นายกรัฐมนตรีขอบคุณประชาชนที่ตื่นตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเกินเป้า 70% และไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องนักการเมือง พรรคการเมือง น้อมนำกระแสพระราชดำรัสมายึดถือปฏิบัติเพื่อสร้างความปรองดองในชาติ
วันนี้ เมื่อเวลา 20.20 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการพิเศษ “เลือกตั้ง ’50 ชี้อนาคตประเทศไทย” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีนายอดิศักดิ์ ศรีสม เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกฯ พอใจกับผลการเลือกตั้งที่ออกมาในวันนี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ที่ได้ติดตามมาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงปัจจุบัน คิดว่าการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เราได้คาดการณ์ไว้ในทุก ๆ ส่วน ในเรื่องของการบริหารจัดการ การดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าเราได้ดำเนินการมาอย่างค่อนข้างที่จะเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง ไม่มีปัญหาในเรื่องที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการดูแลในด้านของความสงบต่าง ๆ
ผู้ดำเนินรายการ ในแง่ของผู้มาใช้สิทธิ ตัวเลขล่าสุดที่ได้รับจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่าง 71-72 เปอร์เซ็นต์ ที่มีผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งจากการคาดการณ์ตอนแรกบอกว่า 70 เปอร์เซ็นต์พอใจ ในระดับตัวเลขอย่างนี้ท่านนายกฯ มีความเห็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นไปตามที่ได้คาดหมายไว้ และคิดว่าเป็นเสียงที่มากพอ ที่จะเป็นผลต่อการตัดสินใจของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในการที่จะดำเนินการทางการเมืองกันต่อไปข้างหน้าว่า จะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ในส่วนของพี่น้องประชาชนนั้น ผมคงจะต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้มีความตื่นตัวและออกมาใช้เสียงกันค่อนข้างเป็นที่น่าประทับใจ 70 เปอร์เซ็นต์ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เราได้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปมา
ผู้ดำเนินรายการ ทั้งในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และทั้งจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิ หมายความว่าผลของการเลือกตั้งที่ออกมา พรรคการเมืองทุกพรรคควรยอมรับอย่างสนิทใจ ถูกไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ครับ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่มีข้อมูล คงเป็นเรื่องของ กกต. ที่จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่งว่า มีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่เท่าที่ได้ติดตามอย่างที่ กกต. ได้แจ้งมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้แจ้งมา ไม่มีเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นกรณีใหญ่ ๆ แล้วมีความรุนแรงมากมาย ก็ไม่มี ก็มีบ้างเป็นธรรมดา ถือว่าเป็นเรื่องที่ปลีกย่อย ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อการมองภาพรวมของการเลือกตั้ง พูดง่าย ๆ ว่าเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ในการเลือกตั้ง
ผู้ดำเนินรายการ ทั้ง กกต. และรัฐบาลพยายามบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการชี้ถึงทิศทางอนาคตของประเทศไทย ท่านคิดว่าหลังจากนี้ไปทิศทางอนาคตประเทศไทยจะไปทางไหน
นายกรัฐมนตรี ที่ผมคิดคือทิศทางที่เราเดินไปคือทิศทางของประชาธิปไตย เพราะว่าเมื่อพี่น้องออกมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก มีความตื่นตัวในการเลือกตั้ง ความตื่นตัวนี้จะส่งผลต่อเนื่องไปสู่การบริหารงานของรัฐบาลในโอกาสข้างหน้าต่อไป เพราะว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวถ่วงดุลที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องนำไปพิจารณา
