พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ได้พบปะกลุ่มอาชีพต่างๆ รวมประมาณ 700 คน พร้อมบรรยายเรื่อง "การป้องกันและแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง" และประกาศเจตนารมณ์การไม่ซื้อสิทธิขายเสียง ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ได้พบปะกลุ่มอาชีพสื่อวิทยุชุมชน ชมรมผู้ขับรถแท็กซี่ ชมรมผู้ขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ชมรมผู้ขับสามล้อเครื่องรับจ้าง และชมรมผู้ขับรถตู้สาธารณะ รวมประมาณ 700 คน พร้อมบรรยายเรื่อง "การป้องกันและแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง" และประกาศเจตนารมณ์การไม่ซื้อสิทธิขายเสียง โดยก่อนหน้านี้นายชนาธิป บุญยเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่ สำนักรณรงค์และเผยแพร่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้บรรยายเรื่อง "ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง"
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มสื่อวิทยุชุมชน ชมรมผู้ขับรถแท็กซี่ ชมรมผู้ขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ชมรมผู้ขับสามล้อเครื่องรับจ้าง และชมรมผู้ขับรถตู้สาธารณะ เนื่องจากเป็นกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพในการรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง และขอขอบคุณที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าในการประกอบอาชีพ เพราะตระหนักถึงความสำคัญในการรณรงค์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นการตัดสินวิถีประชาธิปไตยของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
การพบปะกับกลุ่มบุคคลต่างๆ ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำไปสู่การสนับสนุนแนวทางการไม่ซื้อสิทธิขายเสียงของรัฐบาลเพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับข้อเสียของการซื้อสิทธิขายเสียง และการเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยุชุมชน ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การรณรงค์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารประเทศ เพราะประชาชนเป็นส่วนสำคัญในการชี้ขาดการเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญและประสบความสำเร็จ ด้วยการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของความสมานฉันท์และความรักชาติ เนื่องจากปัจจัยของความสำเร็จของประเทศประกอบด้วย 3 หลักสำคัญ คือ 1) ประชาชน ต้องมีระเบียบวินัย มีความรักชาติและอุดมการณ์ และมีความขยันขันแข็ง 2) ผู้บริหารประเทศ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรักชาติและอุดมการณ์แห่งความรักชาติ 3) ข้าราชการ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และทำงานเพื่อประชาชน
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้ายขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียงและเลือกคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความจงรักภักดีต่อชาติและสถาบัน เพราะเป็นอำนาจของประชาชนในการเลือกผู้บริหารประเทศที่จะนำพาประเทศให้มีความเจริญต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินการตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง (ครส.) ได้พบปะกลุ่มอาชีพสื่อวิทยุชุมชน ชมรมผู้ขับรถแท็กซี่ ชมรมผู้ขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ชมรมผู้ขับสามล้อเครื่องรับจ้าง และชมรมผู้ขับรถตู้สาธารณะ รวมประมาณ 700 คน พร้อมบรรยายเรื่อง "การป้องกันและแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง" และประกาศเจตนารมณ์การไม่ซื้อสิทธิขายเสียง โดยก่อนหน้านี้นายชนาธิป บุญยเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและเผยแพร่ สำนักรณรงค์และเผยแพร่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้บรรยายเรื่อง "ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง"
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีที่ได้มีโอกาสพบปะกับกลุ่มสื่อวิทยุชุมชน ชมรมผู้ขับรถแท็กซี่ ชมรมผู้ขับรถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง ชมรมผู้ขับสามล้อเครื่องรับจ้าง และชมรมผู้ขับรถตู้สาธารณะ เนื่องจากเป็นกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพในการรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง และขอขอบคุณที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าในการประกอบอาชีพ เพราะตระหนักถึงความสำคัญในการรณรงค์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นการตัดสินวิถีประชาธิปไตยของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง
การพบปะกับกลุ่มบุคคลต่างๆ ในวันนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการนำไปสู่การสนับสนุนแนวทางการไม่ซื้อสิทธิขายเสียงของรัฐบาลเพราะการสื่อสารเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับข้อเสียของการซื้อสิทธิขายเสียง และการเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยุชุมชน ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การรณรงค์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารประเทศ เพราะประชาชนเป็นส่วนสำคัญในการชี้ขาดการเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญและประสบความสำเร็จ ด้วยการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของความสมานฉันท์และความรักชาติ เนื่องจากปัจจัยของความสำเร็จของประเทศประกอบด้วย 3 หลักสำคัญ คือ 1) ประชาชน ต้องมีระเบียบวินัย มีความรักชาติและอุดมการณ์ และมีความขยันขันแข็ง 2) ผู้บริหารประเทศ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรักชาติและอุดมการณ์แห่งความรักชาติ 3) ข้าราชการ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และทำงานเพื่อประชาชน
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวในตอนท้ายขอให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยไม่ซื้อสิทธิขายเสียงและเลือกคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความจงรักภักดีต่อชาติและสถาบัน เพราะเป็นอำนาจของประชาชนในการเลือกผู้บริหารประเทศที่จะนำพาประเทศให้มีความเจริญต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--