พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก
วันนี้ เวลา 13.40 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ จากนั้นนายชูชาติ ฉุยกลม ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง 2 โครงการเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กล่าวรายงานข้อมูลทั่วไปและความก้าวหน้าของโครงการเขื่อนแควน้อยฯ สรุปว่า โครงการเขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2546 ได้กำหนดแผนงานดำเนินการ 9 ปี (2546-2554) ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2546 คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้เห็นชอบปรับลดระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ ลงเหลือ 5 ปี (2546-2550) เพื่อเร่งรัดให้การก่อสร้างเสร็จทันในปีนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ล่าสุดการก่อสร้างดำเนินไปแล้วกว่าร้อยละ 65 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้เล็กน้อย โดยกรมชลประทานยืนยันว่าจะเสร็จทันตามกำหนดเวลาแน่นอน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนะแนวทางการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า โครงการเขื่อนแควน้อยฯ จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านได้มาก และช่วยให้การบริหารจัดการน้ำทางภาคเหนือดีขึ้น ทั้งนี้ ได้ขอให้กรมประชลประทานดำเนินการขอพระราชทานชื่อโครงการเขื่อนแควน้อยฯ ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อให้การเฉลิมฉลองในปีมหามงคลนี้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งขอให้กรมชลประทานศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีประโยชน์และมีราษฎรจำนวนมากร้องขอผ่านแม่ทัพภาคที่ 3 โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกติดตามโครงการดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำของเขื่อนแควน้อย ตามที่กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ทำข้อตกลงในการผลิตแล้วนั้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงขอให้ประสานงานและดำเนินการต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าบริเวณจุดก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบของโครงการเขื่อนแควน้อยฯ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังบ้านวนาหลวง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ฝายน้ำล้น เสร็จแล้วจะเดินทางไปพักค้างคืนที่จังหวัดเชียงใหม่
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 13.40 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าโครงการเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยมีนายพิพัฒน์ วงศาโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวต้อนรับ จากนั้นนายชูชาติ ฉุยกลม ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้าง 2 โครงการเขื่อนแควน้อย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน ได้กล่าวรายงานข้อมูลทั่วไปและความก้าวหน้าของโครงการเขื่อนแควน้อยฯ สรุปว่า โครงการเขื่อนแควน้อย จังหวัดพิษณุโลก เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2546 ได้กำหนดแผนงานดำเนินการ 9 ปี (2546-2554) ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2546 คณะกรรมการบริหารโครงการฯ ได้เห็นชอบปรับลดระยะเวลาการดำเนินงานโครงการฯ ลงเหลือ 5 ปี (2546-2550) เพื่อเร่งรัดให้การก่อสร้างเสร็จทันในปีนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา ล่าสุดการก่อสร้างดำเนินไปแล้วกว่าร้อยละ 65 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้เล็กน้อย โดยกรมชลประทานยืนยันว่าจะเสร็จทันตามกำหนดเวลาแน่นอน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนะแนวทางการปฏิบัติงานแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า โครงการเขื่อนแควน้อยฯ จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่านได้มาก และช่วยให้การบริหารจัดการน้ำทางภาคเหนือดีขึ้น ทั้งนี้ ได้ขอให้กรมประชลประทานดำเนินการขอพระราชทานชื่อโครงการเขื่อนแควน้อยฯ ตั้งแต่บัดนี้ เพื่อให้การเฉลิมฉลองในปีมหามงคลนี้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นการเทิดพระเกียรติแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งขอให้กรมชลประทานศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากเป็นโครงการที่มีประโยชน์และมีราษฎรจำนวนมากร้องขอผ่านแม่ทัพภาคที่ 3 โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกติดตามโครงการดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ในส่วนของการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำของเขื่อนแควน้อย ตามที่กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ทำข้อตกลงในการผลิตแล้วนั้น ถือเป็นเรื่องที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม จึงขอให้ประสานงานและดำเนินการต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าบริเวณจุดก่อสร้างเขื่อนหัวงานและอาคารประกอบของโครงการเขื่อนแควน้อยฯ ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังบ้านวนาหลวง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจเยี่ยมพื้นที่ฝายน้ำล้น เสร็จแล้วจะเดินทางไปพักค้างคืนที่จังหวัดเชียงใหม่
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--