แท็ก
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
มูลนิธิเมาไม่ขับ
ทำเนียบรัฐบาล
ตึกสันติไมตรี
นายกรัฐมนตรี
ปีใหม่
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและปล่อยขบวนรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง(ARRIVE ALIVE) จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 200 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและปล่อยขบวนรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 200 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะกรรมการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ ไปให้ถึง ARRIVE ALIVE เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ อาสาสมัครคุมประพฤติ กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่เมาไม่ขับ กลุ่มภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ และเอกชน จำนวน 300 คน ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธี
นายแพทย์แท้จริง ศิริพาณิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน สรุปสาระสำคัญว่า เทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลแห่งความสุขที่คนไทยจะส่งความปรารถนาดีให้กันและกัน แต่ขณะเดียวกันก็แฝงไว้ซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจราจร ดังจะเห็นได้จากสถิติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา มียอดสูงถึง 449 ราย บาดเจ็บ 4,943 ราย ทั้งนี้ไม่นับผู้บาดเจ็บที่ได้กลายสภาพเป็นผู้พิการในภายหลัง มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุจราจรมากว่า 20 ปีมีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน กว่า 200 หน่วยงาน จัดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) ซึ่งลักษณะกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรมที่ 1 การเดินรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง โดยจะมีเหยื่อเมาแล้วขับที่ตาบอดจำนวน 8 คน ได้แก่ 1.นายอธิกุล ไลออน 2. นายบรรยงค์ หงส์ศรีทอง 3. นายสงัด อดทน 4. ส.ต.ท.ฉลาด นะตะวัน 5. นายอนุชา วงศ์เสนา 6. น.ส.พิมพ์ประภา สาระบุตร 7.นายอิสระ สุวรรณไตรย์ 8.นายเปิ้ล แท่นหิน อาสาสมัครเดินรณรงค์ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร โดยจะเริ่มเดินจาก ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลไปยังเมืองปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา ใช้ระยะเวลา 10 วัน ระยะทาง 400 กิโลเมตร โดยตลอดระยะทางที่ทั้ง 8 คน เดินรณรงค์จะได้ร่วมกับทางจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนจัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนทุกรูปแบบพร้อมกันนั้นจะเชิญชวนให้ประชาชนร่วมใจกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 ด้วย กิจกรรมที่ 2 จะเป็นการนำเหยื่อเมาแล้วขับจากทั่วประเทศจำนวน 1,000 คน เข้าร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปกครองในจุดตรวจทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง วันที่ 2 มกราคม 2551 เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสูญเสียให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
นายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนนโยบายลดอุบัติเหตุจราจรเมาไม่ขับว่า กิจกรรมทั้งหลายจะสำเร็จได้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลที่ให้การสนับสนุนนโยบายการลดอุบัติเหตุจราจรอย่างเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง ดังนี้ 1.กฎหมายเพิ่มโทษผู้ที่เมาแล้วขับ จากจำคุก 3 เดือนเพิ่มเป็น 1 ปี มีผลบังคับใช้แล้ว 2. กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 3. กฎหมายเพิ่มโทษผู้ที่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาแล้ว และรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช.) 4. พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สนช. ในวาระที่ 2 และ 3 ทั้งนี้เชื่อว่ากกฎหมายดังกล่าวจะก่อให้คุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงกับประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
