นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตแล้ว พร้อมเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทั้ง 3 แห่งในอำเภอเมืองภูเก็ต
เมื่อเวลา 15.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยาน กองบิน 6 อาคารใหม่ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องแอร์บัส 310 ซึ่งเป็นเครื่องบินพาณิชย์เที่ยวแรกที่จะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต หลังจากปิดให้บริการเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินวันทูโก ลื่นไถลออกนอกรันเวย์เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการจะไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลสิริโรจน์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์บนเครื่องแอร์บัส 310 ระหว่างเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต ว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้ คือเรื่องขนลำเลียงศพ โดยวันนี้จะไปเยี่ยมผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งบริษัท โอเรียนท์ไทย มีประกันอยู่แล้ว แต่รัฐบาลจะไปดูเบื้องต้นว่า จะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการขนย้ายหากมีความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ป่วยหรือศพผู้ที่เสียชีวิต ก็พร้อมจัดเครื่องให้ หรือหากเห็นว่าโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ดีกว่าต้องการจะย้ายมารักษา รัฐบาลก็พร้อมจัดเครื่องบินเตรียมไว้ให้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว มีผู้เสียชีวิตประมาณ 90 ราย ส่วนการเก็บซากเครื่องบินเสร็จสิ้นแล้วเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา และขณะนี้มีความพร้อมที่จะเปิดใช้สนามบินแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยจะพิจารณา ส่วนการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมานั้น จะต้องเร่งรัดการสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน
ส่วนที่ว่าต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงต้องรอการทำงานของเจ้าหน้าที่ ภายใน 2-3 วันนี้ก่อน ขณะนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ และก็ไม่สามารถเดาสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ โดยมีรัฐบาลบางประเทศติดต่อมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ทางการต่างประเทศจะแถลงให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตแล้ว นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสรุปสถานการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินเข้าไปยังอาคารเอนกประสงค์ ภายในท่าอากาศยานฯ ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บศพผู้โดยสารที่เสียชีวิตทั้งหมด โดยนายก-รัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานด้วย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลสิริโรจน์ พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ รวมทั้งทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เวลา 19.45 น. นายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากไฟไหม้และการกระทบกระเทือนที่กระดูก จากการพูดคุยกับผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างประเทศทุกคนบอกว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการดูแลรักษาเป็นไปอย่างดี รู้สึกประทับใจและเข้าใจว่าประเทศไทยทำดีที่สุดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการสอบสวนสาเหตุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นของคณะกรรมการที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ว่าได้รับรายงานเบื้องต้นว่าจะต้องรอผลการพิสูจน์ ข้อมูลจากกล่องดำ ซึ่งจะส่งไปพิสูจน์ที่สหรัฐอเมริกาเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลกับหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ เบื้องต้นในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะในการถอดข้อมูล ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิดผลกระทบต่อ การท่องเที่ยว แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บชาวต่างประเทศต่างเข้าใจดี และรู้ว่าประเทศไทยดูแลอย่างเต็มที่ ต้องรออีกระยะจึงจะประเมินได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 15.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยาน กองบิน 6 อาคารใหม่ดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยเครื่องแอร์บัส 310 ซึ่งเป็นเครื่องบินพาณิชย์เที่ยวแรกที่จะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต หลังจากปิดให้บริการเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินวันทูโก ลื่นไถลออกนอกรันเวย์เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีกำหนดการจะไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลสิริโรจน์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์บนเครื่องแอร์บัส 310 ระหว่างเดินทางไปยังจังหวัดภูเก็ต ว่า สิ่งที่เป็นห่วงขณะนี้ คือเรื่องขนลำเลียงศพ โดยวันนี้จะไปเยี่ยมผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ซึ่งบริษัท โอเรียนท์ไทย มีประกันอยู่แล้ว แต่รัฐบาลจะไปดูเบื้องต้นว่า จะช่วยเหลืออะไรได้บ้าง โดยเฉพาะเรื่องการขนย้ายหากมีความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้ป่วยหรือศพผู้ที่เสียชีวิต ก็พร้อมจัดเครื่องให้ หรือหากเห็นว่าโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ดีกว่าต้องการจะย้ายมารักษา รัฐบาลก็พร้อมจัดเครื่องบินเตรียมไว้ให้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้พบผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว มีผู้เสียชีวิตประมาณ 90 ราย ส่วนการเก็บซากเครื่องบินเสร็จสิ้นแล้วเมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา และขณะนี้มีความพร้อมที่จะเปิดใช้สนามบินแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยจะพิจารณา ส่วนการเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมานั้น จะต้องเร่งรัดการสอบสวนอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน
ส่วนที่ว่าต่างชาติมีความเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ คงต้องรอการทำงานของเจ้าหน้าที่ ภายใน 2-3 วันนี้ก่อน ขณะนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ และก็ไม่สามารถเดาสาเหตุที่เกิดขึ้นได้ โดยมีรัฐบาลบางประเทศติดต่อมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ทางการต่างประเทศจะแถลงให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตแล้ว นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสรุปสถานการณ์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินเข้าไปยังอาคารเอนกประสงค์ ภายในท่าอากาศยานฯ ซึ่งใช้เป็นสถานที่เก็บศพผู้โดยสารที่เสียชีวิตทั้งหมด โดยนายก-รัฐมนตรีได้ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานด้วย หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต และโรงพยาบาลสิริโรจน์ พร้อมกำชับให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ รวมทั้งทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เวลา 19.45 น. นายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บว่า ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เกิดจากไฟไหม้และการกระทบกระเทือนที่กระดูก จากการพูดคุยกับผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างประเทศทุกคนบอกว่า การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการดูแลรักษาเป็นไปอย่างดี รู้สึกประทับใจและเข้าใจว่าประเทศไทยทำดีที่สุดแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการสอบสวนสาเหตุอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นของคณะกรรมการที่มีนายชัยสวัสดิ์ กิตติพรไพบูลย์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ว่าได้รับรายงานเบื้องต้นว่าจะต้องรอผลการพิสูจน์ ข้อมูลจากกล่องดำ ซึ่งจะส่งไปพิสูจน์ที่สหรัฐอเมริกาเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลกับหลักฐานต่าง ๆ ที่พบ เบื้องต้นในที่เกิดเหตุ คาดว่าจะใช้เวลาสักระยะในการถอดข้อมูล ซึ่งขณะนี้ยังไม่เกิดผลกระทบต่อ การท่องเที่ยว แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บชาวต่างประเทศต่างเข้าใจดี และรู้ว่าประเทศไทยดูแลอย่างเต็มที่ ต้องรออีกระยะจึงจะประเมินได้
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--