นายกรัฐมนตรีตรวจความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน โดยทุกหน่วยงานจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งดูแลอุบัติเหตุจากการดื่มสุราและขับรถเร็วอย่างเคร่งครัด
เมื่อเวลา 15.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางตรวจความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุปรายงานด้านข่าวกรองและการเตรียมความพร้อมของแผนรักษาความมั่นคง
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรับฟังบรรยายสรุปของกองอำนวยการร่วมตำรวจ ทหาร และกรุงเทพมหานคร ในการป้องกันอาชญากรรมและเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโท อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจจราจร โดยได้ตรวจความเรียบร้อยด้านการจราจร และการตั้งจุดสกัดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามจุดต่าง ๆ
ภายหลังตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้รับทราบการปฏิบัติงานและการเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ พลเรือน ทหาร ที่มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี และขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจะได้ติดตามประเมินผล เพื่อให้การทำงานมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้มีการประเมินในเรื่องของอุบัติเหตุช่วงวันแรกของเทศกาลปีใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้วางแนวทางในการป้องกันไว้แล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราและการขับขี่ยานพาหนะที่รวดเร็ว จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้อุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นลดน้อยลง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลได้ เพราะต้องรวบรวมข้อมูลทุกส่วนให้ครบ ทั้งการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ และการเดินทางกลับจากต่างจังหวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจดูการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุที่ กอ.รมน. และ สมช. ได้รับรายงานเรื่องการก่อเหตุร้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน และที่ผ่านมาได้มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตามบุคคลที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ส่วน กทม. ก็ดูแลในพื้นที่ โดยมีเครื่องมือในการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ใน กทม. มีหลายพื้นที่หลัก ๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง โดยจะเป็นจุดที่มีประชาชนมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก ก็ได้ฝากให้ กทม. กระจายการจัดงาน ไม่ควรรวมกันอยู่ในพื้นที่เดียว ขณะที่การดูแลในพื้นที่จัดงานปีใหม่ ไม่ให้มีการตั้งถังขยะหรือสิ่งที่ล่อแหลมต่อการวางระเบิด เช่น แยกราชประสงค์ สนามหลวง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการเตรียมการป้องกันในจุดต่าง ๆ รวมทั้งมีเครือข่ายภาคประชาชนขึ้นมาดูแลจัดระเบียบพื้นที่ และความร่วมมือร่วมใจจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การก่อเหตุทำได้ยาก ส่วนการเฝ้าระวังเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวันหยุดยาวนั้น ก็ได้หารือกับ กอ.รมน.ภาค 4 ในการเตรียมรับมืออย่างรอบคอบในพื้นที่สำคัญ โดยจะไม่ประมาท และจะดูแลอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เฉพาะใน 3 จังหวัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่ง จะมีการแถลงการณ์ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากการทำงานที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลที่จะแถลงต่อสาธารณชน และในวันที่ 31 ธันวาคมนี้จะไม่ไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน แต่จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 15.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางตรวจความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมรับฟังบรรยายสรุปรายงานด้านข่าวกรองและการเตรียมความพร้อมของแผนรักษาความมั่นคง
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อรับฟังบรรยายสรุปของกองอำนวยการร่วมตำรวจ ทหาร และกรุงเทพมหานคร ในการป้องกันอาชญากรรมและเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมี พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโท อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมด้วย จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจจราจร โดยได้ตรวจความเรียบร้อยด้านการจราจร และการตั้งจุดสกัดตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามจุดต่าง ๆ
ภายหลังตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มาตรวจเยี่ยมดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งได้รับทราบการปฏิบัติงานและการเตรียมความพร้อมของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ พลเรือน ทหาร ที่มีการประสานงานกันเป็นอย่างดี และขณะนี้ยังไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งจะได้ติดตามประเมินผล เพื่อให้การทำงานมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ได้มีการประเมินในเรื่องของอุบัติเหตุช่วงวันแรกของเทศกาลปีใหม่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้วางแนวทางในการป้องกันไว้แล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการดื่มสุราและการขับขี่ยานพาหนะที่รวดเร็ว จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้อุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นลดน้อยลง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลได้ เพราะต้องรวบรวมข้อมูลทุกส่วนให้ครบ ทั้งการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ และการเดินทางกลับจากต่างจังหวัด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ตรวจดูการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังเหตุที่ กอ.รมน. และ สมช. ได้รับรายงานเรื่องการก่อเหตุร้ายหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน และที่ผ่านมาได้มีการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการติดตามบุคคลที่มีพฤติกรรมที่น่าสงสัย ส่วน กทม. ก็ดูแลในพื้นที่ โดยมีเครื่องมือในการเฝ้าระวัง อย่างไรก็ตาม ใน กทม. มีหลายพื้นที่หลัก ๆ ที่ต้องเฝ้าระวัง โดยจะเป็นจุดที่มีประชาชนมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมาก ก็ได้ฝากให้ กทม. กระจายการจัดงาน ไม่ควรรวมกันอยู่ในพื้นที่เดียว ขณะที่การดูแลในพื้นที่จัดงานปีใหม่ ไม่ให้มีการตั้งถังขยะหรือสิ่งที่ล่อแหลมต่อการวางระเบิด เช่น แยกราชประสงค์ สนามหลวง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ความมั่นใจกับประชาชนได้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการเตรียมการป้องกันในจุดต่าง ๆ รวมทั้งมีเครือข่ายภาคประชาชนขึ้นมาดูแลจัดระเบียบพื้นที่ และความร่วมมือร่วมใจจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การก่อเหตุทำได้ยาก ส่วนการเฝ้าระวังเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วงวันหยุดยาวนั้น ก็ได้หารือกับ กอ.รมน.ภาค 4 ในการเตรียมรับมืออย่างรอบคอบในพื้นที่สำคัญ โดยจะไม่ประมาท และจะดูแลอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เฉพาะใน 3 จังหวัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่ง จะมีการแถลงการณ์ประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากการทำงานที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลที่จะแถลงต่อสาธารณชน และในวันที่ 31 ธันวาคมนี้จะไม่ไปเคาท์ดาวน์ที่ไหน แต่จะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--