พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายสิรินธร จังหวัดยะลา ไปยังศาลากลางจังหวัดยะลาเพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคธุรกิจ เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
วันนี้ เวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีอาทิ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายสิรินธร จังหวัดยะลา ไปยังศาลากลางจังหวัดยะลาเพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคธุรกิจ เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยพลโท วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) และหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้รายงานผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และความคืบหน้าคดีด้านความมั่นคง ความคืบหน้าการปฏิบัติงานด้านเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา และการศึกษา รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้เสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจในเรื่องของการผลักดันให้มีการสร้างถนนสายความมั่นคงที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งการก่อสร้างสนามบินที่อำเภอเบตง มาตรการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการ ส่วนปัญหาด้านความมั่นคง จังหวัดยะลาได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณการจัดซื้ออาวุธและวิทยุสื่อสารให้กับชุมชนเพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกันหอการค้าจังหวัดยะลาได้เสนอให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่โดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งรัดพระราชกฤษฎีกาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการลดหย่อนภาษี และสนับสนุนเบี้ยประกันภัยเหตุร้ายในพื้นที่แก่ผู้ประกอบการ ขอให้ภาครัฐเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจ เพื่อจะดึงนักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ยังต้องใช้แนวทางสันติวิธีต่อไป โดยให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาความหวาดระแวงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐกับประชาชน หรือประชาชนกับประชาชน หากสามารถขจัดปัญหาดังกล่าวได้จะนำไปสู่ความร่วมมือและเกิดความสงบสุข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีให้ได้ความสำคัญกับการลดระดับความรุนแรง โดยให้เกิดความพร้อมทั้งด้านบุคคลและเครื่องมือ เช่น กรณีไฟฟ้าฉุกเฉินได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เร่งรัดให้สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2550 ส่วนโทรทัศน์วงจรปิด ขอให้มีการเตรียมบุคลากรให้พร้อมที่จะเข้ามารับงาน ทั้งเรื่องการเฝ้าตรวจ การแจ้งเตือนและการซ่อมบำรุง ให้มีระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงทั่วพื้นที่ รวมทั้งการเตรียมการแก้ปัญหาผลิตผลการเกษตร คือ ลองกองที่จะออกในเดือนหน้า โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรมีตลาดในระดับอำเภอให้พ่อค้าท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อจากสวนในพื้นที่ มาส่งตลาดกลางระดับอำเภอ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยของพ่อค้าและเป็นการสร้างระบบการกระจายสินค้า และควรให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ คือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพราะหากเกิดเหตุขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและด้านจิตวิทยาสูงมาก
ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับฟังเหตุการณ์ความคืบหน้าจากนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) และแม่ทัพภาคที่ 4 รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ว่าการดำเนินการหลายเรื่องที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค ส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของงบประมาณที่ยังลงมาไม่ถึงในท้องถิ่น ซึ่งจะเร่งรัดให้ลงมาดำเนินการ ส่วนแนวความคิดการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจมีความคืบหน้า ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การคมนาคม การเกษตร ซึ่งในปีหน้าจะเพิ่มงบฯ ลงมาในพื้นที่ให้มากขึ้นเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ
"ที่ประชุมยังไม่มีการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ทัพภาคที่ 4 เสนอมา ก็ได้ให้ทางกองทัพภาคที่ 4 รวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อไป ซึ่งการที่จะดำเนินการในส่วนเหล่านี้จะต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน หลักการง่าย ๆ อย่างที่เคยเรียนแล้ว คือเราจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดทางอาญา เราไม่สามารถที่จะปล่อยวางในเรื่องเหล่านั้นได้ เพราะเป็นเรื่องของความเป็นธรรม แต่ถ้าหากว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดทางคดีอาญา ก็อยู่ในกรอบที่จะถือได้ว่าน่าจะเข้าข่ายอย่างที่กล่าวไว้แล้ว ซึ่งผมเองคงจะพูดได้ว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องของการนิรโทษกรรมผู้ที่ไม่ได้ทำความผิดทางคดีอาญา ก็สามารถที่จะกลับมาได้ และเรารับรองที่จะดูแลในเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ แม้ว่าจะเคยมีชื่อเอาไว้ แต่ไม่มีหลักฐนในการกระทำความผิดในคดีอาญา ก็พร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้โดยที่ไม่ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า ยังเจรจาอยู่และดำเนินการต่อไป การทำความเข้าใจไม่สามารถทำได้ในเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีความคืบหน้า ส่วนสถานที่คุยกันนั้นคงจะตอบไม่ได้ แต่มิตรประเทศอย่างมาเลเซียก็ช่วย
ด้านนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในงบประมาณปี พ.ศ. 2551 จะดำเนินการตามที่ ศอ.บต.ได้ให้ความเห็นมา อาทิ ในเรื่องอาชีพจะสนับสนุนให้มีการดำเนินการในด้านคุณภาพ การจัดการ การตลาดให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเกษตรให้มีประเภทผลผลิตใหม่ ๆ เรื่องของปัจจัยพื้นฐานหลายเรื่อง เช่น โครงการขยายสนามบินที่จังหวัดนราธิวาส โครงการพลังงานระดับเล็ก ระดับกลาง เป็นต้น
หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่จังหวัดยะลาแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดกระบี่ เพื่อเตรียมประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ในการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ภายหลังธรณีพิบัติ (สึนามิ) รวมทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการและโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว และจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพพื้นที่ทางอากาศของเกาะพีพีและเกาะลันตาด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรัฐมนตรีอาทิ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลตำรวจโท ธีรวุฒิ บุตรศรีภูมิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากค่ายสิรินธร จังหวัดยะลา ไปยังศาลากลางจังหวัดยะลาเพื่อประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคธุรกิจ เพื่อรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และวางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยพลโท วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) และหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้รายงานผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ และความคืบหน้าคดีด้านความมั่นคง ความคืบหน้าการปฏิบัติงานด้านเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา และการศึกษา รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากขณะนี้เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาได้เสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจในเรื่องของการผลักดันให้มีการสร้างถนนสายความมั่นคงที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ รวมทั้งการก่อสร้างสนามบินที่อำเภอเบตง มาตรการลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการ ส่วนปัญหาด้านความมั่นคง จังหวัดยะลาได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณการจัดซื้ออาวุธและวิทยุสื่อสารให้กับชุมชนเพื่อใช้ในการรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกันหอการค้าจังหวัดยะลาได้เสนอให้รัฐบาลเร่งรัดแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่โดยเร็ว รวมทั้งให้เร่งรัดพระราชกฤษฎีกาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาตรการลดหย่อนภาษี และสนับสนุนเบี้ยประกันภัยเหตุร้ายในพื้นที่แก่ผู้ประกอบการ ขอให้ภาครัฐเร่งสร้างความมั่นใจให้กับนักธุรกิจ เพื่อจะดึงนักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้ระบบเศรษฐกิจสามารถขับเคลื่อนไปได้
