นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล ประชาธิปไตยสีขาว ครั้งที่ 1 เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “ประชาธิปไตยสีขาว” ครั้งที่ 1 จัดโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ และประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้ชนะเลิศกิจกรรม “ประชาธิปไตยสีขาว” ได้ประกาศผู้เข้ารับรางวัลฯ ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 จังหวัดที่มีประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2550 สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ภาคใต้ จังหวัดพัทลุง ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดนครนายก
ประเภทที่ 2 สถานีตำรวจภูธรอำเภอที่มีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียงสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ สถานีตำรวจภูธร อำเภอคีรีนาศ จังหวัดสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ภาคกลาง สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท
ประเภทที่ 3 จังหวัดที่มีผู้พิการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2550 สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ภาคใต้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร ภาคกลาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ
ประเภทที่ 4 การจัดทำโครงงานส่งเสริมประชาธิปไตยจากการมีส่วนร่วมของภาคเยาวชนดีเด่น ได้แก่ ภาคเหนือ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ภาคใต้ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดชุมพร ภาคกลาง สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีมอบรางวัล “ประชาธิไตยสีขาว” นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550ที่ผ่านมา ถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่มีความสำคัญยิ่งของบ้านเมือง เพราะเป็นการกำหนดทิศทางและอนาคตของประเทศ ซึ่งไม่ว่าผลของการใช้สิทธิของประชาชนจะออกมาเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ แต่สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงกันมากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คืออยากเห็นประชาชนได้ร่วมกันออกไปใช้สิทธิ แสดงเจตจำนง ของแต่ละคนเป็นจำนวนมาก ๆ และเป็นไปโดยอิสระ โดยวิจารณญาณและความต้องการที่แท้จริง ไม่มีการชี้นำหรือกระทำโดยอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งที่นอกเหนือจากความต้องการของตนเอง รัฐบาลจึงได้พยายามป้องกันและแก้ไขในสิ่งเหล่านี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยว่า เป็นรูปแบบการปกครองที่ยึดหลักเสียงข้างมาก เน้นเรื่องของการใช้สิทธิโดยชอบธรรม การมีเสรีภาพ การมีส่วนร่วมและรู้จักหน้าที่ของทุกคนโดยเสมอภาค การปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เป็นรูปแบบการปกครองที่เลวน้อยที่สุดและเหมาะสมในปัจจุบันนี้ โดยประชาชนจะเลือกตัวแทนเข้าไปใช้อำนาจแทน ในการออกกฎหมายและการบริหารกิจการบ้านเมือง เพื่อทำให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี การเลือกตั้งจึงเป็นกระบวนการที่ถือว่ามีความสำคัญในการที่จะคัดสรรตัวแทนของปวงชน เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเหมาะสมที่จะทำงานเพื่อส่วนรวมต่อไป
เนื่องจากการเลือกตั้งมีความสำคัญ รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มีการรณรงค์ส่งเสริม เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และมีส่วนร่วมที่จะช่วยกันเลือกคนดี คนที่มีความรู้ มีความซื่อสัตย์สุจริตเข้าไปทำหน้าที่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมือ และพยายามทำหน้าที่ของแต่ละส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดการการเลือกตั้งบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้ในด้านการลดการซื้อสิทธิขายเสียง จำนวนผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ และความเรียบร้อยของการจัดการเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด และเยาวชนทุกคน ที่ได้เห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ ถือเป็นขั้นเบื้องต้นของเยาวชนที่มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยขึ้นในบ้านเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่า งานในส่วนของชุมชนและจังหวัดจะไม่มีความสำคัญ
นายกรัฐมนตรีได้แนะนำเยาวชนทุกคนว่าการที่จะสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง คือการทำให้ ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุข มีรายได้ที่พอเพียง มีความสงบเรียบร้อย มีความเอื้ออารีย์ มีความอ่อนโยน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะทำให้เราได้ผู้นำที่ดีมีความเข้มแข็งด้วย
เพราะฉะนั้น กระบวนการที่จะเลือกผู้นำที่ดีต้องเริ่มจากชุมชน ถ้าผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง ผู้นำในระดับต่อ ๆ ไปย่อมมีความเข้มแข็งด้วย ความเข้มแข็งของชุมชน จะเป็นรากฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย ถ้าชุมชนไม่เข้มแข็ง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตคือเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงจะเกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อมีผู้ลงทุนก็ย่อมจะแสวงหาผลกำไร ไม่มีใครที่อยากจะขาดทุน
นายกรัฐมนตรีได้ฝากเยาวชนทั้งหลายว่า ความพยายามที่จะสร้างสังคมที่ดีงาม สังคมที่เป็นประชาธิปไตย จะต้องใช้เวลาอีกยาวนานพอสมควร ที่ทุกคนได้ร่วมกันในวันนี้ถือเป็นก้าวแรก และยังมีก้าวต่อไปที่ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมกันอีกมากมาย ในกระบวนการของการเดินหน้าที่จะสร้างสังคมที่ดีขึ้นของบ้านเมืองเรา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีมอบรางวัล “ประชาธิปไตยสีขาว” ครั้งที่ 1 จัดโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจแก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมประชาธิปไตยให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