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกฯ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อยากจะเห็นให้เป็นไปในทิศทางไหนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ที่ผมคิดคงเป็นเรื่องของการที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีปัญหา คือไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นจนกระทั่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าเสียเวลา อยากให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นเป็นส่วนที่มองภาพว่า ถ้าเผื่อเป็นไปได้ แน่นอนว่าจะต้องมีการเจรจา มีการทำความเข้าใจกันระหว่างพรรคการเมืองต่าง ๆ เพราะว่าเท่าที่ติดตามผลมาแล้ว ยังไม่ได้ถือว่ามีเสียงข้างมากโดยเด็ดขาด ก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 200 กว่า ๆ นิดหน่อย คงจะต้องมีการเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ เพื่อที่จะมีการเข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลขึ้น ผมก็มองว่าการเจรจานี้เองเป็นไปโดยราบรื่นไม่มีปัญหา แล้วดำเนินการไปสู่ขั้นของการจัดตั้งรัฐบาลตามกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้
ผู้ดำเนินรายการ แต่จากสภาพความเป็นจริงทางการเมือง ท่านมีข้อเป็นห่วงข้อใดเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าจะติดปัญหา
นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ยังไม่มี เท่าที่ได้ติดตามมาแล้วทุก ๆ พรรคยังคงสงวนท่าทีกันอยู่ แต่คิดว่าความรู้สึกอันเดียวที่ใกล้เคียงกัน คือ ความต้องการที่จะให้มีการปรองดอง ความต้องการที่จะให้ไม่เกิดเหตุการณ์ที่วุ่นวายขึ้นมา
ผู้ดำเนินรายการ ในความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน วันนี้พรรคการเมืองทั้งหลายบอกว่าอาจจะไม่ยึดกติกาพรรคอันดับ 1 หรือพรรคอันดับ 2 ว่าใครจะจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่เป็นซ้ายและขวา ท่านเห็นอย่างไรระหว่างพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล กับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลได้ และจะเป็นฝ่ายที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ในชาติได้อย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี ในขั้นนี้คงจะไม่สามารถที่จะพูดในส่วนนั้นได้ เพราะผมได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาตลอด และในฐานะที่เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ในขณะนี้ ก็ไม่ควรที่จะไปชิงพูดเพื่อที่จะทำให้เกิดความรู้สึกโน้มเอียงไปในทางหนึ่งทางใด หน้าที่ของผมเกือบคล้าย ๆ กับจะต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการที่จะดูแลเหตุการณ์ในช่วงนี้ให้เป็นไปโดยราบรื่น คือเป็นเรื่องของทางฝ่ายการเมืองมากกว่าที่ผมซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการอยู่ในปัจจุบันจะไปให้ข้อคิดเห็น
ผู้ดำเนินรายการ แต่อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชาชน ซึ่งได้คะแนนมาค่อนข้างมาก ปฏิเสธไหมครับว่าผูกโยงกับอดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) และถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านมีข้อห่วงใยอะไรไหมเกี่ยวกับความไม่ราบรื่นต่อไปทางการเมือง
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าทุกคนตระหนักดีว่าที่มาที่ไปของแต่ละคนเป็นอย่างไร และถ้าหากว่าเราจะยืนอยู่ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และให้มีความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองของเรา นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ที่ผมอยากให้นักการเมือง พรรคการเมืองได้นำไปพิจารณาไตร่ตรองและดำเนินการตามกระแสพระราชดำรัส
ผู้ดำเนินรายการ หลังการเลือกตั้งไปแล้ว อาจจะมีคดีบางคดีของพรรคพลังประชาชนที่อยู่ในการพิจารณาของ กกต. ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากต่อการยุบพรรค จะยิ่งทำให้เกิดความสับสนต่อไปสำหรับประชาชนผู้ไปใช้สิทธิไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าตรงส่วนนี้ต้องแยกจากกัน เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมกับเรื่องทางการเมือง ผมคิดว่าเราไม่ควรเอามาพัวพันกัน ถ้าหากว่าเรานำทุกสิ่งทุกอย่างมาพัวพันกันหมดจะแยกไม่ออก และในเรื่องของความยุติธรรมก็จะสูญเสียไป เรามีอำนาจ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ และ 3 ส่วนนี้ความสัมพันธ์มีอยู่ แต่ไม่ควรจะเข้าไปครอบงำอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จนเกินเหตุ ซึ่งจะเป็นผลเสียในระยะยาว ถ้ามีการครอบงำจนเกินเหตุ
