นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 5 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 120 คน จากโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว
วันนี้ เวลา 11.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 5 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 120 คน จากโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว หลังจากเปิดโครงการแล้วนายกรัฐมนตรีได้ร่วมเดินป่าศึกษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับเยาวชนด้วย
พลเอก ประดิษฐ์ บุญเกิด เลขาธิการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวรายงานว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องกันมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 เพื่อที่จะให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากจะได้มีโอกาสเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของครอบครัวมุสลิมในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ยังต้องการให้เยาวชนได้มีประสบการณ์ชีวิตและการพัฒนาแนวคิดของเยาวชนในการอนุรักษ์ธรรมชาติ หลังจากที่เยาวชน จำนวน 120 คน พักกับครอบครัวอุปถัมภ์ ตั้งแต่วันที่ 24 — 30 มีนาคม 2550 เป็นเวลารวมทั้งสิ้น 7 วัน แล้ว เยาวชนได้เดินทางมาเข้าค่ายสิ่งแวดล้อมฯ ณ อุทยานเขาใหญ่ ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม — 1 เมษายน 2550 รวมเป็นเวลา 3 วัน โดยจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ คือ การทัศนศึกษาเยี่ยมชมน้ำตกเหวสุวัตศึกษาชีวิตสัตว์ป่าจากกิจกรรมส่องสัตว์สลับกับกิจกรรมดูดาว กิจกรรมดูนก เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมวิวผาเดียวดาย ถ่ายทอดความรู้สึกต่อธรรมชาติด้วยกิจกรรมวาดภาพธรรมชาติ จากนั้นจะได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมเข้าค่ายเปิดโลกวิทยาศาสตร์ ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติต่อไป
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนที่มาเข้าค่าย ฯ ว่า ถือเป็นโอกาสดีที่เยาวชน จะได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 50 ปี ที่ผ่านมา และอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีความสมบูรณ์ เป็นผืนป่าที่ให้ความชุ่มชื้นให้น้ำทั้งแก่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทย นับได้ว่าเป็นผืนป่าที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าในชีวิตของคนเราทุกคนนั้นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ และมีความสำคัญที่สุดมากกว่าอาหารคือน้ำ ในตัวเรามีส่วนที่เป็นน้ำอยู่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นเนื้อ ภายในเนื้อก็มีเซลล์เล็ก ๆ แต่ละเซลล์ก็มีน้ำอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก หากเราไม่สามารถที่จะช่วยกันดูแลน้ำที่จะใช้ประโยชน์สำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งเป็นน้ำที่มีประโยชน์และต่อไปก็เป็นน้ำเพื่อการเกษตร ส่วนหนึ่งที่ไหลลงไปในทะเลก็ไปเป็นแหล่งที่เราสามารถจะใช้ทำการประมงได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผืนป่าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้พื้นรักษาความชุ่มชื้น การที่พื้นดินมีความชุ่มชื้นจะทำให้น้ำซึ่งอยู่ใต้ดินยังคงมีอยู่ตลอดไป ช่วงใดที่มีความชุ่มชื้นต้นไม้ก็จะเจริญ ช่วงใดที่มีความแห้งแล้งต้นไม้ก็จะเหี่ยวแห้งไปด้วย ต่อไปในอนาคตอาจจะมีปัญหาขาดแคลนน้ำเพราะฉะนั้นอยากให้เยาวชนทุกคนได้ช่วยกันศึกษา การที่จะช่วยกันดูแลผืนป่าให้มีความสมบูรณ์ ให้มีความชุ่มชื้น จะช่วยทำให้เรามีน้ำกินน้ำใช้ มีน้ำเพื่อการเพาะปลูก มีน้ำเพื่อการเกษตรได้ต่อไป ดังนั้นจึงอยากฝากให้เยาวชนช่วยกันดูแลผืนป่าในพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านไม่ว่าจะเป็นผืนป่าที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือบาลาฮาลาซึ่งกว้างขวางใหญ่โตอยู่ในพื้นที่ของอำเภอแว้ง สุคิริน ธารโต เบตง ศรีสาคร พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่าเป็นส่วนที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแลช่วยกันอนุรักษ์
