นายกรัฐมนตรีฝากให้ผู้ว่าฯ เชิญชวนประชาชนร่วมใจกันถวายพระพรเนื่องในงานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา พร้อมย้ำข้าราชการวางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด ตั้งเป้าประชาชนออกมาใช้สิทธิ 70%
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางไปยังศาลาประชาคมบ้านพลวง หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และเยี่ยมชมกิจการของหมู่บ้าน
จากนั้น เวลา 11.30 น. ณ โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 และมอบนโยบายในหัวข้อ “การสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จำนวน 1,108 คน เข้าร่วมการประชุม
นายวิชัย ศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง ได้กล่าวรายงานสรุปว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้จัดให้มีโครงการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550” ขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 6 รุ่น ดำเนินการในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงมอบนโยบายของรัฐบาลให้แก่ผู้บริหารในส่วนภูมิภาค ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯ และการชี้แจงกระบวนงานตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ตลอดจนมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมและมอบนโยบาย โดยได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการทั้งในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ช่วยกันรับไปดำเนินการ คืองานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งทุกคนคงร่วมใจกันที่จะถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยแข็งแรง และมีพระชนมายุที่ยั่งยืนนาน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่สำคัญ จึงอยากจะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมมือร่วมใจแสดงพลังออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการถวายพระพรอย่างจริงจัง ยิ่งใหญ่สมกับที่พวกเราทุกคนตั้งใจถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รัฐบาลมีหน้าที่ให้การสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริต ยุติธรรม โปร่งใส และทุกคนคงอยากจะให้การเลือกตั้งของเราอยู่ในเกณฑ์ที่สุจริตโปร่งใส บทเรียนที่เกิดขึ้นถือว่าต้องนำมาพิจารณาอย่างรอบคอบ และแก้ไขไม่ให้ปรากฏ หรือปรากฏน้อยที่สุด ซึ่งผลเสียที่เกิดขึ้นเราทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าเกิดวิกฤตในบ้านเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะความไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม บริหารบ้านเมืองแบบไม่มีธรรมาภิบาล ดังนั้น การเลือกตั้งในช่วงอีก 60 วันข้างหน้าจะเป็นการคัดสรรผู้ที่มาทำหน้าที่ด้านบริหารและนิติบัญญัติให้กับบ้านเมือง จึงจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่สุจริตยุติธรรม หากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไว้วางใจไม่ได้ ก็จะเหลือเพียงส่วนเดียวคือฝ่ายตุลาการ เมื่อสองส่วนทำงานได้ไม่ครบถ้วน บ้านเมืองก็ต้องเผชิญปัญหาเช่นในอดีต ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจของประชาชน โดยขอให้มองข้ามผลประโยชน์ มองข้ามความสัมพันธ์และผลประโยชน์ในระยะสั้น เพื่อบรรลุเป้าหมาย และยึดถือกฎหมายเป็นกรอบสำคัญ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าในส่วนของข้าราชการนั้น ขอให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด หากต้องเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งขอให้ได้รับคำสั่งจาก กกต. ที่ชัดเจน หากไม่ได้รับคำสั่งแต่งตั้ง ก็ขอให้วางตัวเป็นกลาง และจะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง เพราจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในภาพรวม ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องน่าเบื่อ ส่วนการจับกลุ่มเปลี่ยนพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องปรับตัว อย่าไปถือว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ต้องให้ความสนใจติดตาม พิจารณาผู้ที่จะมาทำหน้าที่ด้านบริหาร และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เมื่อประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมาก แม้ว่าจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงก็จะไม่กระทบกับการเลือกตั้ง และต้องให้ความรู้กับประชาชนในการแจ้งเบาะแสตลอดการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ ก็ขอให้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็ต้องขอชื่นชม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ปัญหาที่จะมีการยึดบัตรประชาชนหรือย้ายประชาชนในพื้นที่ต่างๆ คงทำไม่ทัน เพราะการแบ่งเขตการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนในอดีต แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา ในเมื่อเราอยากได้ผู้บริหารบ้านเมืองที่มีความรับผิดชอบ มีหลักธรรมาภิบาลทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรออกมาใช้สิทธิ เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะพูดกันว่าบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าช้าล้าหลัง ถ้าเรายังมีปัญหาในการบริหารบ้านเมืองเราก็คงจะไปไม่ถึงไหน
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จแล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังจังหวัดขอนแก่น เพื่อเปิดประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 2 ณ โรงแรมโฆษะ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัด กว่า 1,200 คน เข้าร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าขอให้ทุกคนได้ให้การสนับสนุนการเลือกตั้งและให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้ รวมทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายบัญญัติ จันทน์เสนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้เดินทางไปยังศาลาประชาคมบ้านพลวง หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เพื่อพบปะประชาชนและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามโครงการภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์อยู่ดีมีสุข และเยี่ยมชมกิจการของหมู่บ้าน
