นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออก เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ เวลา 13.30 น. นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออก เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน ที่ได้นำผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออกเข้าพบนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ได้ต้อนรับทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลไทยกับคนรุ่นใหม่ในการเชื่อมโยงมิตรภาพและความร่วมมือกันภายในภูมิภาค
ประเทศไทย มีความยิ่งดีอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออก ซึ่งการร่วมการประชุมในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่เยาวชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีโอกาสพปปะและเรียนรู้กันและกันและมาร่วมกันพูดถึงอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นอนาคตของทุกท่าน ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญต่อการส่งเสริมให้ชื่นชมและเข้าใจอันดีต่อจุดร่วมและจุดต่างของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ผ่านช่องทางการประชุมในเวทีนี้ และผ่านทุกท่านในที่นี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า เครื่อข่ายแห่งมิตรภาพของเพื่อนและผู้นำในอนาคตจะพัฒนาต่อไปและเป็นรากฐานที่สร้างให้ประชาคมในภูมิภาคมีความหมายอย่างยิ่งในทศวรรษหน้า
ในทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีได้ช่วยให้ลดความแตกต่างทางการเมืองในภูมิภาคลง และบรรเทาภัยคุกคามอันหลากหลายในสังคม อาทิ ภัยจากโรคร้ายต่างๆ จากยาเสพติด และจากการก่อการร้าย ยิ่งกว่านั้นเราต่างร่วมซาบซึ้งซึ่งกันและกัน อย่างน้อยก็จาก วัฒนธรรมร่วมสมัย อาหาร แฟชั่น วรรณกรรมและการท่องเที่ยว ดังที่ท่านได้เห็นจากกรุงเทพว่าสังคมที่นี่ได้เปลี่ยนไปอย่างไรจากการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้น การรู้สึกเป็นเจ้าของภูมิภาคก็มีมากขึ้นและมีเป้าหมายร่วมกันของพวกเรา เป็นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรี ได้เห็นพ้องกับบรรดาผู้นำของภูมิภาคนี้ในการยอมรับต่อวิสัยทัศน์ทีจะสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีสันติภาพ มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความเจริญรุ่งเรือง
ในทศวรรษหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของเอเชีย ซึ่งจะต้องเผชิญพร้อมไปกับการเรียนรู้ว่าจะต้องรับมือกับมันเช่นไร เอเชียตะวันออกจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเกิดขึ้น เยาวชนทั้งหลายที่จะเป็นผู้นำในอนาคต มีหน้าที่ต้องดูแลว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะไม่ทำลายแผ่นดิน ความรู้และเทคโนโลยี จะต้องไม่ทำลายธรรมชาติ มิฉะนั้นคนรุ่นหลังจะต้องประสบกับปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างใหญ่หลวง
นายกรัฐมนตรีมีความพอใจที่พวกคณะเยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหวังว่าจะนำความรู้ที่ได้รับจากการไปเยี่ยมชมโครงการมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะการเรียนรู้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ผู้นำที่ดีจะต้องนำสิ่งที่เค้าเรียนรู้ไปปฏิบัติด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน เหมาะสมที่เยาวชนจะได้เรียนรู้จากประเทศไทยถึงความล้มเหลว และความสำเร็จ ซึ่งการเจริญเติบโตนั้นมักจะมีความเจ็บปวดอยู่ด้วยเสมอ ไทยได้เรียนรู้ว่า นโยบายที่ไม่ได้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางนั้น ไม่ยั่งยืนในระยะยาว แต่การรณรงค์การเลือกตั้งในประเทศไทยที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ในขณะนี้ ทำให้สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าประเทศไทยนั้นกำลังมุ่งสู่อนาคตที่เข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตย
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความหวังว่า เยาวชนจะกลับบ้าน พร้อมด้วยความทรงจำเกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยที่ได้พบ ทุกคนคือทูตความร่วมมือของเอเชียตะวันออก และขอสนับสนุนให้ทุกคนได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ ญาติ พี่น้องเมื่อกลับไปถึงบ้าน ยิ่งไปกว่านี้ เป็นที่น่ายินดีที่การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ประกาศว่า สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพการแลกเปลี่ยนเยาวชนในลักษณะนี้ปีหน้า ทั้งนี้ ในการประชุมผู้นำที่สิงคโปร์ การหารือให้สำคัญในเรื่องประโยชน์ของการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดียิ่งขึ้น ผู้นำต่างๆในยุคนี้ ต่างยืนหัดดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเยาวชน และผู้นำในอนาคต เพื่ออนาคตที่สดใส พร้อมด้วยชุมชนภูมิภาคที่เอื้ออาทรกันและผูกร้อยกันไว้อย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้เยาวชนประสบความสำเร็จในการศึกษาและ เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย พร้อมทั้ง นำจิตวิญญาณของความร่วมมือและความเป็นผู้นำของเอเชียตะวันออกกลับไปด้วย เพื่อความสงบ ความปรองดอง และความรุ่งเรือง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.30 น. นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออก เข้าเยี่ยมคารวะพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณ ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน ที่ได้นำผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออกเข้าพบนายกรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีความยินดีที่ได้ต้อนรับทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง และเชื่อว่า การเดินทางมาเยือนประเทศไทยในครั้งนี้สะท้อนถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลไทยกับคนรุ่นใหม่ในการเชื่อมโยงมิตรภาพและความร่วมมือกันภายในภูมิภาค
