นายกรัฐมนตรีระบุได้สั่งให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติติดตามสถานการณ์การชุมนุมคัดค้านการให้ใบเหลือง ใบแดง พร้อมขอให้ทุกฝ่ายยอมรับกติกาของบ้านเมือง
วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีที่อาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการให้ใบเหลือง ใบแดงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ว่า เรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อย ได้หารือกับพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่ง ผบ.ตร. บอกว่ามีส่วนงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ได้ประสานงานใกล้ชิดกับ กกต. อยู่แล้ว อยากเรียนว่า เมื่อ กกต. ได้ตัดสินชี้หรือวินิจฉัยไปแล้ว คิดว่า กกต. มีหลักฐานที่สมบูรณ์ แต่ไม่มีโอกาสเห็น คิดว่าท่านทั้งหลายที่ถูกวินิจฉัยไม่ว่าจะเป็นใบเหลือง ใบแดง คงจะทราบดีและเห็นว่าทาง กกต.มีหลักฐาน ฉะนั้น การจะใช้กฎหมู่มาบังคับก็เท่ากับว่าบ้านเมืองของเราไม่ยอมรับกฎกติกา ต้องการที่จะเอาชนะในทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคิดว่านั่นไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตย อยากฝากไว้ตรงนี้ว่า ถ้าท่านยอมรับ โอกาสข้างหน้าในทางการเมืองของท่านก็ยังคงมีอยู่ ไม่ใช่จะถึงกับยุติลงไปในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยังทำไม่ได้ เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดความเยิ่นเย้อในการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้เป็นเรื่องของการที่จะดูว่าการเลือกตั้งในแต่ละแห่งที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามานั้น ได้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ ก็ไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่ง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ให้บุตรสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต. มาช่วยทำงานนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่หากมีการแต่งตั้งจริงก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะทำอย่างเปิดเผย ซึ่งหากมีเจตนาไม่ดีก็คงไม่ทำในลักษณะเช่นนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อยกรณีที่อาจมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านการให้ใบเหลือง ใบแดงของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ว่า เรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อย ได้หารือกับพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่ง ผบ.ตร. บอกว่ามีส่วนงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่ได้ประสานงานใกล้ชิดกับ กกต. อยู่แล้ว อยากเรียนว่า เมื่อ กกต. ได้ตัดสินชี้หรือวินิจฉัยไปแล้ว คิดว่า กกต. มีหลักฐานที่สมบูรณ์ แต่ไม่มีโอกาสเห็น คิดว่าท่านทั้งหลายที่ถูกวินิจฉัยไม่ว่าจะเป็นใบเหลือง ใบแดง คงจะทราบดีและเห็นว่าทาง กกต.มีหลักฐาน ฉะนั้น การจะใช้กฎหมู่มาบังคับก็เท่ากับว่าบ้านเมืองของเราไม่ยอมรับกฎกติกา ต้องการที่จะเอาชนะในทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้ ซึ่งคิดว่านั่นไม่ใช่วิถีทางของประชาธิปไตย อยากฝากไว้ตรงนี้ว่า ถ้าท่านยอมรับ โอกาสข้างหน้าในทางการเมืองของท่านก็ยังคงมีอยู่ ไม่ใช่จะถึงกับยุติลงไปในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลยังทำไม่ได้ เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าไม่ได้เป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญที่ทำให้เกิดความเยิ่นเย้อในการจัดตั้งรัฐบาล ตอนนี้เป็นเรื่องของการที่จะดูว่าการเลือกตั้งในแต่ละแห่งที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามานั้น ได้มีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ ก็ไปสู่อีกขั้นตอนหนึ่ง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ให้บุตรสาวของนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต. มาช่วยทำงานนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่หากมีการแต่งตั้งจริงก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะทำอย่างเปิดเผย ซึ่งหากมีเจตนาไม่ดีก็คงไม่ทำในลักษณะเช่นนี้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--