นายกรัฐมนตรีระบุกระทรวงพลังงานต้องเดินหน้าในทางสายกลาง ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งไม่ให้เพิกถอนการแปรรูป ปตท. แต่ให้โอนทรัพย์สินคืนรัฐ ทั้งนี้ การจะแปรรูปรัฐวิสาหกิจต้องพิจารณาให้รอบคอบ
วันนี้ เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้าพบพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งไม่ให้เพิกถอนการแปรรูป ปตท. แต่ให้โอนทรัพย์สินคืนรัฐ
ต่อมา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การหารือไม่มีอะไรมาก แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเห็นว่า การปฏิบัติตามคำสั่งศาลจะต้องเร่งรีบดำเนินการ เพราะรัฐบาลมีเวลาที่จะนำเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 18 ธันวาคมนี้เท่านั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานกับกระทรวงการคลัง ในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ที่ทาง ปตท. จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยที่ดิน ซึ่งรวมไปถึงที่ดินที่ใช้เป็นแนวในการวางท่อก๊าซด้วย
ต่อข้อถามว่า คำสั่งศาลที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานหรือไม่ และจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีอยู่บ้าง แต่กระทรวงพลังงานจะต้องเดินหน้าต่อไปตามทางสายกลางที่ได้มีการคาดคะเนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะกระทรวงพลังงานได้มีการคิดไว้ล่วงหน้าว่า หากคำสั่งศาลออกมาในลักษณะอย่างไรจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากมีคำสั่งศาลออกมาก็มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ผลกระทบที่สำคัญ ซึ่งคิดว่าตลาดหุ้น และการลงทุนคงจะเข้าใจว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงานที่รัฐบาลจะส่งต่อไปยังรัฐบาลใหม่ในเรื่องของพลังงาน เพราะเมื่อศาลมีคำสั่งออกมาทุกคนต้องยอมรับและดำเนินการต่อไป
ต่อข้อถามว่า การโอนที่ดินและแนววางท่อก๊าซคืนให้กระทรวงการคลังจำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องขอมติจากคณะรัฐมนตรี และการดำเนินการในส่วนดังกล่าวคงใช้เวลาไม่นานเพราะมีระเบียบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องออกเป็นมติ ครม. เพื่อสั่งการให้กระทรวงพลังงานดำเนินงานได้
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมหรือไม่ หากผู้ร้องจะยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งต่อ โดยอ้างเรื่องความเสียหายของประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางผู้ที่เกี่ยวข้องคงพิจารณากัน ก็ถือเป็นสิทธิของผู้ยื่นคำร้อง หากจะดำเนินการอย่างไรต่อก็เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณาต่อไป
ต่อข้อถามว่า กรณีนี้จะเป็นตัวอย่างให้แก่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลในอนาคตที่ต้องพิจารณาให้รอด้านก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่าการที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ นั้น ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ ทั้งในส่วนที่นำอสังหาริมทรัพย์ของรัฐไปใช้ และยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องพิจารณากันต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางเข้าพบพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายหลังศาลปกครองมีคำสั่งไม่ให้เพิกถอนการแปรรูป ปตท. แต่ให้โอนทรัพย์สินคืนรัฐ
ต่อมา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การหารือไม่มีอะไรมาก แต่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเห็นว่า การปฏิบัติตามคำสั่งศาลจะต้องเร่งรีบดำเนินการ เพราะรัฐบาลมีเวลาที่จะนำเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 18 ธันวาคมนี้เท่านั้น เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล เนื่องจากมีเรื่องที่ต้องทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานกับกระทรวงการคลัง ในเรื่องของอสังหาริมทรัพย์ที่ทาง ปตท. จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาล ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ประกอบด้วยที่ดิน ซึ่งรวมไปถึงที่ดินที่ใช้เป็นแนวในการวางท่อก๊าซด้วย
ต่อข้อถามว่า คำสั่งศาลที่ออกมาจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของกระทรวงพลังงานหรือไม่ และจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็มีอยู่บ้าง แต่กระทรวงพลังงานจะต้องเดินหน้าต่อไปตามทางสายกลางที่ได้มีการคาดคะเนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพราะกระทรวงพลังงานได้มีการคิดไว้ล่วงหน้าว่า หากคำสั่งศาลออกมาในลักษณะอย่างไรจะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากมีคำสั่งศาลออกมาก็มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ผลกระทบที่สำคัญ ซึ่งคิดว่าตลาดหุ้น และการลงทุนคงจะเข้าใจว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวคงไม่ส่งผลกระทบต่อแผนงานที่รัฐบาลจะส่งต่อไปยังรัฐบาลใหม่ในเรื่องของพลังงาน เพราะเมื่อศาลมีคำสั่งออกมาทุกคนต้องยอมรับและดำเนินการต่อไป
ต่อข้อถามว่า การโอนที่ดินและแนววางท่อก๊าซคืนให้กระทรวงการคลังจำเป็นต้องแก้ไขกฎระเบียบหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องขอมติจากคณะรัฐมนตรี และการดำเนินการในส่วนดังกล่าวคงใช้เวลาไม่นานเพราะมีระเบียบอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องออกเป็นมติ ครม. เพื่อสั่งการให้กระทรวงพลังงานดำเนินงานได้
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลเตรียมพร้อมหรือไม่ หากผู้ร้องจะยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งต่อ โดยอ้างเรื่องความเสียหายของประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางผู้ที่เกี่ยวข้องคงพิจารณากัน ก็ถือเป็นสิทธิของผู้ยื่นคำร้อง หากจะดำเนินการอย่างไรต่อก็เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณาต่อไป
ต่อข้อถามว่า กรณีนี้จะเป็นตัวอย่างให้แก่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลในอนาคตที่ต้องพิจารณาให้รอด้านก่อนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เพราะเห็นชัดเจนแล้วว่าการที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ นั้น ควรจะพิจารณาให้รอบคอบ ทั้งในส่วนที่นำอสังหาริมทรัพย์ของรัฐไปใช้ และยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องพิจารณากันต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--