาลโดยคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวที่เกี่ยวกับศาสนา และจริยธรรมมาเป็นแนวทาง ในการจัดทำ “แผนทำนุบำรุงส่งเสริมศาสนาและจริยธรรมแห่งชาติ” เพื่อให้คนไทยได้มีความรู้ ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับศาสนา สามารถนำศาสนธรรมไปใช้ปฏิบัติในการดำรงชีวิต และการปฏิบัติหน้าที่การงาน เพื่อให้มีความเจริญก้าวหน้า มีศาสนาเป็นเครื่องนำทางในวิถีการดำรงตน ให้ศาสนธรรมเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์และพัฒนาคน สังคม และประเทศชาติ ให้มีความสามัคคี ความสงบสุข และความเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์อย่างสมดุลและยั่งยืน นำไป สู่ความเจริญงอกงามของคุณความดีของประชากร และความมั่งคั่งมั่นคงของชาติบ้านเมืองสืบต่อไป
เนื่องในปีมหามงคลพิเศษที่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2550 นี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้อง ร่วมชาติให้คิดดี พูดดี ทำดี และลงมือทำตั้งแต่บัดนี้ เพื่อสร้างความดีถวายในหลวง และร่วมกันนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นจากวิกฤตต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ขอให้ทุกคนตั้งปณิธานมุ่งมั่นที่จะถือศาสนธรรมเป็นธงชัยในวิถีชีวิต มีความตั้งใจ เอาใจใส่อย่างจริงจัง และไม่ท้อแท้ ที่จะทำความดีเป็นอาจิณ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้
ในท้ายที่สุดนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมงาน “สัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรม" โดยพร้อมเพรียงกัน และขอให้ร่วมกันตั้งจิตพร้อมน้อมอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดอภิบาลบันดาลดลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงแคล้วคลาดจากสรรพโรคาพาธและอุปัทวันตรายทุกประการ ขอให้ทรงเจริญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ทรงพระสิริวรรณชัชวาลอยู่เป็นนิตย์ สถิตเสถียรในสิริราชสมบัติด้วยพระบรมสุขสถาพร ตลอดกาลนานเทอญ
สวัสดีครับ
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--