พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน "การจัดงาน 52 ปี วันครู เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550
วันนี้ เวลา 09.00 น.ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน "การจัดงาน 52 ปี วันครู เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550" เนื่องในงานวันครู ประจำปี 2551 โดยมีคำขวัญว่า "ครูของแผ่นดิน เลิศศิลป์ศาสตร์ มหาราชภูมิพล ชนบูชา" ผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการคุรุสภาพ ครู ผู้บริหารทางการศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการ และประชาชน
นายเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวรายงานว่า วันครูถือเป็นวันที่ครูและศิษย์ทั้งหลายได้ระลึกถึงครูผู้มีพระคุณในฐานะผู้ให้ความรู้และสร้างคุณธรรม ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม โดยเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จนถึงปัจจุบัน สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันครูในปีนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 รวมทั้งเพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริม เชิดชูเกียรติวิชาชีพครู และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพครูกับประชาชนในการพัฒนาการศึกษาของชาติและสังคม
การจัดงานวันครูในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานวันครูได้กำหนดให้จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลางจัดที่บริเวณหอประชุมคุรุสภา ส่วนภูมิภาคจัดที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาของศูนย์มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา สมาคม/ชมรมที่เป็นเครือข่ายของคุรุสภา รวมทั้งอำเภอและสถานศึกษา ทั้งนี้ เพื่อระลึกว่าทุกคนเป็นศิษย์มีครู และไม่ลืมพระคุณของครู
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้อ่านโองการอัญเชิญบูชาบูรพาจารย์ ครูอาวุโสนอกประจำการ ครูอาวุโสในประจำการ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ มอบรางวัลแก่ผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับรางวัลคุรุสภา ผู้ได้รับรางวัลตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู ผู้ชนะเลิศการประกวดคำขวัญวันครู ผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู ผู้ชนะเลิศการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู และรับมอบเงินจาก นายนัดดา บุรณศิริ ประธานกรรมการบริษัทวอร์เนอร์มิวสิค(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมทบมูลนิธิช่วยครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัยจากการก่อเหตุร้าย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยกย่องความสำคัญของครูทุกคนว่า สังคมโลกและสังคมไทยไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของครูไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มมากขึ้นตามสภาพของสังคมที่มีความซับซ้อนและปัญหาของเด็กและเยาวชนที่มีมากขึ้น ตามไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงของสังคมและของโลก มีทั้งความเจริญก้าวหน้าและวิกฤติหรือมีปัญหาในทางเสื่อมหลายแง่มุม บทบาทของครูไม่เพียงแค่การปฏิบัติอย่างที่เคยทำกันมาอย่างยาวนานในอดีตเท่านั้น แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพของสังคม เพื่อครูจะสามารถเป็นผู้ที่มีบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้ที่ช่วยเพิ่มจุดแข็งและลดจุดอ่อนให้แก่สังคม ซึ่งถือว่าเป็นครูในอุดมคติของคนส่วนใหญ่ และเป็นปูชนียบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือศรัทธา มีบทบาทในการนำพาบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบทบาทของครูในยุคสมัยว่า การสื่อสารทางเดียวในฐานะผู้สอนหรือผู้ให้ความรู้ยังไม่เพียงพอ ครูจะต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นผู้ชี้ทางการแก้ปัญหา กระตุ้นให้คนรู้จักแสวงหาความรู้อย่างยั่งยืน หรือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ครูต้องเรียนรู้เพื่อจะได้เป็นผู้ที่รอบรู้ เพื่อพัฒนาทักษะและวิธีการให้ความรู้ใหม่ๆ เป็นผู้ที่มีหูตากว้างไกล มีทัศนคติที่กว้างขวาง รวมทั้งเป็นนักจิตวิทยาชั้นดีที่สามารถสั่งสอน แนะนำ และแก้ไขปัญหาให้เด็กและเยาวชนได้ซึ่งครูที่มีลักษณะเช่นนี้ คือครูที่สังคมมีความคาดหวัง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ เร่งส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูให้บรรลุถึงบทบาท หน้าที่ และสิ่งที่สังคมคาดหวังไว้ ทำให้ครูมีพลังในการทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องเต็มศักยภาพ และมีความสุข ความมั่นคงในการประกอบวิชาชีพ เพื่อประโยชน์ทั้งหมดจะได้ตกอยู่ที่เด็ก เยาวชนและสังคมไทย
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจครูทุกคนว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความเสียสละ ความอดทน และด้วยศรัทธาของความเป็นครูที่มีอยู่ในจิตใจของทุกท่าน พร้อมกล่าวชื่นชมครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้ปฏิบัติงานจนมีผลงานดีเด่นและได้รับรางวัลคุรุสภา ครูดีในดวงใจ โรงเรียนที่ได้รับรางวัลผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ตลอดจนผู้ชนะการประกวดคำขวัญ บทร้อยกรอง และข้อเขียนความประทับใจที่มีต่อครู โดยขอให้ผู้ได้รับรางวัลทุกคนมีความภูมิใจในความรู้ ความสามารถและสิ่งที่ได้ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด อีกทั้งขอให้ทุกคนได้ดำรงศักดิ์ศรี รักษาความดีงามนี้ไว้เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้อื่น เพื่อนร่วมวิชาชีพ และเด็กและเยาวชนของชาติต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 09.00 น.ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธาน "การจัดงาน 52 ปี วันครู เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550" เนื่องในงานวันครู ประจำปี 2551 โดยมีคำขวัญว่า "ครูของแผ่นดิน เลิศศิลป์ศาสตร์ มหาราชภูมิพล ชนบูชา" ผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คณะกรรมการคุรุสภาพ ครู ผู้บริหารทางการศึกษา บุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการ และประชาชน
นายเสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ประธานกรรมการคุรุสภา กล่าวรายงานว่า วันครูถือเป็นวันที่ครูและศิษย์ทั้งหลายได้ระลึกถึงครูผู้มีพระคุณในฐานะผู้ให้ความรู้และสร้างคุณธรรม ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม โดยเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จนถึงปัจจุบัน สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานวันครูในปีนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 รวมทั้งเพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริม เชิดชูเกียรติวิชาชีพครู และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบุคลากรผู้ประกอบวิชาชีพครูกับประชาชนในการพัฒนาการศึกษาของชาติและสังคม
การจัดงานวันครูในปีนี้ คณะกรรมการจัดงานวันครูได้กำหนดให้จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ โดยส่วนกลางจัดที่บริเวณหอประชุมคุรุสภา ส่วนภูมิภาคจัดที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาของศูนย์มาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพทางการศึกษา สมาคม/ชมรมที่เป็นเครือข่ายของคุรุสภา รวมทั้งอำเภอและสถานศึกษา ทั้งนี้ เพื่อระลึกว่าทุกคนเป็นศิษย์มีครู และไม่ลืมพระคุณของครู
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบของที่ระลึกให้แก่ผู้อ่านโองการอัญเชิญบูชาบูรพาจารย์ ครูอาวุโสนอกประจำการ ครูอาวุโสในประจำการ และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ มอบรางวัลแก่ผู้ประกอบวิชาชีพที่ได้รับรางวัลคุรุสภา ผู้ได้รับรางวัลตามรอยเกียรติยศครูผู้มีอุดมการณ์และจิตวิญญาณครู ผู้ชนะเลิศการประกวดคำขวัญวันครู ผู้ชนะเลิศประกวดบทร้อยกรองเทิดเกียรติคุณครู ผู้ชนะเลิศการประกวดข้อเขียนความประทับใจที่ศิษย์มีต่อครู และรับมอบเงินจาก นายนัดดา บุรณศิริ ประธานกรรมการบริษัทวอร์เนอร์มิวสิค(ประเทศไทย) จำกัด เพื่อมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมทบมูลนิธิช่วยครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ประสบภัยจากการก่อเหตุร้าย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยกย่องความสำคัญของครูทุกคนว่า สังคมโลกและสังคมไทยไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของครูไม่เคยเปลี่ยนแปลงหรือลดน้อยลง แต่กลับเพิ่มมากขึ้นตามสภาพของสังคมที่มีความซับซ้อนและปัญหาของเด็กและเยาวชนที่มีมากขึ้น ตามไปด้วย
การเปลี่ยนแปลงของสังคมและของโลก มีทั้งความเจริญก้าวหน้าและวิกฤติหรือมีปัญหาในทางเสื่อมหลายแง่มุม บทบาทของครูไม่เพียงแค่การปฏิบัติอย่างที่เคยทำกันมาอย่างยาวนานในอดีตเท่านั้น แต่ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพของสังคม เพื่อครูจะสามารถเป็นผู้ที่มีบทบาทนำในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้ที่ช่วยเพิ่มจุดแข็งและลดจุดอ่อนให้แก่สังคม ซึ่งถือว่าเป็นครูในอุดมคติของคนส่วนใหญ่ และเป็นปูชนียบุคคลที่ได้รับความเชื่อถือศรัทธา มีบทบาทในการนำพาบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้า
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบทบาทของครูในยุคสมัยว่า การสื่อสารทางเดียวในฐานะผู้สอนหรือผู้ให้ความรู้ยังไม่เพียงพอ ครูจะต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเป็นผู้ชี้ทางการแก้ปัญหา กระตุ้นให้คนรู้จักแสวงหาความรู้อย่างยั่งยืน หรือการเรียนรู้ตลอดชีวิต ครูต้องเรียนรู้เพื่อจะได้เป็นผู้ที่รอบรู้ เพื่อพัฒนาทักษะและวิธีการให้ความรู้ใหม่ๆ เป็นผู้ที่มีหูตากว้างไกล มีทัศนคติที่กว้างขวาง รวมทั้งเป็นนักจิตวิทยาชั้นดีที่สามารถสั่งสอน แนะนำ และแก้ไขปัญหาให้เด็กและเยาวชนได้ซึ่งครูที่มีลักษณะเช่นนี้ คือครูที่สังคมมีความคาดหวัง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ เร่งส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานของครูให้บรรลุถึงบทบาท หน้าที่ และสิ่งที่สังคมคาดหวังไว้ ทำให้ครูมีพลังในการทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องเต็มศักยภาพ และมีความสุข ความมั่นคงในการประกอบวิชาชีพ เพื่อประโยชน์ทั้งหมดจะได้ตกอยู่ที่เด็ก เยาวชนและสังคมไทย
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้กำลังใจครูทุกคนว่า ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความเสียสละ ความอดทน และด้วยศรัทธาของความเป็นครูที่มีอยู่ในจิตใจของทุกท่าน พร้อมกล่าวชื่นชมครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้ปฏิบัติงานจนมีผลงานดีเด่นและได้รับรางวัลคุรุสภา ครูดีในดวงใจ โรงเรียนที่ได้รับรางวัลผลงานหนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม ตลอดจนผู้ชนะการประกวดคำขวัญ บทร้อยกรอง และข้อเขียนความประทับใจที่มีต่อครู โดยขอให้ผู้ได้รับรางวัลทุกคนมีความภูมิใจในความรู้ ความสามารถและสิ่งที่ได้ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจมาโดยตลอด อีกทั้งขอให้ทุกคนได้ดำรงศักดิ์ศรี รักษาความดีงามนี้ไว้เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้อื่น เพื่อนร่วมวิชาชีพ และเด็กและเยาวชนของชาติต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--