ผู้ดำเนินรายการ ในความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน คิดว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 25 คนต่อไปจากท่านควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร จึงจะนำพาประเทศให้รอดพ้นจากปัญหาต่าง ๆ ไปได้
นายกรัฐมนตรี ตรงนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมคงให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะว่าขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองที่ได้มีการพูดกัน มีการเฟ้นตัวนายกรัฐมนตรี คือรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้แล้วว่า จะต้องดำเนินการโดยทางรัฐสภา ผมคงไม่สามารถที่จะไปพูดในเชิงชี้นำได้
ผู้ดำเนินรายการ ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลของท่านที่จะต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมา ท่านมีอะไรที่จะต้องดำเนินการต่อไปในเรื่องสำคัญ ๆ
นายกรัฐมนตรี ในส่วนของรัฐบาลรักษาการคงจะลดบทบาทลงมามากกว่าในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง ลดบทบาทนี้หมายถึงว่า นโยบายไม่มีแล้ว ก็จะมีการดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อยในเรื่องความต่อเนื่องทางด้านการบริหาร ซึ่งคงจะมีอยู่บ้างคงไม่มากนัก ในช่วงระยะเวลาประมาณสักหนึ่งเดือนกว่า ๆ ที่ยังเหลืออยู่นี้
ผู้ดำเนินรายการ ท่านเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวภายนอกที่ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง อาจจะเป็นกลุ่มต่างๆ มากน้อยแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี อย่างที่ได้เรียนไว้แล้ว เมื่อเราก้าวเดินไปสู่วิถีทางของประชาธิปไตย เราต้องเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่ได้มีการลงคะแนนเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมาก ๆ อย่างนี้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากเห็นและทุกฝ่ายควรจะยอมรับในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในลักษณะเช่นนี้ด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ท่านอยากจะฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชนเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สำคัญ เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญที่ประชาชนทั่วประเทศได้ออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งของตัวเองอย่างถล่มทลาย
นายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มีโอกาสฝากความระลึกถึงและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้กรุณานี้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันอย่างมาก เป็นไปตามเป้าหมายที่ กกต. และรัฐบาลได้คาดการณ์ไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นเสียงตัดสิน เป็นเสียงประชามติจริงๆ ที่ทุก ๆ ฝ่ายควรจะยอมรับ และต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดความสงบ เกิดความเรียบร้อยขึ้นมาตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้จนกระทั่งถึงในขณะนี้ ก็ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ได้รับความสำเร็จอย่างดียิ่ง ทั้งในแง่ของความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ทั้งในแง่ของการดูแลความสงบและการที่ดำเนินเป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถ จะตรวจสอบได้จนถึงขั้นของการนับคะแนนมาในช่วงนี้ ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ผมคิดว่าสิ่งนี้คือความสำเร็จที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของคนไทยทุกคนที่ได้มีส่วนร่วมทำให้ประชาธิปไตยของเราได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ขอบคุณครับ
ผู้ดำเนินรายการ มีคนบอกว่าท่านเบื่อเป็นนายกฯ แล้ว จริงไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมได้พูดไว้นานแล้วว่า ในเรื่องของการทำหน้าที่ ผมถือว่าเป็นหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อได้เข้าไปถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว นั่นคือหน้าที่ที่ผมจะต้องทำให้ลุล่วงไปตามที่ได้ถวายสัตย์ คือคำว่าเบื่อ ก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะพูดได้ แต่เมื่อพูดถึงหน้าที่ เบื่อไม่ได้
