นายกรัฐมนตรีระบุยังไม่ทราบรายละเอียดกรณีข่าวเอฟบีไอจับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัลฯ ในคดีติดสินบนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของททท. ซึ่งทางการไทยคงต้องประสานขอข้อมูลจากสหรัฐฯ ต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมและตำรวจสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ได้จับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิเฟอร์เนีย หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันติดสินบนผู้บริหารระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างปี 2546-2550 เพื่อให้ได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ ว่า ได้ทราบจากสื่อและในบ่ายวันนี้จะได้หารือกับ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คงจะสอบถามว่า มีการประสานงานกับทางสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง คิดว่าน่าจะมีข้อมูลที่สหรัฐฯ จะสามารถส่งให้กับทางการไทยได้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและรัฐบาลชุดที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีรายละเอียด ทราบเบื้องต้นเพียงว่าทางเอฟบีไอได้จับกุมคนสัญชาติสหรัฐฯ และให้คำชี้แจงว่าได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อให้มีการจัดแสดงภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกจะต้องขอข้อมูลจากทางสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการจนถึงที่สุดหรือไม่เพราะข่าวออกไปทั่วโลกและกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายในทุกๆ อย่าง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลา 12.00 น. ที่โรงแรมดุสิตธานี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมด้วย พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก มงคล อัมพรพิสิฎฐ์ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายราล์ฟ แอล.บอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นการส่วนตัว เพื่อเลี้ยงอำลาในโอกาสที่จะพ้นจากตำแหน่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ระหว่างการพูดคุยเป็นการสนทนาเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของนายราล์ฟ แอล. บอยซ์ ที่สามารถพูดภาษาไทยได้ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศไทยน่าจะดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่าเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมและตำรวจสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ได้จับกุมผู้บริหารฟิล์ม เฟสติวัล แมเนจเมนต์ นครลอสแองเจลิส รัฐแคลิเฟอร์เนีย หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีร่วมกันติดสินบนผู้บริหารระดับสูงของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระหว่างปี 2546-2550 เพื่อให้ได้เป็นผู้จัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ กรุงเทพฯ ว่า ได้ทราบจากสื่อและในบ่ายวันนี้จะได้หารือกับ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คงจะสอบถามว่า มีการประสานงานกับทางสหรัฐฯ อย่างไรบ้าง คิดว่าน่าจะมีข้อมูลที่สหรัฐฯ จะสามารถส่งให้กับทางการไทยได้ต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและรัฐบาลชุดที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีรายละเอียด ทราบเบื้องต้นเพียงว่าทางเอฟบีไอได้จับกุมคนสัญชาติสหรัฐฯ และให้คำชี้แจงว่าได้มอบเงินจำนวนหนึ่งให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงเพื่อให้มีการจัดแสดงภาพยนตร์ในประเทศไทย ซึ่งการดำเนินการขั้นแรกจะต้องขอข้อมูลจากทางสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการในขั้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการจนถึงที่สุดหรือไม่เพราะข่าวออกไปทั่วโลกและกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมายในทุกๆ อย่าง
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เวลา 12.00 น. ที่โรงแรมดุสิตธานี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พร้อมด้วย พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก มงคล อัมพรพิสิฎฐ์ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายราล์ฟ แอล.บอยซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เป็นการส่วนตัว เพื่อเลี้ยงอำลาในโอกาสที่จะพ้นจากตำแหน่ง จากนั้น นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ระหว่างการพูดคุยเป็นการสนทนาเกี่ยวกับความสามารถพิเศษของนายราล์ฟ แอล. บอยซ์ ที่สามารถพูดภาษาไทยได้ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศไทยน่าจะดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--