ประเทศไทย มีความยิ่งดีอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเยาวชนเอเชียตะวันออก ซึ่งการร่วมการประชุมในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่เยาวชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีโอกาสพปปะและเรียนรู้กันและกันและมาร่วมกันพูดถึงอนาคตข้างหน้า ซึ่งเป็นอนาคตของทุกท่าน ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญต่อการส่งเสริมให้ชื่นชมและเข้าใจอันดีต่อจุดร่วมและจุดต่างของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ผ่านช่องทางการประชุมในเวทีนี้ และผ่านทุกท่านในที่นี้ นายกรัฐมนตรีหวังว่า เครื่อข่ายแห่งมิตรภาพของเพื่อนและผู้นำในอนาคตจะพัฒนาต่อไปและเป็นรากฐานที่สร้างให้ประชาคมในภูมิภาคมีความหมายอย่างยิ่งในทศวรรษหน้า
ในทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลีได้ช่วยให้ลดความแตกต่างทางการเมืองในภูมิภาคลง และบรรเทาภัยคุกคามอันหลากหลายในสังคม อาทิ ภัยจากโรคร้ายต่างๆ จากยาเสพติด และจากการก่อการร้าย ยิ่งกว่านั้นเราต่างร่วมซาบซึ้งซึ่งกันและกัน อย่างน้อยก็จาก วัฒนธรรมร่วมสมัย อาหาร แฟชั่น วรรณกรรมและการท่องเที่ยว ดังที่ท่านได้เห็นจากกรุงเทพว่าสังคมที่นี่ได้เปลี่ยนไปอย่างไรจากการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้น การรู้สึกเป็นเจ้าของภูมิภาคก็มีมากขึ้นและมีเป้าหมายร่วมกันของพวกเรา เป็นเหตุผลที่นายกรัฐมนตรี ได้เห็นพ้องกับบรรดาผู้นำของภูมิภาคนี้ในการยอมรับต่อวิสัยทัศน์ทีจะสร้างภูมิภาคเอเชียตะวันออกที่มีสันติภาพ มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความเจริญรุ่งเรือง
ในทศวรรษหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของเอเชีย ซึ่งจะต้องเผชิญพร้อมไปกับการเรียนรู้ว่าจะต้องรับมือกับมันเช่นไร เอเชียตะวันออกจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในด้านเศรษฐกิจ นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ จะเกิดขึ้น เยาวชนทั้งหลายที่จะเป็นผู้นำในอนาคต มีหน้าที่ต้องดูแลว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะไม่ทำลายแผ่นดิน ความรู้และเทคโนโลยี จะต้องไม่ทำลายธรรมชาติ มิฉะนั้นคนรุ่นหลังจะต้องประสบกับปัญหาสภาพแวดล้อมอย่างใหญ่หลวง
นายกรัฐมนตรีมีความพอใจที่พวกคณะเยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหวังว่าจะนำความรู้ที่ได้รับจากการไปเยี่ยมชมโครงการมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะการเรียนรู้เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ผู้นำที่ดีจะต้องนำสิ่งที่เค้าเรียนรู้ไปปฏิบัติด้วย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน เหมาะสมที่เยาวชนจะได้เรียนรู้จากประเทศไทยถึงความล้มเหลว และความสำเร็จ ซึ่งการเจริญเติบโตนั้นมักจะมีความเจ็บปวดอยู่ด้วยเสมอ ไทยได้เรียนรู้ว่า นโยบายที่ไม่ได้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางนั้น ไม่ยั่งยืนในระยะยาว แต่การรณรงค์การเลือกตั้งในประเทศไทยที่ดำเนินการอย่างเต็มที่ในขณะนี้ ทำให้สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าประเทศไทยนั้นกำลังมุ่งสู่อนาคตที่เข้มแข็งและเป็นประชาธิปไตย
ในการนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความหวังว่า เยาวชนจะกลับบ้าน พร้อมด้วยความทรงจำเกี่ยวกับประเทศไทยและคนไทยที่ได้พบ ทุกคนคือทูตความร่วมมือของเอเชียตะวันออก และขอสนับสนุนให้ทุกคนได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ ญาติ พี่น้องเมื่อกลับไปถึงบ้าน ยิ่งไปกว่านี้ เป็นที่น่ายินดีที่การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ประกาศว่า สิงคโปร์จะเป็นเจ้าภาพการแลกเปลี่ยนเยาวชนในลักษณะนี้ปีหน้า ทั้งนี้ ในการประชุมผู้นำที่สิงคโปร์ การหารือให้สำคัญในเรื่องประโยชน์ของการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจด้านวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดียิ่งขึ้น ผู้นำต่างๆในยุคนี้ ต่างยืนหัดดำเนินการเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเยาวชน และผู้นำในอนาคต เพื่ออนาคตที่สดใส พร้อมด้วยชุมชนภูมิภาคที่เอื้ออาทรกันและผูกร้อยกันไว้อย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวอวยพรให้เยาวชนประสบความสำเร็จในการศึกษาและ เดินทางกลับบ้านด้วยความปลอดภัย พร้อมทั้ง นำจิตวิญญาณของความร่วมมือและความเป็นผู้นำของเอเชียตะวันออกกลับไปด้วย เพื่อความสงบ ความปรองดอง และความรุ่งเรือง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--