ผู้ดำเนินรายการ โอกาสจะกลับมาในเส้นทางการเมืองมีไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่ได้คิดที่จะมาทำหน้าที่ หรือว่ามีชีวิตในเส้นทางทางการเมือง หน้าที่ก็คือหน้าที่ แต่ว่าถ้าให้ตัวผมเองเป็นคนตัดสิน คงไม่เดินในเส้นทางทางการเมือง ผู้ดำเนินรายการ แสดงว่าหลังจากนี้ไป ตั้งรัฐบาลใหม่ และเข้ารับหน้าที่ ก็โล่งใจแล้วใช่ไหมครับนายกรัฐมนตรี แน่นอน ผมคงสบายใจและโล่งใจ ที่บ้านเมืองได้ผ่านพ้นช่วงเวลาซึ่งถือว่าเป็นห้วงเวลาที่วิกฤตมาได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เมื่อเวลา 20.20 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการพิเศษ “เลือกตั้ง ’50 ชี้อนาคตประเทศไทย” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ โดยมีนายอดิศักดิ์ ศรีสม เป็นผู้ดำเนินรายการ
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกฯ พอใจกับผลการเลือกตั้งที่ออกมาในวันนี้หรือไม่
นายกรัฐมนตรี ที่ได้ติดตามมาตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงปัจจุบัน คิดว่าการที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เราได้คาดการณ์ไว้ในทุก ๆ ส่วน ในเรื่องของการบริหารจัดการ การดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อยก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คิดว่าเราได้ดำเนินการมาอย่างค่อนข้างที่จะเรียบร้อยไม่มีเหตุการณ์ที่รุนแรง ไม่มีปัญหาในเรื่องที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการดูแลในด้านของความสงบต่าง ๆ
ผู้ดำเนินรายการ ในแง่ของผู้มาใช้สิทธิ ตัวเลขล่าสุดที่ได้รับจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่าง 71-72 เปอร์เซ็นต์ ที่มีผู้มาใช้สิทธิ ซึ่งจากการคาดการณ์ตอนแรกบอกว่า 70 เปอร์เซ็นต์พอใจ ในระดับตัวเลขอย่างนี้ท่านนายกฯ มีความเห็นอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ถือว่าเป็นไปตามที่ได้คาดหมายไว้ และคิดว่าเป็นเสียงที่มากพอ ที่จะเป็นผลต่อการตัดสินใจของพรรคการเมืองต่าง ๆ ในการที่จะดำเนินการทางการเมืองกันต่อไปข้างหน้าว่า จะดำเนินการกันอย่างไรต่อไป ในส่วนของพี่น้องประชาชนนั้น ผมคงจะต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้มีความตื่นตัวและออกมาใช้เสียงกันค่อนข้างเป็นที่น่าประทับใจ 70 เปอร์เซ็นต์ถือว่ามากที่สุดเท่าที่เราได้มีการจัดการเลือกตั้งทั่วไปมา
ผู้ดำเนินรายการ ทั้งในเรื่องของการจัดการเลือกตั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย และทั้งจำนวนผู้ที่มาใช้สิทธิ หมายความว่าผลของการเลือกตั้งที่ออกมา พรรคการเมืองทุกพรรคควรยอมรับอย่างสนิทใจ ถูกไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ครับ ถ้าหากว่าไม่มีปัญหาในเรื่องของการซื้อสิทธิขายเสียง ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่มีข้อมูล คงเป็นเรื่องของ กกต. ที่จะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่งว่า มีปัญหาอะไรหรือไม่ แต่เท่าที่ได้ติดตามอย่างที่ กกต. ได้แจ้งมา ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้แจ้งมา ไม่มีเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นกรณีใหญ่ ๆ แล้วมีความรุนแรงมากมาย ก็ไม่มี ก็มีบ้างเป็นธรรมดา ถือว่าเป็นเรื่องที่ปลีกย่อย ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อการมองภาพรวมของการเลือกตั้ง พูดง่าย ๆ ว่าเป็นไปด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ในการเลือกตั้ง
ผู้ดำเนินรายการ ทั้ง กกต. และรัฐบาลพยายามบอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นการชี้ถึงทิศทางอนาคตของประเทศไทย ท่านคิดว่าหลังจากนี้ไปทิศทางอนาคตประเทศไทยจะไปทางไหน
นายกรัฐมนตรี ที่ผมคิดคือทิศทางที่เราเดินไปคือทิศทางของประชาธิปไตย เพราะว่าเมื่อพี่น้องออกมาใช้สิทธิกันเป็นจำนวนมาก มีความตื่นตัวในการเลือกตั้ง ความตื่นตัวนี้จะส่งผลต่อเนื่องไปสู่การบริหารงานของรัฐบาลในโอกาสข้างหน้าต่อไป เพราะว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนมีส่วนร่วมเป็นอย่างมาก นั่นเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะเป็นตัวถ่วงดุลที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องนำไปพิจารณา
