นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 680 คน เข้ารับโล่เกียรติคุณและของที่ระลึกจาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี
วันนี้ เวลา 10.00 น.ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 680 คน เข้ารับโล่เกียรติคุณและของที่ระลึกจาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจที่ได้ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2551
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวรายงานว่า การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2551 คณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2551 ได้คัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นออกเป็น 2 ประเภทคือ 1) เด็กและเยาวชนดีเด่นที่มีความประพฤติดี ช่วยเหลือสังคม มีคุณธรรม และจริยธรรม ซึ่งคัดเลือกจากส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ 17 หน่วยงาน จำนวน 482 คน 2) เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปะและดนตรี ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ด้านกีฬาและนันทนาการ และด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ จำนวน 198 คน รวมทั้งสิ้น 680 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบโล่เกียรติคุณและของที่ระลึก พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า เด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ถือเป็นผู้ที่มีความรู้คู่คุณธรรม มีความประพฤติการปฏิบัติตนที่ดีงามและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ
เด็กและเยาวชนทุกคน เป็นบุคลากรที่มีค่ายิ่งของทุกสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคตของชาติบ้านเมือง สังคมใดที่มีเด็กและเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมนำความรู้ ย่อมจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองในอนาคตได้เป็นอย่างดี ในทางที่กลับกัน หากสังคมใดมีเด็กและเยาวชนที่ด้อยคุณภาพ อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไรทุกคนก็คงจะคาดเดากันได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เด็กและเยาวชนเป็นวัยที่อยู่ในระยะเวลาของการศึกษา การปลูกฝังทั้งวิชาความรู้และปัญญา เป็นวัยของการเริ่มต้นของชีวิต ถ้าเริ่มต้นไม่ดีชีวิตข้างหน้าก็จะไม่ราบรื่น การเริ่มต้นที่ถูกที่ดีนั้น นอกจากพื้นฐานทางวิชาการจะต้องหนักแน่นแล้ว การศึกษาอบรมในเรื่องของศีลธรรมควบคู่กันไป ย่อมจะทำให้เด็กและเยาวชนมีหลักธรรมปฏิบัติติดตัวจนเป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้เป็นข้อคิดและเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังต่อไป
สังคมไทยทุกวันนี้มีสภาพความเป็นสังคมแห่งการบริโภคนิยมมากขึ้น หากเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการฝึกฝนหรือปลูกฝังให้รู้เท่าทันแล้ว ย่อมจะหลุดลอยไปตามกระแสและยากที่จะนำกลับมาได้ แต่หากทุกคนรู้จักปฏิบัติตนในทางธรรม ย่อมจะมีภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถเป็นทั้งคนเก่งและคนดีของสังคมได้ อีกทั้งจะสามารถช่วยสร้างเสริมสังคมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้องดีงามเป็นสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติสุข
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ยึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นต่อไป และการที่รัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2551 ว่า "สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม" นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการได้พยายามที่จะสอดแทรกในเรื่องของการเรียนรู้ของเด็กไทยให้ได้มีโอกาสที่กว้างขวางขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติในโอกาสข้างหน้าต่อไป เพื่อที่จะได้มีสังคมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
จากนั้นตัวแทนเด็กและเยาวชนได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีว่า "พวกเราทุกคนขอสัญญาว่าจะเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ จงยึดมั่นและปฏิบัติตามคำขวัญของเด็ก และจะรักษาไว้ซึ่งความดี ประพฤติตนเป็นเด็กดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความกตัญญูกตเวที ต่อบิดา มารดา ครู อาจารย์และผู้มีพระคุณ มีความมานะอดทนช่วยเหลือบิดา มารดาประกอบอาชีพที่สุจริต บำเพ็ญให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนสืบต่อไป" พร้อมกันนี้เด็กและเยาวชนดีเด่นจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้นำของขวัญซึ่งส่วนใหญ่เป็นของที่เด็กและเยาวชนได้ทำขึ้นเอง หรือเป็นของดีประจำจังหวัด มามอบให้กับนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเด็กและเยาวชนทุกคนที่ได้นำสิ่งของมามอบให้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนได้แสดงความมีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อซึ่งหาได้น้อยในสังคมของชนชาติอื่น พร้อมขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ใฝ่เรียนรู้ การเรียนรู้จะต้องเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต มิใช่เฉพาะเพียงช่วงเวลาที่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาเท่านั้น ไม่มีใครเข้าโรงเรียนเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และไม่มีหลักสูตรใดสอนให้เป็น ทุกคนจะต้องเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา ทุกคน ทุกตำแหน่งจะต้องมีวิธีการในการเรียนรู้ และค้นหาข้อบกพร่องของตนเอง เพื่อนำมาปรับปรุงในการใช้ชีวิต การเรียน และการทำงานต่อไป รวมทั้งขอให้พยายามรักษาความดีไว้ให้นานเท่านานที่สุด จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายเด็กและเยาวชนอย่างทั่วถึง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น.ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำเด็กและเยาวชนดีเด่นและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 680 คน เข้ารับโล่เกียรติคุณและของที่ระลึกจาก พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจที่ได้ประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2551