จากนั้น เวลา 11.30 น. ณ โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 และมอบนโยบายในหัวข้อ “การสนับสนุนการดำเนินการเลือกตั้งที่โปร่งใสเป็นธรรม” โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จำนวน 1,108 คน เข้าร่วมการประชุม
นายวิชัย ศรีขวัญ อธิบดีกรมการปกครอง ได้กล่าวรายงานสรุปว่า กระทรวงมหาดไทยในฐานะที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้จัดให้มีโครงการประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550” ขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 6 รุ่น ดำเนินการในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงมอบนโยบายของรัฐบาลให้แก่ผู้บริหารในส่วนภูมิภาค ผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯ และการชี้แจงกระบวนงานตามวาระแห่งชาติว่าด้วยการรณรงค์และแก้ไขปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียง ตลอดจนมาตรการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการประชุมและมอบนโยบาย โดยได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ข้าราชการทั้งในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ช่วยกันรับไปดำเนินการ คืองานมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งทุกคนคงร่วมใจกันที่จะถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ มีพระพลานามัยแข็งแรง และมีพระชนมายุที่ยั่งยืนนาน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่สำคัญ จึงอยากจะขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมมือร่วมใจแสดงพลังออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการถวายพระพรอย่างจริงจัง ยิ่งใหญ่สมกับที่พวกเราทุกคนตั้งใจถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รัฐบาลมีหน้าที่ให้การสนับสนุนให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริต ยุติธรรม โปร่งใส และทุกคนคงอยากจะให้การเลือกตั้งของเราอยู่ในเกณฑ์ที่สุจริตโปร่งใส บทเรียนที่เกิดขึ้นถือว่าต้องนำมาพิจารณาอย่างรอบคอบ และแก้ไขไม่ให้ปรากฏ หรือปรากฏน้อยที่สุด ซึ่งผลเสียที่เกิดขึ้นเราทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่าเกิดวิกฤตในบ้านเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะความไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม บริหารบ้านเมืองแบบไม่มีธรรมาภิบาล ดังนั้น การเลือกตั้งในช่วงอีก 60 วันข้างหน้าจะเป็นการคัดสรรผู้ที่มาทำหน้าที่ด้านบริหารและนิติบัญญัติให้กับบ้านเมือง จึงจำเป็นต้องมีเป้าหมายที่สุจริตยุติธรรม หากฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติไว้วางใจไม่ได้ ก็จะเหลือเพียงส่วนเดียวคือฝ่ายตุลาการ เมื่อสองส่วนทำงานได้ไม่ครบถ้วน บ้านเมืองก็ต้องเผชิญปัญหาเช่นในอดีต ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่ที่ความร่วมมือร่วมใจของประชาชน โดยขอให้มองข้ามผลประโยชน์ มองข้ามความสัมพันธ์และผลประโยชน์ในระยะสั้น เพื่อบรรลุเป้าหมาย และยึดถือกฎหมายเป็นกรอบสำคัญ
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าในส่วนของข้าราชการนั้น ขอให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด หากต้องเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งขอให้ได้รับคำสั่งจาก กกต. ที่ชัดเจน หากไม่ได้รับคำสั่งแต่งตั้ง ก็ขอให้วางตัวเป็นกลาง และจะต้องช่วยกันดูแลในเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง เพราจะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในภาพรวม ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องน่าเบื่อ ส่วนการจับกลุ่มเปลี่ยนพรรคการเมืองถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องปรับตัว อย่าไปถือว่าเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่ต้องให้ความสนใจติดตาม พิจารณาผู้ที่จะมาทำหน้าที่ด้านบริหาร และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชักชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เมื่อประชาชนออกมาใช้สิทธิกันมาก แม้ว่าจะมีการซื้อสิทธิขายเสียงก็จะไม่กระทบกับการเลือกตั้ง และต้องให้ความรู้กับประชาชนในการแจ้งเบาะแสตลอดการเลือกตั้ง เพื่อให้การเลือกตั้งบรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการ ก็ขอให้เชิญชวนประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างที่ตั้งเป้าหมายไว้ 70 เปอร์เซ็นต์ ถ้าทำได้มากกว่านั้นก็ต้องขอชื่นชม
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ปัญหาที่จะมีการยึดบัตรประชาชนหรือย้ายประชาชนในพื้นที่ต่างๆ คงทำไม่ทัน เพราะการแบ่งเขตการเลือกตั้งมีการเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนในอดีต แต่ก็ไม่น่ามีปัญหา ในเมื่อเราอยากได้ผู้บริหารบ้านเมืองที่มีความรับผิดชอบ มีหลักธรรมาภิบาลทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้าก็ควรออกมาใช้สิทธิ เพราะไม่เช่นนั้นเราก็จะพูดกันว่าบ้านเมืองเจริญก้าวหน้าช้าล้าหลัง ถ้าเรายังมีปัญหาในการบริหารบ้านเมืองเราก็คงจะไปไม่ถึงไหน
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน เสร็จแล้วขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปยังจังหวัดขอนแก่น เพื่อเปิดประชุมสัมมนาการเตรียมการเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้ง ประจำปี 2550 รุ่นที่ 2 ณ โรงแรมโฆษะ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประธานชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัด กว่า 1,200 คน เข้าร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าขอให้ทุกคนได้ให้การสนับสนุนการเลือกตั้งและให้วางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้ รวมทั้งช่วยกันสอดส่องดูแลการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--