พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ บริเวณหน้าฮอลล์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 — 10 ธันวาคม 2550 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนไทยชื่นชมพระบารมี เรียนรู้พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า เนื่องด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นปีสำคัญสำหรับประชาชนชาวไทยที่จะร่วมเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงกัน รัฐบาลได้ร่วมกับประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสปีมหามงคลดังกล่าว ทั้งงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานศาสนพิธี และกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี หนึ่งในกิจกรรมเหล่านี้ได้แก่การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ขึ้น ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2550 ใน 4 ภูมิภาคหลักของประเทศไทย ได้แก่ วันที่ 1 — 8 พฤศจิกายน ณ ภาคใต้ จังหวัดสงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น วันที่ 17 — 25 พฤศจิกายน ณ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี และสุดท้ายนิทรรศการทั้ง 4 ภูมิภาค 4 เส้นทาง ได้มาบรรจบกันเป็นมหานิทรรศการครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 1 — 10 ธันวาคม 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ซึ่งการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่เปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมี รับทราบถึงพระราชกรณียกิจ และซาบซึ้งในพระราชจริยวัตรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างลึกซึ้งและใกล้ชิด สำหรับรูปแบบและเนื้อหาของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ แบ่งออกเป็น 9 ห้องหลัก ครอบคลุมทุกเนื้อหา ทั้งพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำเสนอผ่านสื่อมัลติมีเดียทุกรูปแบบอย่างทันสมัย ในบรรยากาศที่เป็นของจริงหรือจำลองขึ้นจนใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด เพื่อทำให้ ผู้เข้า ชมงานทุกคนได้รับความรู้และความเข้าใจพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกลุ่มเยาวชนไทยในโครงการ “ยุวชนของพ่อ” ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่ได้ผ่านการคัดเลือกจากเยาวชนไทยทั่วทุกภูมิภาค มาปฏิบัติหน้าที่ยุวมัคคุเทศก์ประจำนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนไทยทุกภูมิภาคได้รับฟังกันอย่างทั่วถึง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้มอบโล่และประกาศนียบัตรขอบคุณแก่ผู้สนับสนุนการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และกล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญว่านายกรัฐมนตรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่รัฐบาลโดยหน่วยงานต่าง ๆ ในนามของปวงชนชาวไทยได้ร่วมใจกันจัดขึ้น เพื่อแสดงความสำนึกซาบซึ้งและความจงรักภักดีในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัติย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในวาระอันเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดงานฯ มีความปลาบปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทราบว่ามีประชาชนเป็นจำนวนมากในทุกภูมิภาคของประเทศ ได้มีความสนใจและเฝ้าติดตามรอคอยที่จะมาเข้าชมงานนิทรรศการฯ ในครั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอันยิ่งใหญ่ และมีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี ตลอดทั้งได้ชื่นชมพระบารมี พร้อมกับได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ไว้ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดผลดีแก่ตนเองได้ และหากจะให้เกิดประโยชน์ยิ่งกว่านั้น เมื่อได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ผ่านทางนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้แล้ว ก็ควรนำไปถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับทราบหรือลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ามากขึ้น บ้านเมืองมีความผาสุกร่มเย็น อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ด้วยความหนักแน่นเป็นอย่างยิ่ง
“ผมขอขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการฯ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ หน่วยงานต่าง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำให้การจัดเตรียมงานในครั้งนี้ ดำเนินมาด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น ทำให้ประชาชนชาวไทยได้มีส่วนร่วมกับปรากฏการณ์มหามงคลครั้งยิ่งใหญ่ด้วยความภาคภูมิใจและทั่วถึง ซึ่งผมมีความเชื่อมั่นว่าพลังแห่งความภักดีอันเกิดจากการหลอมรวมดวงใจของมหาชนชาวไทยในครั้งนี้ จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระพลานามัย ที่สมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนิรันดร ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ตัดริบบิ้นเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วถ่ายภาพร่วมกับผู้สนับสนุนหลัก พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ โดยมีเยาวชนไทยในโครงการ “ยุวชนของพ่อ” ให้การต้อนรับในโถงต่าง ๆ พร้อมอธิบายถึงนิทรรศการในแต่ละโถง โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เขียนคำถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ บริเวณหน้าฮอลล์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 — 10 ธันวาคม 2550 เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนไทยชื่นชมพระบารมี เรียนรู้พระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างใกล้ชิด
