นายกรัฐมนตรีระบุประเทศจะมีประชาธิปไตยสีขาวได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน และต้องยอมรับผลการเลือกตั้งเพื่อช่วยกันติดตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงแนวความคิดการรณรงค์ประชาธิปไตยสีขาว ว่า เราคงไม่ได้คิดว่าถนนที่ไปสู่ประชาธิปไตยจะต้องโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราพยายามฟันฝ่าไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย มีประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่และเป็นประชาธิปไตยที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ถ้าเรามีความพยายามก็คงไม่ไกลเกินไปที่จะไปถึงจุดนั้น ทั้งนี้ เท่าที่ดูสถานการณ์ในขณะนี้ประชาธิปไตยสีขาวบ้านเมืองเรา อยู่ที่ความร่วมมือ ความเข้าใจ ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ และไม่พยายามเลย คงไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าพยายามช่วยกัน ร่วมมือกัน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ก็คิดว่าเราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ เราต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง และต้องช่วยกันติดตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ต่อข้อถามว่า เชื่อว่ารัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจะนำความสงบมาสู่ประเทศได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าจะมีใครมาเป็นคณะรัฐมนตรีบ้าง รอให้ถึงเวลาก่อน แต่ขอให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลมีเวลาทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี
ต่อข้อถามว่า ถ้านายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยู่ที่คนจะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งมีความหวัง ไม่เคยหมดความหวัง บ้านเมืองของเราน่าจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าต่อไป หากพวกเราช่วยกันดูแล ไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น จนทำให้เราสูญเสียโอกาส
ต่อข้อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งได้คนดีอย่างที่เคยรณรงค์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าประชาชนเลือกพรรคหนึ่งพรรคใด จนได้เสียงข้างมาก ก็เป็นสิทธิของพรรคนั้นที่จะจัดตั้งรัฐบาล ถ้าประชาชนเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับ ไม่ได้คิดตามใจตัวเอง แต่เชื่อตามที่ประชาชนต้องการ
ต่อข้อถามว่า มีข่าวว่านายสมัครฯ จะนั่งควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะยอมรับได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามทหาร เพราะวันนี้เป็นพลเรือน
ต่อข้อถามว่า เชื่อหรือไม่ที่นายสมัครฯ ระบุว่ามีมือสกปรกขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคุณสมัครฯ และไม่ทราบว่าอะไรเป็นมือสะอาด หรือเป็นมือสกปรก “ถ้าผมเป็นคุณสมัคร ผมคงตอบได้ แต่ตอนนี้ผมเป็นคุณสุรยุทธ์ ผมตอบไม่ได้”
ต่อข้อถามว่า ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลความสงบที่ศาลฎีกาจะตัดสินคดีกล่าวหาพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการมาตั้งแต่ต้นว่าให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้ เราควรยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรม และควรปฏิบัติตาม เพราะถ้าบ้านเมืองไม่มีกติกา เอาแต่ใจตัวเอง อาศัยกฎหมู่ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ถ้าเราช่วยกันก็จะทำให้บ้านเมืองเราเปลี่ยนผ่านไปโดยความสงบเรียบร้อย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงแนวความคิดการรณรงค์ประชาธิปไตยสีขาว ว่า เราคงไม่ได้คิดว่าถนนที่ไปสู่ประชาธิปไตยจะต้องโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราพยายามฟันฝ่าไปให้ถึงจุดมุ่งหมาย มีประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่และเป็นประชาธิปไตยที่โปร่งใสตรวจสอบได้ ถ้าเรามีความพยายามก็คงไม่ไกลเกินไปที่จะไปถึงจุดนั้น ทั้งนี้ เท่าที่ดูสถานการณ์ในขณะนี้ประชาธิปไตยสีขาวบ้านเมืองเรา อยู่ที่ความร่วมมือ ความเข้าใจ ถ้าเราคิดว่าทำไม่ได้ และไม่พยายามเลย คงไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าพยายามช่วยกัน ร่วมมือกัน ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ก็คิดว่าเราสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปได้ เราต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง และต้องช่วยกันติดตามสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ต่อข้อถามว่า เชื่อว่ารัฐบาลที่จะเกิดขึ้นจะนำความสงบมาสู่ประเทศได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่าจะมีใครมาเป็นคณะรัฐมนตรีบ้าง รอให้ถึงเวลาก่อน แต่ขอให้ผู้ที่จะเข้ามาเป็นรัฐบาลมีเวลาทำงานเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คิดว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี
ต่อข้อถามว่า ถ้านายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดความสมานฉันท์ ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยู่ที่คนจะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไป ซึ่งมีความหวัง ไม่เคยหมดความหวัง บ้านเมืองของเราน่าจะมีโอกาสเจริญก้าวหน้าต่อไป หากพวกเราช่วยกันดูแล ไม่ปล่อยให้มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้น จนทำให้เราสูญเสียโอกาส
ต่อข้อถามว่า คิดว่าการเลือกตั้งได้คนดีอย่างที่เคยรณรงค์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ถ้าประชาชนเลือกพรรคหนึ่งพรรคใด จนได้เสียงข้างมาก ก็เป็นสิทธิของพรรคนั้นที่จะจัดตั้งรัฐบาล ถ้าประชาชนเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับ ไม่ได้คิดตามใจตัวเอง แต่เชื่อตามที่ประชาชนต้องการ
ต่อข้อถามว่า มีข่าวว่านายสมัครฯ จะนั่งควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะยอมรับได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามทหาร เพราะวันนี้เป็นพลเรือน
ต่อข้อถามว่า เชื่อหรือไม่ที่นายสมัครฯ ระบุว่ามีมือสกปรกขัดขวางการจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะไม่ได้เป็นคุณสมัครฯ และไม่ทราบว่าอะไรเป็นมือสะอาด หรือเป็นมือสกปรก “ถ้าผมเป็นคุณสมัคร ผมคงตอบได้ แต่ตอนนี้ผมเป็นคุณสุรยุทธ์ ผมตอบไม่ได้”
ต่อข้อถามว่า ได้สั่งการให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลความสงบที่ศาลฎีกาจะตัดสินคดีกล่าวหาพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้สั่งการมาตั้งแต่ต้นว่าให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้ เราควรยอมรับคำตัดสินของกระบวนการยุติธรรม และควรปฏิบัติตาม เพราะถ้าบ้านเมืองไม่มีกติกา เอาแต่ใจตัวเอง อาศัยกฎหมู่ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ถ้าเราช่วยกันก็จะทำให้บ้านเมืองเราเปลี่ยนผ่านไปโดยความสงบเรียบร้อย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--