จากนั้น พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานรับมอบเงินสนับสนุนโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ ไปให้ถึง ARRIVE ALIVE จากผู้แทนภาคเอกชน พร้อมกล่าวให้โอวาทว่า รัฐบาลนี้ มีความตั้งใจ ในการที่จะลดอุบัติเหตุลงมา โดยในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้มีส่วนร่วมกับโครงการเมาไม่ขับ มาก่อนที่จะได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ก่อนแล้ว และทราบดีถึงเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกปีได้พยายามที่จะตั้งเป้าที่จะลดอุบัติเหตุลงมาให้ได้ แต่ในเรื่องของการปฏิบัติ จำเป็นที่จะต้องสร้างเพิ่มเติม ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความคิด และตระหนัก ที่จะระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ว่าทำอย่างไร ที่จะลดอุบัติเหตุลงมาให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ยึดถือสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเป็นแนวทางในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ซึ่งคิดว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดอยู่ที่คน คือ ถ้าเรามีคนที่มีความรับผิดชอบ และความตระหนักถึงคุณค่าของการช่วยกันดูแลบ้านเมือง กฎหมายยังเป็นสิ่งที่รองลงไป ทั้งนี้ขอฝากทางมูลนิธิเมาไม่ขับด้วยในการที่จะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำอย่างไร ที่จะมีโอกาสเข้าไปทำงานร่วมกับเยาวชนและกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้
พร้อมนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในการลดอุบัติเหตุคือ การบังคับใจตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องเครื่องดองของเมา ยาเสพติด ซึ่งเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เราขาดสติ และความยับยั้ง ชั่งใจ และทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ซึ่งดาราส่วนมากมักจะหลับ เวลาขับรถ เพราะว่าทำงานมาก และมีหลายคนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะหลับ จะเห็นได้ว่าไม่ได้ใช้เครื่องดองของเมา นั่นเป็นปัญหาที่จะต้องหาทางช่วยกันสร้างความเข้าใจ และความตระหนัก ขึ้นมาในสังคมของเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ปีที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากทางประเทศเพื่อนบ้านในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ เป็นอย่างดี พร้อมขอให้นายแพทย์แท้จริง ฯ ขยายงานดังกล่าว โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเริ่มจากจังหวัดละโรงเรียน อำเภอละโรงเรียน เพื่อเป็นส่วนหลักที่จะขยายได้ต่อไป
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) ด้วยการร่วมเดินกับเหยื่อเมาแล้วขับดังกล่าว โดยขบวนรณรงค์เคลื่อนออกไปตามถนนด้านข้างตึกสันติไมตรี เข้าสู่ถนนพิษณุโลก ผ่านสนามม้านางเลิ้ง ถนนศรีอยุธยา และจะไปสิ้นสุดที่เมืองปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการและปล่อยขบวนรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) จัดโดยมูลนิธิเมาไม่ขับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผู้แทนภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ และภาคเอกชนกว่า 200 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีคณะกรรมการจัดกิจกรรมรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ ไปให้ถึง ARRIVE ALIVE เครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ อาสาสมัครคุมประพฤติ กลุ่มอาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่เมาไม่ขับ กลุ่มภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ภาครัฐ และเอกชน จำนวน 300 คน ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมพิธี
นายแพทย์แท้จริง ศิริพาณิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน สรุปสาระสำคัญว่า เทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลแห่งความสุขที่คนไทยจะส่งความปรารถนาดีให้กันและกัน แต่ขณะเดียวกันก็แฝงไว้ซึ่งความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ซึ่งมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุจราจร ดังจะเห็นได้จากสถิติของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2550 ที่ผ่านมา มียอดสูงถึง 449 ราย บาดเจ็บ 4,943 ราย ทั้งนี้ไม่นับผู้บาดเจ็บที่ได้กลายสภาพเป็นผู้พิการในภายหลัง มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานรณรงค์ลดอุบัติเหตุจราจรมากว่า 20 ปีมีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ภาคเอกชน กว่า 200 หน่วยงาน จัดโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) ซึ่งลักษณะกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรมที่ 1 การเดินรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง โดยจะมีเหยื่อเมาแล้วขับที่ตาบอดจำนวน 8 คน ได้แก่ 1.นายอธิกุล ไลออน 2. นายบรรยงค์ หงส์ศรีทอง 3. นายสงัด อดทน 4. ส.ต.ท.ฉลาด นะตะวัน 5. นายอนุชา วงศ์เสนา 6. น.ส.พิมพ์ประภา สาระบุตร 7.นายอิสระ สุวรรณไตรย์ 8.