พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุขและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากส่วนกลาง ระดับจังหวัด องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิ และปราชญ์ชาวบ้าน
วันนี้ เวลา 10.40 น. ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุขและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากส่วนกลาง ระดับจังหวัด องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิ และปราชญ์ชาวบ้าน รวม 500 คน โดยมี นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายมรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายประยงค์ รณรงค์ ปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรชุมชนบ้านไม้เรียง จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด การปรับปรุงระบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง การบริหารส่วนภูมิภาค การบริหารท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมอย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันรับผิดชอบความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้เตรียมการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติผ่านยุทธศาสตร์จังหวัดอยู่ดีมีสุขและโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ คพพ. คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการดังกล่าวทั้งสองเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการคพพ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจึงได้ร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดงานเปิดตัวทั้งสองโครงการและการประชุมสัมมนาขึ้นในวันนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาในระดับประชาชนฐานราก การพัฒนาหมู่บ้านชุมชนเป็นไปอย่างสอดคล้องและเชื่อมโยงกัน อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับภาคีพัฒนาทุกภาคส่วน เกี่ยวกับนโยบาย หลักการ ตลอดจนกระบวนการและกลไกในทางปฏิบัติ พร้อมทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากชุมชนที่สามารถพึ่งตนเองได้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุมพร้อมกล่าวมอบนโยบายสรุปสาระสำคัญว่า เป็นความยินดีที่นโยบายสำคัญของรัฐบาลจะได้รับการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่พี่น้องประชาชนและชุมชนต่าง ๆ อย่างกว้างขวางต่อไป เพราะวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนและชุมชนด้วยกระบวนการเรียนรู้ และการดำรงชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสังคม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างสมานฉันท์บนพื้นฐานของคุณธรรม ความรู้ และความพอเพียง ในขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลของกระบวนการพัฒนาที่สอดคล้องกับลักษณะทางภูมิสังคม สนับสนุนภาคเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปกับการดูแลผู้ที่ไม่พร้อม หรือผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ ด้วยการจัดสวัสดิการที่จำเป็นให้อย่างทั่วถึง
“ ส่วนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ต้องได้รับการดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบทางลบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจะดำเนินการในสิ่งเหล่านี้ให้บรรลุตามเป้าหมาย จำเป็นจะต้องปรับปรุงบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานในภูมิภาค และระบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมให้เหมาะสม เพื่อจะได้ร่วมกันรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามยุทธศาสตร์และแผนงานอยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยให้มีคณะกรรมการระดับชาติที่ชื่อว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำกับดูแลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะต้องอาศัยทั้งศักยภาพ กระบวนการเรียนรู้ของชุมชน ความร่วมมือของภาคีต่าง ๆ และการดำเนินงานตามแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ประกอบเข้าด้วยกัน จึงจะสามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด มุ่งเน้นที่จะพัฒนาคนและชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติทางด้านสังคม เศรษฐกิจและการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดจึงเป็นร่มใหญ่ในการที่จะเชื่อมโยงกิจกรรม โครงการ และงบประมาณของการแก้ไขปัญหา และพัฒนาคน ชุมชน ในระดับพื้นที่ต่อไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในยุทธศาสตร์และแผนงานหรือโครงการหลายเรื่องที่มีเป้าหมายสู่การสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่ประชาชน ชุมชน และท้องถิ่น ทั้งพื้นฐานพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาสวัสดิการสังคม การแก้ไขปัญหาความยากจน และต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด และโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันเชื่อมโยงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และด้วยความสมานฉันท์เพื่อให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว แผนงานและโครงการทั้งสองเรื่องนี้มีความเชื่อมโยงและสนับสนุนกันเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การมีระบบกลไกหรือกระบวนการที่เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืน โดยเฉพาะระบบความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมที่เหมาะสม จะทำให้การร่วมกันรับผิดชอบสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้จ่ายงบประมาณด้วยความโปร่งใส และมีระบบการบริหารจัดการที่ดีด้วย จึงขอฝากให้ทุกคนได้ช่วยกันพิจารณาในเรื่องเหล่านี้ด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนที่ได้มาร่วมประชุมกันด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดให้เกิดประโยชน์สุขต่อพี่น้องคนไทย และต่อชาติบ้านเมือง พร้อมกับหวังว่าทุกคนจะพยายามทำความเข้าใจในกระบวนการและกลไกในการดำเนินงาน ตลอดจนแนวทางการสนับสนุนงบประมาณ และหลักเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละแผนงาน โครงการ เพื่อที่จะได้รับการถ่ายทอดให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำด้วยว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการที่มีความคล่องตัว มีการเรียนรู้ของชุมชนอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.40 น. ณ ห้องบงกชรัตน์ โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุขและโครงการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ทั้งจากส่วนกลาง ระดับจังหวัด องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน ผู้ทรงคุณวุฒิ และปราชญ์ชาวบ้าน รวม 500 คน โดยมี นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอภัย จันทนจุลกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายมรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายประยงค์ รณรงค์ ปราชญ์ชาวบ้าน เกษตรกรชุมชนบ้านไม้เรียง จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวรายงานโดยสรุปว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด การปรับปรุงระบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง การบริหารส่วนภูมิภาค การบริหารท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมอย่างเหมาะสม เพื่อร่วมกันรับผิดชอบความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้เตรียมการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติผ่านยุทธศาสตร์จังหวัดอยู่ดีมีสุขและโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ คพพ. คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบโครงการดังกล่าวทั้งสองเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 เพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดและโครงการคพพ. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจึงได้ร่วมกับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจัดงานเปิดตัวทั้งสองโครงการและการประชุมสัมมนาขึ้นในวันนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาในระดับประชาชนฐานราก การพัฒนาหมู่บ้านชุมชนเป็นไปอย่างสอดคล้องและเชื่อมโยงกัน อีกทั้งเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับภาคีพัฒนาทุกภาคส่วน เกี่ยวกับนโยบาย หลักการ ตลอดจนกระบวนการและกลไกในทางปฏิบัติ พร้อมทั้งการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากชุมชนที่สามารถพึ่งตนเองได้
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุมพร้อมกล่าวมอบนโยบายสรุปสาระสำคัญว่า เป็นความยินดีที่นโยบายสำคัญของรัฐบาลจะได้รับการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่พี่น้องประชาชนและชุมชนต่าง ๆ อย่างกว้างขวางต่อไป เพราะวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนและชุมชนด้วยกระบวนการเรียนรู้ และการดำรงชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาที่มั่นคงและยั่งยืน รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนและสังคม ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันอย่างสมานฉันท์บนพื้นฐานของคุณธรรม ความรู้ และความพอเพียง ในขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลของกระบวนการพัฒนาที่สอดคล้องกับลักษณะทางภูมิสังคม สนับสนุนภาคเศรษฐกิจชุมชนควบคู่ไปกับการดูแลผู้ที่ไม่พร้อม หรือผู้ที่ไม่สามารถปรับตัวได้ ด้วยการจัดสวัสดิการที่จำเป็นให้อย่างทั่วถึง
“ ส่วนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจก็ต้องได้รับการดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบทางลบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการจะดำเนินการในสิ่งเหล่านี้ให้บรรลุตามเป้าหมาย จำเป็นจะต้องปรับปรุงบทบาทของผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานในภูมิภาค และระบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมให้เหมาะสม เพื่อจะได้ร่วมกันรับผิดชอบในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบตามยุทธศาสตร์และแผนงานอยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยให้มีคณะกรรมการระดับชาติที่ชื่อว่า คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชาชนอยู่ดีมีสุข มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ทำหน้าที่กำกับดูแลการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งจะต้องอาศัยทั้งศักยภาพ กระบวนการเรียนรู้ของชุมชน ความร่วมมือของภาคีต่าง ๆ และการดำเนินงานตามแนวทางพระราชทาน เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ประกอบเข้าด้วยกัน จึงจะสามารถดำเนินการต่าง ๆ ได้บรรลุเป้าหมาย ซึ่งแผนงานภายใต้ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด มุ่งเน้นที่จะพัฒนาคนและชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งครอบคลุมทั้งมิติทางด้านสังคม เศรษฐกิจและการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น ยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัดจึงเป็นร่มใหญ่ในการที่จะเชื่อมโยงกิจกรรม โครงการ และงบประมาณของการแก้ไขปัญหา และพัฒนาคน ชุมชน ในระดับพื้นที่ต่อไป
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในยุทธศาสตร์และแผนงานหรือโครงการหลายเรื่องที่มีเป้าหมายสู่การสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่ประชาชน ชุมชน และท้องถิ่น ทั้งพื้นฐานพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาสวัสดิการสังคม การแก้ไขปัญหาความยากจน และต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขระดับจังหวัด และโครงการพัฒนาหมู่บ้านชุมชนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันเชื่อมโยงไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และด้วยความสมานฉันท์เพื่อให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว แผนงานและโครงการทั้งสองเรื่องนี้มีความเชื่อมโยงและสนับสนุนกันเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การมีระบบกลไกหรือกระบวนการที่เชื่อมต่อกันอย่างกลมกลืน โดยเฉพาะระบบความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ท้องถิ่น ชุมชน และภาคประชาสังคมที่เหมาะสม จะทำให้การร่วมกันรับผิดชอบสร้างความอยู่ดีมีสุขให้แก่ประชาชนในพื้นที่ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้จ่ายงบประมาณด้วยความโปร่งใส และมีระบบการบริหารจัดการที่ดีด้วย จึงขอฝากให้ทุกคนได้ช่วยกันพิจารณาในเรื่องเหล่านี้ด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคนที่ได้มาร่วมประชุมกันด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุขของจังหวัดให้เกิดประโยชน์สุขต่อพี่น้องคนไทย และต่อชาติบ้านเมือง พร้อมกับหวังว่าทุกคนจะพยายามทำความเข้าใจในกระบวนการและกลไกในการดำเนินงาน ตลอดจนแนวทางการสนับสนุนงบประมาณ และหลักเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละแผนงาน โครงการ เพื่อที่จะได้รับการถ่ายทอดให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำด้วยว่ากระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการที่มีความคล่องตัว มีการเรียนรู้ของชุมชนอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--