ผู้ดำเนินรายการ ท่านนายกฯ มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อยากจะเห็นให้เป็นไปในทิศทางไหนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี ที่ผมคิดคงเป็นเรื่องของการที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีปัญหา คือไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นจนกระทั่งทำให้การจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าเสียเวลา อยากให้เป็นไปตามกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ นั่นเป็นส่วนที่มองภาพว่า ถ้าเผื่อเป็นไปได้ แน่นอนว่าจะต้องมีการเจรจา มีการทำความเข้าใจกันระหว่างพรรคการเมืองต่าง ๆ เพราะว่าเท่าที่ติดตามผลมาแล้ว ยังไม่ได้ถือว่ามีเสียงข้างมากโดยเด็ดขาด ก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 200 กว่า ๆ นิดหน่อย คงจะต้องมีการเจรจากับพรรคการเมืองอื่น ๆ เพื่อที่จะมีการเข้าไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลขึ้น ผมก็มองว่าการเจรจานี้เองเป็นไปโดยราบรื่นไม่มีปัญหา แล้วดำเนินการไปสู่ขั้นของการจัดตั้งรัฐบาลตามกำหนดเวลาที่ได้กำหนดไว้
ผู้ดำเนินรายการ แต่จากสภาพความเป็นจริงทางการเมือง ท่านมีข้อเป็นห่วงข้อใดเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าจะติดปัญหา
นายกรัฐมนตรี ในขณะนี้ยังไม่มี เท่าที่ได้ติดตามมาแล้วทุก ๆ พรรคยังคงสงวนท่าทีกันอยู่ แต่คิดว่าความรู้สึกอันเดียวที่ใกล้เคียงกัน คือ ความต้องการที่จะให้มีการปรองดอง ความต้องการที่จะให้ไม่เกิดเหตุการณ์ที่วุ่นวายขึ้นมา
ผู้ดำเนินรายการ ในความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน วันนี้พรรคการเมืองทั้งหลายบอกว่าอาจจะไม่ยึดกติกาพรรคอันดับ 1 หรือพรรคอันดับ 2 ว่าใครจะจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่เป็นซ้ายและขวา ท่านเห็นอย่างไรระหว่างพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาล กับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลได้ และจะเป็นฝ่ายที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ในชาติได้อย่างแท้จริง
นายกรัฐมนตรี ในขั้นนี้คงจะไม่สามารถที่จะพูดในส่วนนั้นได้ เพราะผมได้ติดตามสถานการณ์ทางการเมืองมาตลอด และในฐานะที่เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ในขณะนี้ ก็ไม่ควรที่จะไปชิงพูดเพื่อที่จะทำให้เกิดความรู้สึกโน้มเอียงไปในทางหนึ่งทางใด หน้าที่ของผมเกือบคล้าย ๆ กับจะต้องทำหน้าที่เป็นกรรมการที่จะดูแลเหตุการณ์ในช่วงนี้ให้เป็นไปโดยราบรื่น คือเป็นเรื่องของทางฝ่ายการเมืองมากกว่าที่ผมซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลรักษาการอยู่ในปัจจุบันจะไปให้ข้อคิดเห็น
ผู้ดำเนินรายการ แต่อย่างไรก็ตามพรรคพลังประชาชน ซึ่งได้คะแนนมาค่อนข้างมาก ปฏิเสธไหมครับว่าผูกโยงกับอดีตนายกรัฐมนตรี (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) และถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านมีข้อห่วงใยอะไรไหมเกี่ยวกับความไม่ราบรื่นต่อไปทางการเมือง
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าทุกคนตระหนักดีว่าที่มาที่ไปของแต่ละคนเป็นอย่างไร และถ้าหากว่าเราจะยืนอยู่ตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และให้มีความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองของเรา นั่นคือเป้าหมายสูงสุด ที่ผมอยากให้นักการเมือง พรรคการเมืองได้นำไปพิจารณาไตร่ตรองและดำเนินการตามกระแสพระราชดำรัส
ผู้ดำเนินรายการ หลังการเลือกตั้งไปแล้ว อาจจะมีคดีบางคดีของพรรคพลังประชาชนที่อยู่ในการพิจารณาของ กกต. ซึ่งสุ่มเสี่ยงมากต่อการยุบพรรค จะยิ่งทำให้เกิดความสับสนต่อไปสำหรับประชาชนผู้ไปใช้สิทธิไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมคิดว่าตรงส่วนนี้ต้องแยกจากกัน เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมกับเรื่องทางการเมือง ผมคิดว่าเราไม่ควรเอามาพัวพันกัน ถ้าหากว่าเรานำทุกสิ่งทุกอย่างมาพัวพันกันหมดจะแยกไม่ออก และในเรื่องของความยุติธรรมก็จะสูญเสียไป เรามีอำนาจ 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ และ 3 ส่วนนี้ความสัมพันธ์มีอยู่ แต่ไม่ควรจะเข้าไปครอบงำอีกฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จนเกินเหตุ ซึ่งจะเป็นผลเสียในระยะยาว ถ้ามีการครอบงำจนเกินเหตุ
ผู้ดำเนินรายการ ในความคิดเห็นส่วนตัวของท่าน คิดว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 25 คนต่อไปจากท่านควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร จึงจะนำพาประเทศให้รอดพ้นจากปัญหาต่าง ๆ ไปได้
