พลเอก สายหยุด เกิดผล รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย พร้อมคณะ จำนวน 7 คน เข้าพบ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานการดำเนินการจัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สายหยุด เกิดผล รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย พร้อมคณะ จำนวน 7 คน เข้าพบ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานการดำเนินการจัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำรงความต่อเนื่อง ในการแสดงความความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พลเอก สายหยุด เกิดผล รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวรายงานว่า มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ตระหนักถึงภารกิจของรัฐบาลในการพยายามสร้างความปรองดอง ความสมานฉันท์ของคนในชาติ ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่สำคัญ จึงได้ร่วมกับองค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" เพื่อความต่อเนื่องของการจัดกิจกรรมหลอมดวงใจของคนไทยทั่วประเทศ 62 ล้านดวง ให้เป็นหัวใจแห่งความดีงามในปี 2551 ที่แสดงถึงความกตัญญูและจงรักภักดี เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท โดยดำเนินโครงการร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย องค์กรภาครัฐและประชาชน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง 7 กิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อถวายพระพรและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2) เพื่อน้อมนำกระแสพระราชดำรัส มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต 3) เพื่อจัดหารายได้ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล 4) เพื่อสร้างบรรยากาศความปรองดอง ความสมานฉันท์ และความรัก ความสามัคคีของประชาชนในชาติ 5) เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติและการมีส่วนในการปกครองระบอบประชาธิปไตย 6) เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต และ 7) เพื่อจัดสร้าง "พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า" เป็นสัญลักษณ์ของการหลอมรวมดวงใจของคนไทยทั้ง 62 ล้านคน เพื่อแสดงถึงความเมตตา ความสมัครสมานสามัคคี และการขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการจัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ที่คณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2550 - 5 ธันวาคม 2551 ว่า ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อหลอมรวมดวงใจของคนไทยทั้งประเทศ ให้เป็นหัวใจแห่งความดีงาม เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวควรขยายเวลาการจัดออกไป 4 ปี เพราะเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ (84 พรรษา) โดยกิจกรรมที่จัดทำนั้นขอให้เป็นกิจกรรมที่เน้นคุณธรรมและจริยธรรม เป็นหลัก เพื่อคนไทยจะได้เกิดความปรองดอง ความสมานฉันท์ และความรักความสามัคคีตลอดไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สายหยุด เกิดผล รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย พร้อมคณะ จำนวน 7 คน เข้าพบ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อรายงานการดำเนินการจัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำรงความต่อเนื่อง ในการแสดงความความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พลเอก สายหยุด เกิดผล รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวรายงานว่า มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ตระหนักถึงภารกิจของรัฐบาลในการพยายามสร้างความปรองดอง ความสมานฉันท์ของคนในชาติ ตลอดจนสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และการสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่สำคัญ จึงได้ร่วมกับองค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชน จัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" เพื่อความต่อเนื่องของการจัดกิจกรรมหลอมดวงใจของคนไทยทั่วประเทศ 62 ล้านดวง ให้เป็นหัวใจแห่งความดีงามในปี 2551 ที่แสดงถึงความกตัญญูและจงรักภักดี เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท โดยดำเนินโครงการร่วมกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย องค์กรภาครัฐและประชาชน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง 7 กิจกรรม โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อถวายพระพรและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 2) เพื่อน้อมนำกระแสพระราชดำรัส มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต 3) เพื่อจัดหารายได้ขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศล 4) เพื่อสร้างบรรยากาศความปรองดอง ความสมานฉันท์ และความรัก ความสามัคคีของประชาชนในชาติ 5) เพื่อปลูกฝังอุดมการณ์ความรักชาติและการมีส่วนในการปกครองระบอบประชาธิปไตย 6) เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต และ 7) เพื่อจัดสร้าง "พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า" เป็นสัญลักษณ์ของการหลอมรวมดวงใจของคนไทยทั้ง 62 ล้านคน เพื่อแสดงถึงความเมตตา ความสมัครสมานสามัคคี และการขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมการจัดทำโครงการ "62 ล้านดวงใจ เดินหน้าพัฒนาไทย เทิดไท้องค์ราชัน" ที่คณะกรรมการมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย ได้ริเริ่มจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 5 ธันวาคม 2550 - 5 ธันวาคม 2551 ว่า ถือเป็นกิจกรรมที่ดีที่คนไทยทุกคนจะได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อหลอมรวมดวงใจของคนไทยทั้งประเทศ ให้เป็นหัวใจแห่งความดีงาม เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเห็นว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวควรขยายเวลาการจัดออกไป 4 ปี เพราะเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ (84 พรรษา) โดยกิจกรรมที่จัดทำนั้นขอให้เป็นกิจกรรมที่เน้นคุณธรรมและจริยธรรม เป็นหลัก เพื่อคนไทยจะได้เกิดความปรองดอง ความสมานฉันท์ และความรักความสามัคคีตลอดไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--