นายกรัฐมนตรีระบุการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งของประชาชนทั้งในและนอกเขตเป็นที่น่าพอใจ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ 23 ธ.ค.นี้ และกำชับมหาดไทยดูแลการเก็บหีบบัตรให้รอบคอบ
วันนี้ เวลา 14.30น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก ว่า จากรายงานของกระทรวงมหาดไทยมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขต เป็นจำนวนที่น่าพอใจ ก็เป็นตัวชี้วัดว่าน่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิในวันที่ 23 ธันวาคม ใกล้เคียงกับจำนวนที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ก็ขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะถือเป็นจุดสำคัญหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทย เมื่อมีผู้ใช้สิทธิจำนวนมากก็หมายถึงการตัดสินของประชาชน ส่วนจะมีการขยายเป้าเพิ่มจากเดิม 70 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ขยาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการดูแลหีบบัตรของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่อาจมีการทุจริตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับกระทรวงมหาดไทยเมื่อเช้านี้ (17 ธ.ค.) ไปแล้วว่าขอให้ดูแลเรื่องการเก็บหีบบัตรให้รอบคอบ โดยเฉพาะการประสานระหว่างจังหวัด และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในส่วนของจังหวัด กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใสและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาเมื่อมีข้อมูลต่างๆ เข้ามาเราก็เตรียมการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้มีความโปร่งใส โดยเฉพาะเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งหีบบัตรล่วงหน้าที่มีการเก็บไว้ก็จะนำมานับคะแนนรวมในวันที่ 23 ธันวาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศจะชุมนุมหากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ขอร้องมาโดยตลอดว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างชัดแจ้งและเป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นธรรม ก็ถือเป็นการตัดสินของประชาชน ทุกคนควรจะยอมรับ เพราะไม่เช่นนั้นเราคงมีเพียงแต่ระบอบประชาธิปไตย แต่เรากลับไม่ยอมปฏิบัติตามระบอบนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนถึงวันที่ 23 ธันวาคม เป็นห่วงปัญหาใดมากที่สุด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องการดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่คิดว่าความพยายามของคนไทยและเจ้าหน้าที่ทุกคน แม้แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงเจตนาว่าทุกคนมีความต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้ง และในทางการข่าวเรื่องการพยายามล้มการเลือกตั้งนั้น ก็เป็นข่าวที่พูดกันแต่ไม่มีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พลเอก เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาระบุว่าทหารลงพื้นที่ไปขัดขวางพรรคพลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถแจ้งไปยัง กกต. ได้เพื่อดำเนินการตรวจสอบ รัฐบาลคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของ กกต. ซึ่งยังไม่ทราบว่าเหตุเกิดที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาระบุว่าถูกขู่อุ้มฆ่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่ได้ติดต่อกับนางสดศรีฯ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่านายกรัฐมนตรีติดต่อกับ กกต.หรือไปกดดัน ซึ่งหากมีปัญหาก็สามารถประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีศูนย์ประสานงานใกล้ชิดกับ กกต.อยู่แล้ว สามารถที่จะดูแลได้ทันที โดยไม่ต้องมาแจ้งกับทางรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเคยถูกขู่บ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถือในเรื่องอะไร เพราะชีวิตตนเองอยู่มาพอสมควรแก่เวลาแล้ว ถ้าเผื่อว่าจะจบสิ้นไปก็คงแค่นั้นไม่มีปัญหาอะไร และเตรียมพร้อมทำพินัยกรรมไว้หมดแล้วให้ทั้งภรรยาและลูก เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรที่เป็นห่วง ใครจะมาขู่ก็ไม่กลัว “ผมยอม ชีวิตผมไม่ได้มีค่าอะไร”
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลการเลือกตั้งล่วงหน้าที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก ว่า จากรายงานของกระทรวงมหาดไทยมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในและนอกเขต เป็นจำนวนที่น่าพอใจ ก็เป็นตัวชี้วัดว่าน่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิในวันที่ 23 ธันวาคม ใกล้เคียงกับจำนวนที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ ก็ขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะถือเป็นจุดสำคัญหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ของไทย เมื่อมีผู้ใช้สิทธิจำนวนมากก็หมายถึงการตัดสินของประชาชน ส่วนจะมีการขยายเป้าเพิ่มจากเดิม 70 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ขยาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงเรื่องการดูแลหีบบัตรของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าที่อาจมีการทุจริตหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้กำชับกระทรวงมหาดไทยเมื่อเช้านี้ (17 ธ.ค.) ไปแล้วว่าขอให้ดูแลเรื่องการเก็บหีบบัตรให้รอบคอบ โดยเฉพาะการประสานระหว่างจังหวัด และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในส่วนของจังหวัด กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ โปร่งใสและเป็นธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ผ่านมาเมื่อมีข้อมูลต่างๆ เข้ามาเราก็เตรียมการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้มีความโปร่งใส โดยเฉพาะเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งหีบบัตรล่วงหน้าที่มีการเก็บไว้ก็จะนำมานับคะแนนรวมในวันที่ 23 ธันวาคมนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นหรือไม่ เพราะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศจะชุมนุมหากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ขอร้องมาโดยตลอดว่าเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างชัดแจ้งและเป็นการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นธรรม ก็ถือเป็นการตัดสินของประชาชน ทุกคนควรจะยอมรับ เพราะไม่เช่นนั้นเราคงมีเพียงแต่ระบอบประชาธิปไตย แต่เรากลับไม่ยอมปฏิบัติตามระบอบนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนถึงวันที่ 23 ธันวาคม เป็นห่วงปัญหาใดมากที่สุด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงเรื่องการดูแลเรื่องความปลอดภัย แต่คิดว่าความพยายามของคนไทยและเจ้าหน้าที่ทุกคน แม้แต่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงเจตนาว่าทุกคนมีความต้องการที่จะให้มีการเลือกตั้ง และในทางการข่าวเรื่องการพยายามล้มการเลือกตั้งนั้น ก็เป็นข่าวที่พูดกันแต่ไม่มีหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า พลเอก เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกมาระบุว่าทหารลงพื้นที่ไปขัดขวางพรรคพลังประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สามารถแจ้งไปยัง กกต. ได้เพื่อดำเนินการตรวจสอบ รัฐบาลคงไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของ กกต. ซึ่งยังไม่ทราบว่าเหตุเกิดที่ไหนอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ออกมาระบุว่าถูกขู่อุ้มฆ่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่ได้ติดต่อกับนางสดศรีฯ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นว่านายกรัฐมนตรีติดต่อกับ กกต.หรือไปกดดัน ซึ่งหากมีปัญหาก็สามารถประสานกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีศูนย์ประสานงานใกล้ชิดกับ กกต.อยู่แล้ว สามารถที่จะดูแลได้ทันที โดยไม่ต้องมาแจ้งกับทางรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเคยถูกขู่บ้างหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถือในเรื่องอะไร เพราะชีวิตตนเองอยู่มาพอสมควรแก่เวลาแล้ว ถ้าเผื่อว่าจะจบสิ้นไปก็คงแค่นั้นไม่มีปัญหาอะไร และเตรียมพร้อมทำพินัยกรรมไว้หมดแล้วให้ทั้งภรรยาและลูก เพราะฉะนั้น ไม่มีอะไรที่เป็นห่วง ใครจะมาขู่ก็ไม่กลัว “ผมยอม ชีวิตผมไม่ได้มีค่าอะไร”
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--