นายกิตติ สมานไทย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุ และประธานคณะกรรมการคัดเลือกผู้ชนะเลิศกิจกรรม “ประชาธิปไตยสีขาว” ได้ประกาศผู้เข้ารับรางวัลฯ ซึ่งแบ่งเป็น 4 ประเภทดังนี้
ประเภทที่ 1 จังหวัดที่มีประชาชนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2550 สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุบลราชธานี ภาคใต้ จังหวัดพัทลุง ภาคกลาง จังหวัดชัยนาท ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จังหวัดนครนายก
ประเภทที่ 2 สถานีตำรวจภูธรอำเภอที่มีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อสิทธิขายเสียงสูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ สถานีตำรวจภูธร อำเภอคีรีนาศ จังหวัดสุโขทัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ภาคกลาง สถานีตำรวจภูธร อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท
ประเภทที่ 3 จังหวัดที่มีผู้พิการไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2550 สูงสุด ได้แก่ ภาคเหนือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองคาย ภาคใต้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร ภาคกลาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรปราการ
ประเภทที่ 4 การจัดทำโครงงานส่งเสริมประชาธิปไตยจากการมีส่วนร่วมของภาคเยาวชนดีเด่น ได้แก่ ภาคเหนือ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุตรดิตถ์ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดขอนแก่น ภาคใต้ สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดชุมพร ภาคกลาง สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดสมุทรปราการ
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีมอบรางวัล “ประชาธิไตยสีขาว” นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550ที่ผ่านมา ถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่มีความสำคัญยิ่งของบ้านเมือง เพราะเป็นการกำหนดทิศทางและอนาคตของประเทศ ซึ่งไม่ว่าผลของการใช้สิทธิของประชาชนจะออกมาเป็นอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยอมรับ แต่สิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงกันมากในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา คืออยากเห็นประชาชนได้ร่วมกันออกไปใช้สิทธิ แสดงเจตจำนง ของแต่ละคนเป็นจำนวนมาก ๆ และเป็นไปโดยอิสระ โดยวิจารณญาณและความต้องการที่แท้จริง ไม่มีการชี้นำหรือกระทำโดยอยู่บนพื้นฐานของปัจจัยอย่างใดอย่างหนึ่งที่นอกเหนือจากความต้องการของตนเอง รัฐบาลจึงได้พยายามป้องกันและแก้ไขในสิ่งเหล่านี้ โดยมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งให้มากขึ้น
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยว่า เป็นรูปแบบการปกครองที่ยึดหลักเสียงข้างมาก เน้นเรื่องของการใช้สิทธิโดยชอบธรรม การมีเสรีภาพ การมีส่วนร่วมและรู้จักหน้าที่ของทุกคนโดยเสมอภาค การปกครองระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า เป็นรูปแบบการปกครองที่เลวน้อยที่สุดและเหมาะสมในปัจจุบันนี้ โดยประชาชนจะเลือกตัวแทนเข้าไปใช้อำนาจแทน ในการออกกฎหมายและการบริหารกิจการบ้านเมือง เพื่อทำให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีความอยู่ดีกินดี การเลือกตั้งจึงเป็นกระบวนการที่ถือว่ามีความสำคัญในการที่จะคัดสรรตัวแทนของปวงชน เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และเหมาะสมที่จะทำงานเพื่อส่วนรวมต่อไป
เนื่องจากการเลือกตั้งมีความสำคัญ รัฐบาลจึงต้องกำหนดให้มีการรณรงค์ส่งเสริม เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้ มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และมีส่วนร่วมที่จะช่วยกันเลือกคนดี คนที่มีความรู้ มีความซื่อสัตย์สุจริตเข้าไปทำหน้าที่ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมือ และพยายามทำหน้าที่ของแต่ละส่วนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การจัดการการเลือกตั้งบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่วางไว้ในด้านการลดการซื้อสิทธิขายเสียง จำนวนผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ และความเรียบร้อยของการจัดการเลือกตั้ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด และเยาวชนทุกคน ที่ได้เห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ และรณรงค์ส่งเสริมการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้ ถือเป็นขั้นเบื้องต้นของเยาวชนที่มีส่วนร่วมในกระบวนการที่จะสร้างสรรค์ประชาธิปไตยขึ้นในบ้านเมือง แต่ไม่ได้หมายความว่า งานในส่วนของชุมชนและจังหวัดจะไม่มีความสำคัญ
นายกรัฐมนตรีได้แนะนำเยาวชนทุกคนว่าการที่จะสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง คือการทำให้ ประชาชนมีความอยู่ดีมีสุข มีรายได้ที่พอเพียง มีความสงบเรียบร้อย มีความเอื้ออารีย์ มีความอ่อนโยน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และจะทำให้เราได้ผู้นำที่ดีมีความเข้มแข็งด้วย
เพราะฉะนั้น กระบวนการที่จะเลือกผู้นำที่ดีต้องเริ่มจากชุมชน ถ้าผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็ง ผู้นำในระดับต่อ ๆ ไปย่อมมีความเข้มแข็งด้วย ความเข้มแข็งของชุมชน จะเป็นรากฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย ถ้าชุมชนไม่เข้มแข็ง สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตคือเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงจะเกิดขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า เมื่อมีผู้ลงทุนก็ย่อมจะแสวงหาผลกำไร ไม่มีใครที่อยากจะขาดทุน
นายกรัฐมนตรีได้ฝากเยาวชนทั้งหลายว่า ความพยายามที่จะสร้างสังคมที่ดีงาม สังคมที่เป็นประชาธิปไตย จะต้องใช้เวลาอีกยาวนานพอสมควร ที่ทุกคนได้ร่วมกันในวันนี้ถือเป็นก้าวแรก และยังมีก้าวต่อไปที่ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมกันอีกมากมาย ในกระบวนการของการเดินหน้าที่จะสร้างสังคมที่ดีขึ้นของบ้านเมืองเรา
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--