นายเปิ้ล แท่นหิน อาสาสมัครเดินรณรงค์ เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนตระหนักถึงความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจร โดยจะเริ่มเดินจาก ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลไปยังเมืองปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา ใช้ระยะเวลา 10 วัน ระยะทาง 400 กิโลเมตร โดยตลอดระยะทางที่ทั้ง 8 คน เดินรณรงค์จะได้ร่วมกับทางจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนจัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนร่วมลด ละ เลิก พฤติกรรมเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนทุกรูปแบบพร้อมกันนั้นจะเชิญชวนให้ประชาชนร่วมใจกันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 ด้วย กิจกรรมที่ 2 จะเป็นการนำเหยื่อเมาแล้วขับจากทั่วประเทศจำนวน 1,000 คน เข้าร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายปกครองในจุดตรวจทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2550 ถึง วันที่ 2 มกราคม 2551 เพื่อรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังและร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสูญเสียให้ผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง
นายดำรง พุฒตาล ประธานมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนนโยบายลดอุบัติเหตุจราจรเมาไม่ขับว่า กิจกรรมทั้งหลายจะสำเร็จได้ก็ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลที่ให้การสนับสนุนนโยบายการลดอุบัติเหตุจราจรอย่างเป็นรูปธรรมหลายเรื่อง ดังนี้ 1.กฎหมายเพิ่มโทษผู้ที่เมาแล้วขับ จากจำคุก 3 เดือนเพิ่มเป็น 1 ปี มีผลบังคับใช้แล้ว 2. กฎหมายห้ามใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 3. กฎหมายเพิ่มโทษผู้ที่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาแล้ว และรอเสนอต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ( สนช.) 4. พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ สนช. ในวาระที่ 2 และ 3 ทั้งนี้เชื่อว่ากกฎหมายดังกล่าวจะก่อให้คุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงกับประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ
จากนั้น พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานรับมอบเงินสนับสนุนโครงการรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ ไปให้ถึง ARRIVE ALIVE จากผู้แทนภาคเอกชน พร้อมกล่าวให้โอวาทว่า รัฐบาลนี้ มีความตั้งใจ ในการที่จะลดอุบัติเหตุลงมา โดยในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้มีส่วนร่วมกับโครงการเมาไม่ขับ มาก่อนที่จะได้เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้อยู่ก่อนแล้ว และทราบดีถึงเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกปีได้พยายามที่จะตั้งเป้าที่จะลดอุบัติเหตุลงมาให้ได้ แต่ในเรื่องของการปฏิบัติ จำเป็นที่จะต้องสร้างเพิ่มเติม ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของความคิด และตระหนัก ที่จะระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ว่าทำอย่างไร ที่จะลดอุบัติเหตุลงมาให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ยึดถือสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเป็นแนวทางในการทำงานเพื่อบ้านเมือง ซึ่งคิดว่าปัญหาที่สำคัญที่สุดอยู่ที่คน คือ ถ้าเรามีคนที่มีความรับผิดชอบ และความตระหนักถึงคุณค่าของการช่วยกันดูแลบ้านเมือง กฎหมายยังเป็นสิ่งที่รองลงไป ทั้งนี้ขอฝากทางมูลนิธิเมาไม่ขับด้วยในการที่จะรณรงค์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำอย่างไร ที่จะมีโอกาสเข้าไปทำงานร่วมกับเยาวชนและกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้
พร้อมนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในการลดอุบัติเหตุคือ การบังคับใจตัวเอง ไม่ว่าจะเรื่องเครื่องดองของเมา ยาเสพติด ซึ่งเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เราขาดสติ และความยับยั้ง ชั่งใจ และทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา ซึ่งดาราส่วนมากมักจะหลับ เวลาขับรถ เพราะว่าทำงานมาก และมีหลายคนที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะหลับ จะเห็นได้ว่าไม่ได้ใช้เครื่องดองของเมา นั่นเป็นปัญหาที่จะต้องหาทางช่วยกันสร้างความเข้าใจ และความตระหนัก ขึ้นมาในสังคมของเรา
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ปีที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากทางประเทศเพื่อนบ้านในการรณรงค์ลดอุบัติเหตุเมาไม่ขับ เป็นอย่างดี พร้อมขอให้นายแพทย์แท้จริง ฯ ขยายงานดังกล่าว โดยการเข้าไปมีส่วนร่วมกับโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเริ่มจากจังหวัดละโรงเรียน อำเภอละโรงเรียน เพื่อเป็นส่วนหลักที่จะขยายได้ต่อไป
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ทำพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ลดอุบัติเหตุปีใหม่ไปให้ถึง (ARRIVE ALIVE) ด้วยการร่วมเดินกับเหยื่อเมาแล้วขับดังกล่าว โดยขบวนรณรงค์เคลื่อนออกไปตามถนนด้านข้างตึกสันติไมตรี เข้าสู่ถนนพิษณุโลก ผ่านสนามม้านางเลิ้ง ถนนศรีอยุธยา และจะไปสิ้นสุดที่เมืองปอยเปต ราชอาณาจักรกัมพูชา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--