เมื่อเดินทางถึง นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วคุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า เนื่องด้วยปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นปีสำคัญสำหรับประชาชนชาวไทยที่จะร่วมเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียงกัน รัฐบาลได้ร่วมกับประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จัดงานเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสปีมหามงคลดังกล่าว ทั้งงานพระราชพิธี งานรัฐพิธี งานศาสนพิธี และกิจกรรมเฉลิมฉลองขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี หนึ่งในกิจกรรมเหล่านี้ได้แก่การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ขึ้น ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม 2550 ใน 4 ภูมิภาคหลักของประเทศไทย ได้แก่ วันที่ 1 — 8 พฤศจิกายน ณ ภาคใต้ จังหวัดสงขลา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น วันที่ 17 — 25 พฤศจิกายน ณ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี และสุดท้ายนิทรรศการทั้ง 4 ภูมิภาค 4 เส้นทาง ได้มาบรรจบกันเป็นมหานิทรรศการครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลามหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2550 ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 1 — 10 ธันวาคม 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ซึ่งการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ในครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่เปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมี รับทราบถึงพระราชกรณียกิจ และซาบซึ้งในพระราชจริยวัตรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้อย่างลึกซึ้งและใกล้ชิด สำหรับรูปแบบและเนื้อหาของนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ แบ่งออกเป็น 9 ห้องหลัก ครอบคลุมทุกเนื้อหา ทั้งพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยนำเสนอผ่านสื่อมัลติมีเดียทุกรูปแบบอย่างทันสมัย ในบรรยากาศที่เป็นของจริงหรือจำลองขึ้นจนใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุด เพื่อทำให้ ผู้เข้า ชมงานทุกคนได้รับความรู้และความเข้าใจพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกลุ่มเยาวชนไทยในโครงการ “ยุวชนของพ่อ” ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่ได้ผ่านการคัดเลือกจากเยาวชนไทยทั่วทุกภูมิภาค มาปฏิบัติหน้าที่ยุวมัคคุเทศก์ประจำนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ประชาชนไทยทุกภูมิภาคได้รับฟังกันอย่างทั่วถึง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้มอบโล่และประกาศนียบัตรขอบคุณแก่ผู้สนับสนุนการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และกล่าวเปิดงานสรุปสาระสำคัญว่านายกรัฐมนตรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ที่รัฐบาลโดยหน่วยงานต่าง ๆ ในนามของปวงชนชาวไทยได้ร่วมใจกันจัดขึ้น เพื่อแสดงความสำนึกซาบซึ้งและความจงรักภักดีในพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัติย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในวาระอันเป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในฐานะที่เป็นประธานกรรมการอำนวยการจัดงานฯ มีความปลาบปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ทราบว่ามีประชาชนเป็นจำนวนมากในทุกภูมิภาคของประเทศ ได้มีความสนใจและเฝ้าติดตามรอคอยที่จะมาเข้าชมงานนิทรรศการฯ ในครั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมอันยิ่งใหญ่ และมีส่วนร่วมในการแสดงความจงรักภักดี ตลอดทั้งได้ชื่นชมพระบารมี พร้อมกับได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งแนวพระราชดำริที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน ไว้ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติให้เกิดผลดีแก่ตนเองได้ และหากจะให้เกิดประโยชน์ยิ่งกว่านั้น เมื่อได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ผ่านทางนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้แล้ว ก็ควรนำไปถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้รับทราบหรือลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ามากขึ้น บ้านเมืองมีความผาสุกร่มเย็น อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสอันเป็นมิ่งมหามงคลนี้ด้วยความหนักแน่นเป็นอย่างยิ่ง
“ผมขอขอบคุณคณะกรรมการอำนวยการฯ คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานฯ หน่วยงานต่าง ๆ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำให้การจัดเตรียมงานในครั้งนี้ ดำเนินมาด้วยความเรียบร้อยและราบรื่น ทำให้ประชาชนชาวไทยได้มีส่วนร่วมกับปรากฏการณ์มหามงคลครั้งยิ่งใหญ่ด้วยความภาคภูมิใจและทั่วถึง ซึ่งผมมีความเชื่อมั่นว่าพลังแห่งความภักดีอันเกิดจากการหลอมรวมดวงใจของมหาชนชาวไทยในครั้งนี้ จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระพลานามัย ที่สมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นพระมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนิรันดร ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ตัดริบบิ้นเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ แล้วถ่ายภาพร่วมกับผู้สนับสนุนหลัก พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ โดยมีเยาวชนไทยในโครงการ “ยุวชนของพ่อ” ให้การต้อนรับในโถงต่าง ๆ พร้อมอธิบายถึงนิทรรศการในแต่ละโถง โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เขียนคำถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--