พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปยังอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย
วันนี้ เวลา 14.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์เผ่า เกษทอง รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพมหานคร ไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย
โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนและมอบเงินงบกลางเพื่อช่วยเหลือด้านที่พักอาศัยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยของตำบลบ้านกุ่ม จำนวน 167 ราย และตำบลบางตะเคียน จำนวน 205 ราย รวมทั้งสิ้น 372 ราย เป็นเงินจำนวน 4,826,600 บาท
ต่อจากนั้นได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังวัดเกษมสุริยัมนาจ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2549 เป็นต้นมา โดยอำเภอบางเลนได้รับความเสียหายมากที่สุด 15 ตำบล 3 เทศบาล 180 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 36,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย กว่า 124,500 ไร่ และมีถนน วัด โรงเรียน สถานีอนามัย ฯลฯ ได้รับความเสียหาย 421 แห่ง และขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1,289 ราย รวมเป็นเงินกว่า 9,400,000 บาท
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางกลับจากการตรวจเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีและอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ว่า ขณะนี้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ลงไปถึงประชาชนในท้องถิ่นแล้ว แต่ในอำเภอสองพี่น้องบางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ บางพื้นที่สูงสุดประมาณ 1 เมตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีแจ้งว่ากำลังดำเนินการใช้เครื่องสูบน้ำเร่งสูบลงแม่น้ำสุพรรณบุรีและแม่น้ำท่าจีน คาดว่าน้ำจะลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
ส่วนที่อำเภอบางเลนน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการทั้งสองพื้นที่แล้ว ซึ่งในอนาคตจะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป
ด้านร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนอำเภอสองพี่น้องและอำเภอบางเลนว่า สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ ต้องการให้ความช่วยเหลือถึงมือพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด และคาดว่าการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเงินจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการซ่อมแซมเส้นทางที่เสียหายใน 47 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายนนี้ สำหรับกรณีที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นได้ใช้งบประมาณของท้องถิ่นไปในการให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนนั้น รัฐบาลจะได้จัดสรรงบประมาณจากงบกลางชดเชยให้ต่อไป
ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม และสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทางรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยเน้นให้เงินช่วยเหลือต้องตกถึงมือพี่น้องประชาชน โดยไม่ให้มีการรั่วไหล และมีการดำเนินการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในขั้นตอนของการให้ความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งให้ทางการทราบโดยทันที จึงขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจและเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และจะทำอย่างดีที่สุด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 14.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์เผ่า เกษทอง รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ สนามเป้า กรุงเทพมหานคร ไปยังจังหวัดสุพรรณบุรีและจังหวัดนครปฐม เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย
โดยจุดแรกนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อเยี่ยมเยียนประชาชนและมอบเงินงบกลางเพื่อช่วยเหลือด้านที่พักอาศัยให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยของตำบลบ้านกุ่ม จำนวน 167 ราย และตำบลบางตะเคียน จำนวน 205 ราย รวมทั้งสิ้น 372 ราย เป็นเงินจำนวน 4,826,600 บาท
ต่อจากนั้นได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังวัดเกษมสุริยัมนาจ อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2549 เป็นต้นมา โดยอำเภอบางเลนได้รับความเสียหายมากที่สุด 15 ตำบล 3 เทศบาล 180 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 36,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย กว่า 124,500 ไร่ และมีถนน วัด โรงเรียน สถานีอนามัย ฯลฯ ได้รับความเสียหาย 421 แห่ง และขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 1,289 ราย รวมเป็นเงินกว่า 9,400,000 บาท
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเดินทางกลับจากการตรวจเยี่ยมและมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยของอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีและอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ว่า ขณะนี้ความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ลงไปถึงประชาชนในท้องถิ่นแล้ว แต่ในอำเภอสองพี่น้องบางพื้นที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ บางพื้นที่สูงสุดประมาณ 1 เมตร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีแจ้งว่ากำลังดำเนินการใช้เครื่องสูบน้ำเร่งสูบลงแม่น้ำสุพรรณบุรีและแม่น้ำท่าจีน คาดว่าน้ำจะลดระดับลงเข้าสู่ภาวะปกติในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
ส่วนที่อำเภอบางเลนน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ความช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินการทั้งสองพื้นที่แล้ว ซึ่งในอนาคตจะได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป
ด้านร้อยเอก ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนอำเภอสองพี่น้องและอำเภอบางเลนว่า สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงอย่างยิ่ง คือ ต้องการให้ความช่วยเหลือถึงมือพี่น้องประชาชนให้เร็วที่สุด และคาดว่าการช่วยเหลือด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านการเงินจะเสร็จเรียบร้อยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ส่วนการซ่อมแซมเส้นทางที่เสียหายใน 47 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย น่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนเมษายนนี้ สำหรับกรณีที่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นได้ใช้งบประมาณของท้องถิ่นไปในการให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนนั้น รัฐบาลจะได้จัดสรรงบประมาณจากงบกลางชดเชยให้ต่อไป
ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม การซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม และสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ทางรัฐบาลได้จัดเตรียมงบประมาณไว้ประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยเน้นให้เงินช่วยเหลือต้องตกถึงมือพี่น้องประชาชน โดยไม่ให้มีการรั่วไหล และมีการดำเนินการที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในขั้นตอนของการให้ความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งให้ทางการทราบโดยทันที จึงขอให้พี่น้องประชาชนอุ่นใจและเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่และจะทำอย่างดีที่สุด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--