นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการพลังแท็กซี่หัวใจไทย จำนวน 42 คน เพื่อส่งเสริมสมาชิกผู้ฟังกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมและทำความดี สร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการ “พลังแท็กซี่หัวใจไทย” จำนวน 42 คน ซึ่งจัดโดยกองทัพบก สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมด้วยช่วยกัน และสถานีวิทยุ สวพ.91 เพื่อส่งเสริมสมาชิกผู้ฟังกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมและทำความดี สร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ มีความสุขปลอดภัย รวมทั้งเพื่อสร้างจิตสำนึกในความรักชาติ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือและแนวร่วมในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร โดยมีผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ผู้แทนสถานีวิทยุ สวพ.91 ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ประมาณ 200 คน
สำหรับการคัดเลือกผู้ขับขี่รถแท็กซี่เพื่อรับโล่เกียรติยศในครั้งนี้ สถานีวิทยุทั้ง 3 คลื่น จะคัดเลือกจากผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกระทำความดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น และสังคมอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับคนร้าย ช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกข่มขืน แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เป็นต้น รวมทั้งเพื่อเป็นแบบอย่างให้เกิดกระแสความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นตัวอย่างในการกระทำความดี โดยได้ทำการคัดเลือกจำนวนคลื่นละ 3 คน เป็นประจำทุกเดือน และกำหนดให้มีการมอบโล่ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เดือนสิงหาคม เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกในเดือน มีนาคม-กรกฎาคม และครั้งที่ 2 เดือนธันวาคม เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกในเดือนสิงหาคม — ธันวาคม
โอกาสนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่เกียรติยศให้กับผู้ขับแท็กซี่ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการดังกล่าวพร้อมมอบโล่เกียรติยศให้กับหน่วยงานที่ส่งเสริมและให้การสนับสนุนโครงการ ฯ ด้วย จากนั้นได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลและกล่าวให้โอวาทว่าพิธีนี้เราได้จัดให้มีมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ซึ่งผ่านมาเพียง 3 เดือนกว่ามีผู้ที่ทำความดีแก่สังคมที่สมควรได้รับรางวัลเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า ในสังคมของเรานั้น ยังมีผู้ที่ทำความดีให้แก่สังคมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้การทำดีเพื่อส่วนรวมเป็นสิ่งที่เราต้องการมากในสังคมไทยยุคปัจจุบัน เพราะสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ทำให้ทุกคนต่างมุ่งมั่นทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทำให้คนในสังคมต่างคนต่างอยู่ขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และขาดความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่พื้นฐานพฤติกรรมและวัฒนธรรมของคนไทยที่มีความโอบอ้อมอารี ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกันนั้นกำลังจะสูญหายไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างของคนไทยที่ทำความดีให้แก่สังคม สมควรได้รับการยกย่องส่งเสริม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีพื้นฐานทางพฤติกรรมและวัฒนธรรมดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่นิ่งดูดายเมื่อพบเห็นผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมกล่าวว่าหากสังคมของเรามีคนเช่นนี้เป็นจำนวนมาก ๆ ก็จะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบสุขร่มเย็นต่อไป จึงขอฝากให้ทุกคนช่วยกันยกย่องส่งเสริมผู้ที่ทำความดีแก่สังคมอย่างจริงจัง เพื่อสังคมไทยของเราจะได้มีคนดีในสังคมเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงหวังว่าประชาชนคนไทยจะได้ร่วมใจกันทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่จะมาถึงข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง ไปปฏิบัติหน้าที่ พลเมืองไทยที่ดี ด้วยการร่วมกันใช้สิทธิเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ในสภา และร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้ผู้แทนราษฎรที่ดี มีคุณภาพและมีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยของเราได้พัฒนาเจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายหน้า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบโล่เกียรติยศให้แก่ผู้ขับรถแท็กซี่ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการ “พลังแท็กซี่หัวใจไทย” จำนวน 42 คน ซึ่งจัดโดยกองทัพบก สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมด้วยช่วยกัน และสถานีวิทยุ สวพ.91 เพื่อส่งเสริมสมาชิกผู้ฟังกลุ่มผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมและทำความดี สร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ มีความสุขปลอดภัย รวมทั้งเพื่อสร้างจิตสำนึกในความรักชาติ สร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ตลอดจนแสวงหาความร่วมมือและแนวร่วมในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร โดยมีผู้แทนกองทัพบก ผู้แทนสถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ผู้แทนสถานีวิทยุ สวพ.91 ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน ประมาณ 200 คน
สำหรับการคัดเลือกผู้ขับขี่รถแท็กซี่เพื่อรับโล่เกียรติยศในครั้งนี้ สถานีวิทยุทั้ง 3 คลื่น จะคัดเลือกจากผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกระทำความดี มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น และสังคมอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับคนร้าย ช่วยเหลือหญิงสาวที่ถูกข่มขืน แจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อการจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี เป็นต้น รวมทั้งเพื่อเป็นแบบอย่างให้เกิดกระแสความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นตัวอย่างในการกระทำความดี โดยได้ทำการคัดเลือกจำนวนคลื่นละ 3 คน เป็นประจำทุกเดือน และกำหนดให้มีการมอบโล่ 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 เดือนสิงหาคม เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกในเดือน มีนาคม-กรกฎาคม และครั้งที่ 2 เดือนธันวาคม เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกในเดือนสิงหาคม — ธันวาคม
โอกาสนี้ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบโล่เกียรติยศให้กับผู้ขับแท็กซี่ที่ได้รับการคัดเลือกจากโครงการดังกล่าวพร้อมมอบโล่เกียรติยศให้กับหน่วยงานที่ส่งเสริมและให้การสนับสนุนโครงการ ฯ ด้วย จากนั้นได้กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลและกล่าวให้โอวาทว่าพิธีนี้เราได้จัดให้มีมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2550 ซึ่งผ่านมาเพียง 3 เดือนกว่ามีผู้ที่ทำความดีแก่สังคมที่สมควรได้รับรางวัลเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่า ในสังคมของเรานั้น ยังมีผู้ที่ทำความดีให้แก่สังคมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้การทำดีเพื่อส่วนรวมเป็นสิ่งที่เราต้องการมากในสังคมไทยยุคปัจจุบัน เพราะสภาวะเศรษฐกิจในขณะนี้ทำให้ทุกคนต่างมุ่งมั่นทำงานเพื่อหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ทำให้คนในสังคมต่างคนต่างอยู่ขาดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และขาดความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่พื้นฐานพฤติกรรมและวัฒนธรรมของคนไทยที่มีความโอบอ้อมอารี ช่วยกันดูแลซึ่งกันและกันนั้นกำลังจะสูญหายไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลในวันนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างของคนไทยที่ทำความดีให้แก่สังคม สมควรได้รับการยกย่องส่งเสริม เนื่องจากเป็นผู้ที่มีพื้นฐานทางพฤติกรรมและวัฒนธรรมดี มีจิตใจโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่นิ่งดูดายเมื่อพบเห็นผู้อื่นเดือดร้อน พร้อมกล่าวว่าหากสังคมของเรามีคนเช่นนี้เป็นจำนวนมาก ๆ ก็จะทำให้เราอยู่ร่วมกันได้ด้วยความสงบสุขร่มเย็นต่อไป จึงขอฝากให้ทุกคนช่วยกันยกย่องส่งเสริมผู้ที่ทำความดีแก่สังคมอย่างจริงจัง เพื่อสังคมไทยของเราจะได้มีคนดีในสังคมเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปีนี้เป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงหวังว่าประชาชนคนไทยจะได้ร่วมใจกันทำความดีเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่จะมาถึงข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง ไปปฏิบัติหน้าที่ พลเมืองไทยที่ดี ด้วยการร่วมกันใช้สิทธิเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ในสภา และร่วมกันรณรงค์ต่อต้านการซื้อสิทธิขายเสียง เพื่อให้ได้ผู้แทนราษฎรที่ดี มีคุณภาพและมีความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรม ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยของเราได้พัฒนาเจริญรุ่งเรืองต่อไปในภายหน้า
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--