นายกรัฐมนตรี ตรงนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมคงให้ข้อคิดเห็นไม่ได้ เพราะว่าขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองที่ได้มีการพูดกัน มีการเฟ้นตัวนายกรัฐมนตรี คือรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้แล้วว่า จะต้องดำเนินการโดยทางรัฐสภา ผมคงไม่สามารถที่จะไปพูดในเชิงชี้นำได้
ผู้ดำเนินรายการ ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาลของท่านที่จะต่อเนื่องกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะมา ท่านมีอะไรที่จะต้องดำเนินการต่อไปในเรื่องสำคัญ ๆ
นายกรัฐมนตรี ในส่วนของรัฐบาลรักษาการคงจะลดบทบาทลงมามากกว่าในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้ง ลดบทบาทนี้หมายถึงว่า นโยบายไม่มีแล้ว ก็จะมีการดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อยในเรื่องความต่อเนื่องทางด้านการบริหาร ซึ่งคงจะมีอยู่บ้างคงไม่มากนัก ในช่วงระยะเวลาประมาณสักหนึ่งเดือนกว่า ๆ ที่ยังเหลืออยู่นี้
ผู้ดำเนินรายการ ท่านเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องการเคลื่อนไหวภายนอกที่ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง อาจจะเป็นกลุ่มต่างๆ มากน้อยแค่ไหน
นายกรัฐมนตรี อย่างที่ได้เรียนไว้แล้ว เมื่อเราก้าวเดินไปสู่วิถีทางของประชาธิปไตย เราต้องเคารพในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนที่ได้มีการลงคะแนนเลือกตั้งมาเป็นจำนวนมาก ๆ อย่างนี้ นี่คือสิ่งที่ผมอยากเห็นและทุกฝ่ายควรจะยอมรับในการตัดสินใจของพี่น้องประชาชนในลักษณะเช่นนี้ด้วย
ผู้ดำเนินรายการ ท่านอยากจะฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชนเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สำคัญ เพราะวันนี้เป็นวันสำคัญที่ประชาชนทั่วประเทศได้ออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งของตัวเองอย่างถล่มทลาย
นายกรัฐมนตรี อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้มีโอกาสฝากความระลึกถึงและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้กรุณานี้ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันอย่างมาก เป็นไปตามเป้าหมายที่ กกต. และรัฐบาลได้คาดการณ์ไว้ นั่นเป็นสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นเสียงตัดสิน เป็นเสียงประชามติจริงๆ ที่ทุก ๆ ฝ่ายควรจะยอมรับ และต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ ผู้ที่ได้มีส่วนช่วยในการทำให้เกิดความสงบ เกิดความเรียบร้อยขึ้นมาตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้จนกระทั่งถึงในขณะนี้ ก็ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ได้รับความสำเร็จอย่างดียิ่ง ทั้งในแง่ของความร่วมมือของพี่น้องประชาชน ทั้งในแง่ของการดูแลความสงบและการที่ดำเนินเป็นไปอย่างโปร่งใส สามารถ จะตรวจสอบได้จนถึงขั้นของการนับคะแนนมาในช่วงนี้ ก็ไม่มีปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น ผมคิดว่าสิ่งนี้คือความสำเร็จที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของคนไทยทุกคนที่ได้มีส่วนร่วมทำให้ประชาธิปไตยของเราได้ก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง ขอบคุณครับ
ผู้ดำเนินรายการ มีคนบอกว่าท่านเบื่อเป็นนายกฯ แล้ว จริงไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมได้พูดไว้นานแล้วว่า ในเรื่องของการทำหน้าที่ ผมถือว่าเป็นหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อได้เข้าไปถวายสัตย์ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว นั่นคือหน้าที่ที่ผมจะต้องทำให้ลุล่วงไปตามที่ได้ถวายสัตย์ คือคำว่าเบื่อ ก็คงเป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะพูดได้ แต่เมื่อพูดถึงหน้าที่ เบื่อไม่ได้
ผู้ดำเนินรายการ โอกาสจะกลับมาในเส้นทางการเมืองมีไหมครับ
นายกรัฐมนตรี ผมไม่ได้คิดที่จะมาทำหน้าที่ หรือว่ามีชีวิตในเส้นทางทางการเมือง หน้าที่ก็คือหน้าที่ แต่ว่าถ้าให้ตัวผมเองเป็นคนตัดสิน คงไม่เดินในเส้นทางทางการเมือง ผู้ดำเนินรายการ แสดงว่าหลังจากนี้ไป ตั้งรัฐบาลใหม่ และเข้ารับหน้าที่ ก็โล่งใจแล้วใช่ไหมครับนายกรัฐมนตรี แน่นอน ผมคงสบายใจและโล่งใจ ที่บ้านเมืองได้ผ่านพ้นช่วงเวลาซึ่งถือว่าเป็นห้วงเวลาที่วิกฤตมาได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--