นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม พร้อมระบุภาครัฐจะเน้นส่งเสริมการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ทั้งการปรับปรุงหลักสูตร และปรับสถานที่เรียนให้พร้อมและเหมาะกับการเรียนการสอนทั้งด้านสามัญและศาสนา รวมทั้งเน้นส่งเสริมด้านสาธารณสุขและอาชีพด้วย
วันนี้ เวลา 11.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ เดินทางไปรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดการเรียนการสอนแบบอิสลามในโรงเรียนของรัฐบาล ณ โรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม ว่า จากการที่ได้มีการทดลองจัดการเรียนการสอนแบบอิสลามในโรงเรียนของรัฐ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม พบว่าผู้ปกครองมีการตอบรับกลับมาในเกณฑ์ดี และสนใจที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากนี้ไปภาครัฐจะเน้นส่งเสริมการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ทั้งการปรับปรุงหลักสูตร และปรับสถานที่เรียนให้พร้อมและเหมาะกับการเรียนการสอนทั้งด้านสามัญและศาสนา นอกจากนี้ยังจะเน้นส่งเสริมด้านสาธารณสุขและอาชีพด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลความปลอดภัยและช่วยกันแก้ปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องการลงประชามติ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง อันจะนำไปสู่การผ่านพ้นวิกฤตของประเทศไปด้วยกัน
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งพบปะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยและอดีตแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 28 คน ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ในรายการ “ นายกรัฐมนตรีกับปัญหาชายแดนภาคใต้ “ ของทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า การที่เดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการติดตามความคืบหน้าของงานทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ เส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะการก่อสร้างเส้นทางระหว่างจังหวัดยะลา-หาดใหญ่ ซึ่งคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน และจะมีการศึกษาเส้นทางอำเภอยี่งอ-จังหวัดนราธิวาสด้วย นอกจากนั้นจะมีการปรับปรุงสนามบินนราธิวาสให้สามารถใช้งานได้ในอนาคตต่อไป ส่วนปัญหาโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงและครูที่ถูกคุมคามนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ปรับวิธีการใหม่ โดยโยกย้ายครูและนักเรียนมาอยู่ในโรงเรียนที่ปลอดภัย รวมทั้งปรับปรุงการเรียนการสอนให้โรงเรียนรัฐมีการสอนศาสนาเทียบเท่าโรงเรียนเอกชนด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เท่าที่ทำงานมาเกือบ 8 เดือน ทราบดีว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ภาคใต้ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะใช้นโยบายสันติวิธีและเน้นความสมานฉันท์เช่นเดิม ทั้งนี้ โดยภาพรวมของการแก้ไขปัญหานั้น คิดว่าประชาชนในพื้นที่เข้าใจสถานการณ์และหันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการมากขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ขณะนี้เหตุการณ์ร้ายลดลง และเกิดในพื้นที่จำกัด อย่างไรก็ตาม คงคาดการณ์ทิศทางการแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ถ้าหากประชาชนเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ควรจะมาร่วมมือกัน เพราะรัฐบาลอยู่อีกไม่นาน ถ้าประชาชนเลือกวิธีการเดิม แม้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องสานการแก้ไขปัญหาต่อ และจะพยายามติดตามความต่อเนื่องการแก้ไขปัญหาและทำงานให้สถานการณ์คลี่คลายไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ได้รับความร่วมมือและความเข้าใจจากประชาชนส่วนใหญ่ เพราะความร่วมมือเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมาใช้สิทธิ์ในลงประชามติให้มากที่สุด ส่วนจะพิจารณาอย่างไรเป็นการตัดสินของประชาชนเอง ซึ่งคงจะไม่ไปก้าวก่าย แต่อยากให้ประชาออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ ส่วนการเลือกตั้งนั้นรัฐบาลยังคงยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะได้พูดและสัญญากับประชาชนไว้แล้ว
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังตลาดกลางผลไม้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อพบปะประชาชนและกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกันในการจัดตั้งตลาดกลางเกษตร และประสานงานกับทุกภาคส่วน ทำให้ผลผลิตออกไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้ เพราะเดิมคาดว่าจะเน้นตลาดในประเทศก่อน และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พวกเราร่วมมือกัน เพราะขณะนี้เรื่องหลักของเราคือความไม่สงบ หากเราร่วมมือกันความเจริญก้าวหน้าก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะปัญหาติดขัดหลายเรื่องมาจากความไม่สงบ
เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปโรงเรียนบ้านสันติ 2 อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปและตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อรับประทานเย็นและพักค้างคืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ เดินทางไปรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องการจัดการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการจัดการเรียนการสอนแบบอิสลามในโรงเรียนของรัฐบาล ณ โรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม ว่า จากการที่ได้มีการทดลองจัดการเรียนการสอนแบบอิสลามในโรงเรียนของรัฐ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือโรงเรียนเวียงสุวรรณวิทยาคม พบว่าผู้ปกครองมีการตอบรับกลับมาในเกณฑ์ดี และสนใจที่จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากนี้ไปภาครัฐจะเน้นส่งเสริมการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น ทั้งการปรับปรุงหลักสูตร และปรับสถานที่เรียนให้พร้อมและเหมาะกับการเรียนการสอนทั้งด้านสามัญและศาสนา นอกจากนี้ยังจะเน้นส่งเสริมด้านสาธารณสุขและอาชีพด้วย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญคือการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลความปลอดภัยและช่วยกันแก้ปัญหาในพื้นที่ โดยเฉพาะในเรื่องการลงประชามติ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง อันจะนำไปสู่การผ่านพ้นวิกฤตของประเทศไปด้วยกัน
ต่อจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังค่ายสิรินธร อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งพบปะผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยและอดีตแกนนำผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้จำนวน 28 คน ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ในรายการ “ นายกรัฐมนตรีกับปัญหาชายแดนภาคใต้ “ ของทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดสงขลา โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า การที่เดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการติดตามความคืบหน้าของงานทั้งในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ เส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะการก่อสร้างเส้นทางระหว่างจังหวัดยะลา-หาดใหญ่ ซึ่งคิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน และจะมีการศึกษาเส้นทางอำเภอยี่งอ-จังหวัดนราธิวาสด้วย นอกจากนั้นจะมีการปรับปรุงสนามบินนราธิวาสให้สามารถใช้งานได้ในอนาคตต่อไป ส่วนปัญหาโรงเรียนที่ถูกลอบวางเพลิงและครูที่ถูกคุมคามนั้น ทางกระทรวงศึกษาธิการได้ปรับวิธีการใหม่ โดยโยกย้ายครูและนักเรียนมาอยู่ในโรงเรียนที่ปลอดภัย รวมทั้งปรับปรุงการเรียนการสอนให้โรงเรียนรัฐมีการสอนศาสนาเทียบเท่าโรงเรียนเอกชนด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เท่าที่ทำงานมาเกือบ 8 เดือน ทราบดีว่าปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ ภาคใต้ไม่สามารถแก้ไขได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่รัฐบาลยังคงยืนยันที่จะใช้นโยบายสันติวิธีและเน้นความสมานฉันท์เช่นเดิม ทั้งนี้ โดยภาพรวมของการแก้ไขปัญหานั้น คิดว่าประชาชนในพื้นที่เข้าใจสถานการณ์และหันมาให้ความร่วมมือกับทางราชการมากขึ้น จะเห็นได้ว่าในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นมาก มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก แต่ขณะนี้เหตุการณ์ร้ายลดลง และเกิดในพื้นที่จำกัด อย่างไรก็ตาม คงคาดการณ์ทิศทางการแก้ไขปัญหาไม่ได้ แต่ถ้าหากประชาชนเห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ควรจะมาร่วมมือกัน เพราะรัฐบาลอยู่อีกไม่นาน ถ้าประชาชนเลือกวิธีการเดิม แม้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่ก็ต้องสานการแก้ไขปัญหาต่อ และจะพยายามติดตามความต่อเนื่องการแก้ไขปัญหาและทำงานให้สถานการณ์คลี่คลายไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่ได้รับความร่วมมือและความเข้าใจจากประชาชนส่วนใหญ่ เพราะความร่วมมือเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาได้
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีอยากให้ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกมาใช้สิทธิ์ในลงประชามติให้มากที่สุด ส่วนจะพิจารณาอย่างไรเป็นการตัดสินของประชาชนเอง ซึ่งคงจะไม่ไปก้าวก่าย แต่อยากให้ประชาออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างเต็มที่ ส่วนการเลือกตั้งนั้นรัฐบาลยังคงยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีนี้ เพราะได้พูดและสัญญากับประชาชนไว้แล้ว
จากนั้นเวลา 15.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังตลาดกลางผลไม้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อพบปะประชาชนและกล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกันในการจัดตั้งตลาดกลางเกษตร และประสานงานกับทุกภาคส่วน ทำให้ผลผลิตออกไปสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นความคืบหน้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้ เพราะเดิมคาดว่าจะเน้นตลาดในประเทศก่อน และถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่พวกเราร่วมมือกัน เพราะขณะนี้เรื่องหลักของเราคือความไม่สงบ หากเราร่วมมือกันความเจริญก้าวหน้าก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะปัญหาติดขัดหลายเรื่องมาจากความไม่สงบ
เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปโรงเรียนบ้านสันติ 2 อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปและตรวจเยี่ยมความคืบหน้าการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเขื่อนบางลาง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เพื่อรับประทานเย็นและพักค้างคืน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--