พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า จากที่ได้ไปติดตามงานพบปัญหาหลัก คือ เรื่องงบประมาณในส่วนโครงการอยู่ดีมีสุข ที่ยังลงไปไม่ถึงในระดับชุมชนและระดับหมู่บ้าน แต่คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ งบประมาณจะลงไปถึงเรียบร้อย
เย็นวันนี้ ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 อาคารใหม่ดอนเมือง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า จากที่ได้ไปติดตามงานพบปัญหาหลัก คือ เรื่องงบประมาณในส่วนโครงการอยู่ดีมีสุข ที่ยังลงไปไม่ถึงในระดับชุมชนและระดับหมู่บ้าน แต่คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ งบประมาณจะลงไปถึงเรียบร้อย ส่วนด้านการเกษตรได้เตรียมรองรับผลผลิต โดยเฉพาะผลไม้ คือ ลองกอง ที่จะออกในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยได้เตรียมเรื่องการตลาด และดูแลความปลอดภัยที่จะนำผลผลิตออกนอกพื้นที่ รวมทั้งเรื่องยางพาราที่ในระยะยาวจะต้องปรับปรุงสายพันธุ์ เพื่อให้ได้ยางคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ส่วนการประมง ทั้งประมงชายฝั่งและประมงน้ำลึก ได้เร่งรัดให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเรื่องประมงชายฝั่ง โดยให้ศึกษาการทำแนวปะการังเพิ่มเติมจากจังหวัดนราธิวาสถึงจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างปะการังเทียม ขณะที่การประมงในพื้นที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้ขอให้เร่งทำสัญญาร่วมกับประเทศ
อินโดนีเซีย
สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เพิ่มมาตรการดูแลที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่มีการชุมนุมปิดถนนหลายแห่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 24 คน เมื่อสอบสวนแล้ว มีผู้ไม่เกี่ยวข้อง 14 คน ยังเหลือที่ถูกควบคุมตัวในขณะนี้ 10 คน และมี 4 คน ที่รับสารภาพแล้วว่า เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้าย ซึ่งจับกุมได้พร้อมกับหลักฐานมัดตัวว่า มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงรถตู้โดยสารสายที่เบตง จังหวัดยะลา-หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีผู้เสียชีวิต 8 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการทุกอย่างตามตัวบทกฎหมาย ใครที่ไม่เกี่ยวข้องก็ปล่อยตัวไป แต่ใครเป็นผู้ต้องหารับสารภาพ ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งสามารถชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ทำให้ผู้ที่มาชุมนุมได้สลายตัวไป ซึ่งเป็นผลจากการทำงานทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านติดตามจับกุมการสอบสวน และชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าใครผิดหรือถูก
ส่วนปัญหาด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลมาตรฐานด้านการเรียนการสอน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ครูอัตราจ้างเป็นพนักงานของรัฐ ซึ่งถือว่าช่วยเพิ่มความมั่นคงในการงานได้อีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังได้ติดตามเรื่องการประสานงานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ได้นำสิ่งที่ตกลงกันมาทำประโยชน์ในด้านการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ของเรา โดยเฉพาะการเปิดอบรมครูในโรงเรียนที่จะมีการสอนศาสนาอิสลามโดยเฉพาะ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า ได้พบปัญหาที่เกิดต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์สึนามิ คือ ระบบแจ้งเตือนภัยที่ยังไม่สมบูรณ์ ทั้งที่จังหวัดพังงา ระนอง ซึ่งยังขาดหอกระจายข่าว ดังนั้น ต้องเร่งรัดให้เสร็จตามกำหนด นอกจากนี้ ยังต้องเร่งรัดระบบเครือข่ายการติดต่อสื่อสารระหว่างบนฝั่งกับบนเกาะ พร้อมกับเรือที่เดินทางไป-มาระหว่างฝั่งแผ่นดินใหญ่กับเกาะ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังมีเรื่องประชาชนกลุ่มน้อย เช่น ชาวเลที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และจะดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่ชาวบ้านเรียกร้องต่อไป