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ยังต้องใช้แนวทางสันติวิธีต่อไป โดยให้เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาความหวาดระแวงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐกับประชาชน หรือประชาชนกับประชาชน หากสามารถขจัดปัญหาดังกล่าวได้จะนำไปสู่ความร่วมมือและเกิดความสงบสุข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีให้ได้ความสำคัญกับการลดระดับความรุนแรง โดยให้เกิดความพร้อมทั้งด้านบุคคลและเครื่องมือ เช่น กรณีไฟฟ้าฉุกเฉินได้มอบให้รองนายกรัฐมนตรี (นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์) เร่งรัดให้สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2550 ส่วนโทรทัศน์วงจรปิด ขอให้มีการเตรียมบุคลากรให้พร้อมที่จะเข้ามารับงาน ทั้งเรื่องการเฝ้าตรวจ การแจ้งเตือนและการซ่อมบำรุง ให้มีระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงทั่วพื้นที่ รวมทั้งการเตรียมการแก้ปัญหาผลิตผลการเกษตร คือ ลองกองที่จะออกในเดือนหน้า โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรมีตลาดในระดับอำเภอให้พ่อค้าท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อจากสวนในพื้นที่ มาส่งตลาดกลางระดับอำเภอ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยของพ่อค้าและเป็นการสร้างระบบการกระจายสินค้า และควรให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยของเมืองศูนย์กลางเศรษฐกิจ คือ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพราะหากเกิดเหตุขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและด้านจิตวิทยาสูงมาก
ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับฟังเหตุการณ์ความคืบหน้าจากนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) และแม่ทัพภาคที่ 4 รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ว่าการดำเนินการหลายเรื่องที่ยังเป็นปัญหาอุปสรรค ส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของงบประมาณที่ยังลงมาไม่ถึงในท้องถิ่น ซึ่งจะเร่งรัดให้ลงมาดำเนินการ ส่วนแนวความคิดการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจมีความคืบหน้า ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา การคมนาคม การเกษตร ซึ่งในปีหน้าจะเพิ่มงบฯ ลงมาในพื้นที่ให้มากขึ้นเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาในด้านต่าง ๆ
"ที่ประชุมยังไม่มีการพูดถึงกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่แม่ทัพภาคที่ 4 เสนอมา ก็ได้ให้ทางกองทัพภาคที่ 4 รวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อไป ซึ่งการที่จะดำเนินการในส่วนเหล่านี้จะต้องศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน หลักการง่าย ๆ อย่างที่เคยเรียนแล้ว คือเราจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดทางอาญา เราไม่สามารถที่จะปล่อยวางในเรื่องเหล่านั้นได้ เพราะเป็นเรื่องของความเป็นธรรม แต่ถ้าหากว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดทางคดีอาญา ก็อยู่ในกรอบที่จะถือได้ว่าน่าจะเข้าข่ายอย่างที่กล่าวไว้แล้ว ซึ่งผมเองคงจะพูดได้ว่าถึงแม้ว่าจะไม่มีเรื่องของการนิรโทษกรรมผู้ที่ไม่ได้ทำความผิดทางคดีอาญา ก็สามารถที่จะกลับมาได้ และเรารับรองที่จะดูแลในเรื่องความปลอดภัยต่าง ๆ แม้ว่าจะเคยมีชื่อเอาไว้ แต่ไม่มีหลักฐนในการกระทำความผิดในคดีอาญา ก็พร้อมที่จะดูแลความปลอดภัยให้โดยที่ไม่ต้องมีกฎหมายนิรโทษกรรม" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า ยังเจรจาอยู่และดำเนินการต่อไป การทำความเข้าใจไม่สามารถทำได้ในเวลาสั้น ๆ แต่ก็มีความคืบหน้า ส่วนสถานที่คุยกันนั้นคงจะตอบไม่ได้ แต่มิตรประเทศอย่างมาเลเซียก็ช่วย
ด้านนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในงบประมาณปี พ.ศ. 2551 จะดำเนินการตามที่ ศอ.บต.ได้ให้ความเห็นมา อาทิ ในเรื่องอาชีพจะสนับสนุนให้มีการดำเนินการในด้านคุณภาพ การจัดการ การตลาดให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเกษตรให้มีประเภทผลผลิตใหม่ ๆ เรื่องของปัจจัยพื้นฐานหลายเรื่อง เช่น โครงการขยายสนามบินที่จังหวัดนราธิวาส โครงการพลังงานระดับเล็ก ระดับกลาง เป็นต้น
หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่จังหวัดยะลาแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดกระบี่ เพื่อเตรียมประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ระนอง พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล ในวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ในการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ภายหลังธรณีพิบัติ (สึนามิ) รวมทั้งรับฟังปัญหา ความต้องการและโครงการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันและแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยว และจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสภาพพื้นที่ทางอากาศของเกาะพีพีและเกาะลันตาด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--