“ที่อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดีจะมีส่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ พวกเราคงไม่ทราบว่าผมได้มีโอกาสไปที่น้ำตกปาโจ อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดีมานานแล้วเข้าไปดูพวกเยาวชนของเรากลุ่มหนึ่งที่ช่วยกันดูแลโครงการอนุรักษ์นกเงือก นกเงือกเป็นสัตว์ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ป่าใดที่มีนกเงือกที่นั่นแสดงว่ามีความสมบูรณ์ เพราะว่านกเงือกจะอยู่ในป่าสูง ที่นี่มีนกเงือก ถ้าเป็นป่าซึ่งขาดความสมบูรณ์นกเงือกจะไม่อยู่ นั่นเป็นตัวชี้วัดเป็นสิ่งที่บอกเลยว่าป่าใดมีความสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นเยาวชนทุกคนที่ได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ก็ขอให้พวกเราได้ศึกษาถึงความจำเป็น ศึกษาถึงสภาพของธรรมชาติและช่วยกันดูแล” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่เราจะช่วยดูแลสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คงไม่ได้เป็นหน้าที่ทางรัฐบาลอย่างเดียว หรือไม่ได้เป็นหน้าที่ของใครคนหนึ่งคนใด หรือพวกหนึ่งพวกใดเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันดูแล ขณะนี้สภาพธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากในแต่ละปีบางครั้งก็มีฝนตกมาก บางครั้งก็แห้งแล้งนาน ในช่วงที่ผ่านมาทางใต้ไม่มีฝนตกมาหลายเดือน ฝนเพิ่งตกเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสภาพความเปลี่ยนแปลงของอากาศ สภาพความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่ว่านี้เป็นส่วนที่มนุษย์ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยส่วนหนึ่ง และคงได้ศึกษากันว่าอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นกว่าที่ผ่านมา ความร้อนที่ร้อนขึ้นทำให้น้ำแข็งที่บริเวณขั้วโลกละลาย น้ำทะเลเพิ่มขึ้น ระดับน้ำทะเลอาจจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมาก ๆ อีก 50 ปี ข้างหน้า จึงอยากจะฝากในเรื่องของการดูแลธรรมชาติให้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทย ที่จะต้องช่วยกันดูแลบ้านเมือง ช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเรามีความน่าอยู่ขึ้น มีความสงบ มีสันติสุข มีสิ่งที่พวกเราอยากเห็น มีสิ่งที่พวกเราอยากมีต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ พิธีเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ที่เกิดขึ้นจากดำริของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ขึ้น เป็นครั้งที่ 5 โดยนำเด็กและเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นับถือศาสนาอิสลาม และมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน มาเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ และสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัว รวมทั้งเพื่อการสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนให้ได้รับการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ชีวิตตลอดจนการพัฒนาแนวคิดในการปฏิบัติงานในการเป็นผู้นำของชุมชนไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 5 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยมีเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 120 คน จากโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าว หลังจากเปิดโครงการแล้วนายกรัฐมนตรีได้ร่วมเดินป่าศึกษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับเยาวชนด้วย
พลเอก ประดิษฐ์ บุญเกิด เลขาธิการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวรายงานว่า โครงการนี้ได้ดำเนินการต่อเนื่องกันมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 เพื่อที่จะให้เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากจะได้มีโอกาสเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของครอบครัวมุสลิมในกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงแล้ว ยังต้องการให้เยาวชนได้มีประสบการณ์ชีวิตและการพัฒนาแนวคิดของเยาวชนในการอนุรักษ์ธรรมชาติ หลังจากที่เยาวชน จำนวน 120 คน พักกับครอบครัวอุปถัมภ์ ตั้งแต่วันที่ 24 — 30 มีนาคม 2550 เป็นเวลารวมทั้งสิ้น 7 วัน แล้ว เยาวชนได้เดินทางมาเข้าค่ายสิ่งแวดล้อมฯ ณ อุทยานเขาใหญ่ ระหว่างวันที่ 30 มีนาคม — 1 เมษายน 2550 รวมเป็นเวลา 3 วัน โดยจัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ คือ การทัศนศึกษาเยี่ยมชมน้ำตกเหวสุวัตศึกษาชีวิตสัตว์ป่าจากกิจกรรมส่องสัตว์สลับกับกิจกรรมดูดาว กิจกรรมดูนก เดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมวิวผาเดียวดาย ถ่ายทอดความรู้สึกต่อธรรมชาติด้วยกิจกรรมวาดภาพธรรมชาติ จากนั้นจะได้เดินทางไปร่วมกิจกรรมเข้าค่ายเปิดโลกวิทยาศาสตร์ ณ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติต่อไป
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทแก่เยาวชนที่มาเข้าค่าย ฯ ว่า ถือเป็นโอกาสดีที่เยาวชน จะได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับเรื่องของอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 50 ปี ที่ผ่านมา และอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีความสมบูรณ์ เป็นผืนป่าที่ให้ความชุ่มชื้นให้น้ำทั้งแก่ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกของประเทศไทย นับได้ว่าเป็นผืนป่าที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าในชีวิตของคนเราทุกคนนั้นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ และมีความสำคัญที่สุดมากกว่าอาหารคือน้ำ ในตัวเรามีส่วนที่เป็นน้ำอยู่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นเนื้อ ภายในเนื้อก็มีเซลล์เล็ก ๆ แต่ละเซลล์ก็มีน้ำอยู่ เพราะฉะนั้นน้ำจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับชีวิตมนุษย์เป็นอย่างมาก หากเราไม่สามารถที่จะช่วยกันดูแลน้ำที่จะใช้ประโยชน์สำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งเป็นน้ำที่มีประโยชน์และต่อไปก็เป็นน้ำเพื่อการเกษตร ส่วนหนึ่งที่ไหลลงไปในทะเลก็ไปเป็นแหล่งที่เราสามารถจะใช้ทำการประมงได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ผืนป่าก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยทำให้พื้นรักษาความชุ่มชื้น การที่พื้นดินมีความชุ่มชื้นจะทำให้น้ำซึ่งอยู่ใต้ดินยังคงมีอยู่ตลอดไป ช่วงใดที่มีความชุ่มชื้นต้นไม้ก็จะเจริญ ช่วงใดที่มีความแห้งแล้งต้นไม้ก็จะเหี่ยวแห้งไปด้วย ต่อไปในอนาคตอาจจะมีปัญหาขาดแคลนน้ำเพราะฉะนั้นอยากให้เยาวชนทุกคนได้ช่วยกันศึกษา การที่จะช่วยกันดูแลผืนป่าให้มีความสมบูรณ์ ให้มีความชุ่มชื้น จะช่วยทำให้เรามีน้ำกินน้ำใช้ มีน้ำเพื่อการเพาะปลูก มีน้ำเพื่อการเกษตรได้ต่อไป ดังนั้นจึงอยากฝากให้เยาวชนช่วยกันดูแลผืนป่าในพื้นที่ใกล้ ๆ บ้านไม่ว่าจะเป็นผืนป่าที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือบาลาฮาลาซึ่งกว้างขวางใหญ่โตอยู่ในพื้นที่ของอำเภอแว้ง สุคิริน ธารโต เบตง ศรีสาคร พื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่ถือได้ว่าเป็นส่วนที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกันดูแลช่วยกันอนุรักษ์
“ที่อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดีจะมีส่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ พวกเราคงไม่ทราบว่าผมได้มีโอกาสไปที่น้ำตกปาโจ อุทยานแห่งชาติบูโด - สุไหงปาดีมานานแล้วเข้าไปดูพวกเยาวชนของเรากลุ่มหนึ่งที่ช่วยกันดูแลโครงการอนุรักษ์นกเงือก นกเงือกเป็นสัตว์ที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า ป่าใดที่มีนกเงือกที่นั่นแสดงว่ามีความสมบูรณ์ เพราะว่านกเงือกจะอยู่ในป่าสูง ที่นี่มีนกเงือก ถ้าเป็นป่าซึ่งขาดความสมบูรณ์นกเงือกจะไม่อยู่ นั่นเป็นตัวชี้วัดเป็นสิ่งที่บอกเลยว่าป่าใดมีความสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นเยาวชนทุกคนที่ได้มีโอกาสมาอยู่ที่นี่ก็ขอให้พวกเราได้ศึกษาถึงความจำเป็น ศึกษาถึงสภาพของธรรมชาติและช่วยกันดูแล” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่เราจะช่วยดูแลสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คงไม่ได้เป็นหน้าที่ทางรัฐบาลอย่างเดียว หรือไม่ได้เป็นหน้าที่ของใครคนหนึ่งคนใด หรือพวกหนึ่งพวกใดเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันดูแล ขณะนี้สภาพธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากในแต่ละปีบางครั้งก็มีฝนตกมาก บางครั้งก็แห้งแล้งนาน ในช่วงที่ผ่านมาทางใต้ไม่มีฝนตกมาหลายเดือน ฝนเพิ่งตกเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งสภาพความเปลี่ยนแปลงของอากาศ สภาพความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่ว่านี้เป็นส่วนที่มนุษย์ได้ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงนี้ด้วยส่วนหนึ่ง และคงได้ศึกษากันว่าอุณหภูมิของโลกร้อนขึ้นกว่าที่ผ่านมา ความร้อนที่ร้อนขึ้นทำให้น้ำแข็งที่บริเวณขั้วโลกละลาย น้ำทะเลเพิ่มขึ้น ระดับน้ำทะเลอาจจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมาก ๆ อีก 50 ปี ข้างหน้า จึงอยากจะฝากในเรื่องของการดูแลธรรมชาติให้เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนในฐานะที่เป็นคนไทย ที่จะต้องช่วยกันดูแลบ้านเมือง ช่วยกันทำให้บ้านเมืองของเรามีความน่าอยู่ขึ้น มีความสงบ มีสันติสุข มีสิ่งที่พวกเราอยากเห็น มีสิ่งที่พวกเราอยากมีต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ พิธีเปิดค่ายสิ่งแวดล้อมดังกล่าว เป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ที่เกิดขึ้นจากดำริของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการมูลนิธิรัฐบุรุษพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มูลนิธิรักเมืองไทย และมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ขึ้น เป็นครั้งที่ 5 โดยนำเด็กและเยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นับถือศาสนาอิสลาม และมีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกัน มาเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ และสามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์เป็นเครือข่ายครอบครัว รวมทั้งเพื่อการสร้างโอกาสให้แก่เยาวชนให้ได้รับการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ชีวิตตลอดจนการพัฒนาแนวคิดในการปฏิบัติงานในการเป็นผู้นำของชุมชนไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคม
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--