ส่วนการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะดูในเรื่องการกำจัดขยะ การบำบัดน้ำเสีย การเพิ่มน้ำจืดในบางจุด และเพิ่มโครงข่ายการคมนาคม โดยมอบให้ 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา ซึ่งบางส่วนสามารถทำได้ในระดับท้องถิ่น แต่ปัญหาบางส่วนต้องหารือในระดับนโยบาย เพื่อตัดสินใจ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อุทยานฯ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เย็นวันนี้ ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 อาคารใหม่ดอนเมือง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเดินทางกลับจากการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า จากที่ได้ไปติดตามงานพบปัญหาหลัก คือ เรื่องงบประมาณในส่วนโครงการอยู่ดีมีสุข ที่ยังลงไปไม่ถึงในระดับชุมชนและระดับหมู่บ้าน แต่คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ งบประมาณจะลงไปถึงเรียบร้อย ส่วนด้านการเกษตรได้เตรียมรองรับผลผลิต โดยเฉพาะผลไม้ คือ ลองกอง ที่จะออกในอีก 2 เดือนข้างหน้า โดยได้เตรียมเรื่องการตลาด และดูแลความปลอดภัยที่จะนำผลผลิตออกนอกพื้นที่ รวมทั้งเรื่องยางพาราที่ในระยะยาวจะต้องปรับปรุงสายพันธุ์ เพื่อให้ได้ยางคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ส่วนการประมง ทั้งประมงชายฝั่งและประมงน้ำลึก ได้เร่งรัดให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเรื่องประมงชายฝั่ง โดยให้ศึกษาการทำแนวปะการังเพิ่มเติมจากจังหวัดนราธิวาสถึงจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างปะการังเทียม ขณะที่การประมงในพื้นที่เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้ขอให้เร่งทำสัญญาร่วมกับประเทศ
อินโดนีเซีย
สำหรับการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้เพิ่มมาตรการดูแลที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่มีการชุมนุมปิดถนนหลายแห่ง หลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 24 คน เมื่อสอบสวนแล้ว มีผู้ไม่เกี่ยวข้อง 14 คน ยังเหลือที่ถูกควบคุมตัวในขณะนี้ 10 คน และมี 4 คน ที่รับสารภาพแล้วว่า เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุร้าย ซึ่งจับกุมได้พร้อมกับหลักฐานมัดตัวว่า มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครอง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุยิงรถตู้โดยสารสายที่เบตง จังหวัดยะลา-หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีผู้เสียชีวิต 8 คน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการทุกอย่างตามตัวบทกฎหมาย ใครที่ไม่เกี่ยวข้องก็ปล่อยตัวไป แต่ใครเป็นผู้ต้องหารับสารภาพ ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งสามารถชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ทำให้ผู้ที่มาชุมนุมได้สลายตัวไป ซึ่งเป็นผลจากการทำงานทั้ง 2 ด้าน คือ ด้านติดตามจับกุมการสอบสวน และชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่าใครผิดหรือถูก
ส่วนปัญหาด้านการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการดูแลมาตรฐานด้านการเรียนการสอน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ครูอัตราจ้างเป็นพนักงานของรัฐ ซึ่งถือว่าช่วยเพิ่มความมั่นคงในการงานได้อีกระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ยังได้ติดตามเรื่องการประสานงานกับประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ได้นำสิ่งที่ตกลงกันมาทำประโยชน์ในด้านการศึกษาในพื้นที่ภาคใต้ของเรา โดยเฉพาะการเปิดอบรมครูในโรงเรียนที่จะมีการสอนศาสนาอิสลามโดยเฉพาะ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายฝั่งอันดามันว่า ได้พบปัญหาที่เกิดต่อเนื่องมาจากเหตุการณ์สึนามิ คือ ระบบแจ้งเตือนภัยที่ยังไม่สมบูรณ์ ทั้งที่จังหวัดพังงา ระนอง ซึ่งยังขาดหอกระจายข่าว ดังนั้น ต้องเร่งรัดให้เสร็จตามกำหนด นอกจากนี้ ยังต้องเร่งรัดระบบเครือข่ายการติดต่อสื่อสารระหว่างบนฝั่งกับบนเกาะ พร้อมกับเรือที่เดินทางไป-มาระหว่างฝั่งแผ่นดินใหญ่กับเกาะ เพื่อให้สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหา รวมทั้งยังมีเรื่องประชาชนกลุ่มน้อย เช่น ชาวเลที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และจะดำเนินการแก้ไขปัญหาตามที่ชาวบ้านเรียกร้องต่อไป
ส่วนการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะดูในเรื่องการกำจัดขยะ การบำบัดน้ำเสีย การเพิ่มน้ำจืดในบางจุด และเพิ่มโครงข่ายการคมนาคม โดยมอบให้ 6 กระทรวงที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณา ซึ่งบางส่วนสามารถทำได้ในระดับท้องถิ่น แต่ปัญหาบางส่วนต้องหารือในระดับนโยบาย เพื่อตัดสินใจ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่อุทยานฯ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--