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวรายงานว่า การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2551 คณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2551 ได้คัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่นออกเป็น 2 ประเภทคือ 1) เด็กและเยาวชนดีเด่นที่มีความประพฤติดี ช่วยเหลือสังคม มีคุณธรรม และจริยธรรม ซึ่งคัดเลือกจากส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ 17 หน่วยงาน จำนวน 482 คน 2) เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ โดยแบ่งออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านวิชาการ ด้านศิลปะและดนตรี ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ด้านกีฬาและนันทนาการ และด้านทักษะฝีมือวิชาชีพ จำนวน 198 คน รวมทั้งสิ้น 680 คน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบโล่เกียรติคุณและของที่ระลึก พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชนว่า เด็กและเยาวชนที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ถือเป็นผู้ที่มีความรู้คู่คุณธรรม มีความประพฤติการปฏิบัติตนที่ดีงามและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ
เด็กและเยาวชนทุกคน เป็นบุคลากรที่มีค่ายิ่งของทุกสังคมทั้งในปัจจุบันและอนาคตของชาติบ้านเมือง สังคมใดที่มีเด็กและเยาวชนที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมนำความรู้ ย่อมจะนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมืองในอนาคตได้เป็นอย่างดี ในทางที่กลับกัน หากสังคมใดมีเด็กและเยาวชนที่ด้อยคุณภาพ อนาคตของชาติจะเป็นอย่างไรทุกคนก็คงจะคาดเดากันได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า เด็กและเยาวชนเป็นวัยที่อยู่ในระยะเวลาของการศึกษา การปลูกฝังทั้งวิชาความรู้และปัญญา เป็นวัยของการเริ่มต้นของชีวิต ถ้าเริ่มต้นไม่ดีชีวิตข้างหน้าก็จะไม่ราบรื่น การเริ่มต้นที่ถูกที่ดีนั้น นอกจากพื้นฐานทางวิชาการจะต้องหนักแน่นแล้ว การศึกษาอบรมในเรื่องของศีลธรรมควบคู่กันไป ย่อมจะทำให้เด็กและเยาวชนมีหลักธรรมปฏิบัติติดตัวจนเป็นนิสัย สิ่งเหล่านี้เป็นข้อคิดและเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องร่วมกันส่งเสริมให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังต่อไป
สังคมไทยทุกวันนี้มีสภาพความเป็นสังคมแห่งการบริโภคนิยมมากขึ้น หากเด็กและเยาวชนไม่ได้รับการฝึกฝนหรือปลูกฝังให้รู้เท่าทันแล้ว ย่อมจะหลุดลอยไปตามกระแสและยากที่จะนำกลับมาได้ แต่หากทุกคนรู้จักปฏิบัติตนในทางธรรม ย่อมจะมีภูมิคุ้มกันที่ดี สามารถเป็นทั้งคนเก่งและคนดีของสังคมได้ อีกทั้งจะสามารถช่วยสร้างเสริมสังคมและประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าในทิศทางที่ถูกต้องดีงามเป็นสังคมที่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบและสันติสุข
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ยึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นต่อไป และการที่รัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2551 ว่า "สามัคคี มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ เชิดชูคุณธรรม" นั้น เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางที่กระทรวงศึกษาธิการได้พยายามที่จะสอดแทรกในเรื่องของการเรียนรู้ของเด็กไทยให้ได้มีโอกาสที่กว้างขวางขึ้น เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติในโอกาสข้างหน้าต่อไป เพื่อที่จะได้มีสังคมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
จากนั้นตัวแทนเด็กและเยาวชนได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีว่า "พวกเราทุกคนขอสัญญาว่าจะเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ จงยึดมั่นและปฏิบัติตามคำขวัญของเด็ก และจะรักษาไว้ซึ่งความดี ประพฤติตนเป็นเด็กดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความกตัญญูกตเวที ต่อบิดา มารดา ครู อาจารย์และผู้มีพระคุณ มีความมานะอดทนช่วยเหลือบิดา มารดาประกอบอาชีพที่สุจริต บำเพ็ญให้เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประพฤติตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนสืบต่อไป" พร้อมกันนี้เด็กและเยาวชนดีเด่นจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ได้นำของขวัญซึ่งส่วนใหญ่เป็นของที่เด็กและเยาวชนได้ทำขึ้นเอง หรือเป็นของดีประจำจังหวัด มามอบให้กับนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณเด็กและเยาวชนทุกคนที่ได้นำสิ่งของมามอบให้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนได้แสดงความมีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อซึ่งหาได้น้อยในสังคมของชนชาติอื่น พร้อมขอให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้ใฝ่เรียนรู้ การเรียนรู้จะต้องเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต มิใช่เฉพาะเพียงช่วงเวลาที่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาเท่านั้น ไม่มีใครเข้าโรงเรียนเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี และไม่มีหลักสูตรใดสอนให้เป็น ทุกคนจะต้องเรียนรู้ด้วยตนเองตลอดเวลา ทุกคน ทุกตำแหน่งจะต้องมีวิธีการในการเรียนรู้ และค้นหาข้อบกพร่องของตนเอง เพื่อนำมาปรับปรุงในการใช้ชีวิต การเรียน และการทำงานต่อไป รวมทั้งขอให้พยายามรักษาความดีไว้ให้นานเท่านานที่สุด จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายเด็กและเยาวชนอย่างทั่วถึง
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--