แท็ก
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
จังหวัดนครราชสีมา
สุรยุทธ์ จุลานนท์
ทรัพยากรธรรมชาติ
กระทรวงมหาดไทย
นายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีปิดการอบรมโครงการค่ายเยาวชนรักความปลอดภัย ร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รุ่นที่ 13 ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
วันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนรักความปลอดภัย ร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รุ่นที่ 13 ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามสถานีต่าง ๆ จำนวน 6 สถานี ได้แก่ สร้างบ้าน พรางตา สมุนไพร ปัจจัยกำหนด ระบบนิเวศน์ และรอยเท้ากำหนด ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ กล่าวรายงานสรุปว่า โครงการค่ายเยาวชนรักความปลอดภัย ร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้จัดให้มีการอบรมแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2543 และได้ดำเนินโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงในปี 2551 เป็นรุ่นที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างพื้นฐานด้านความรู้และทักษะแก่เยาวชนในการควบคุม ป้องกันอุบัติภัยต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งการอบรมครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จำนวน 26 แห่ง ได้ส่งนักเรียนและครูเข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 250 คน ระยะเวลาดำเนินการอบรม รวม 2 วัน 1 คืน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และจะได้รับมอบวุฒิบัตรหลังจากผ่านการอบรมด้วย ซึ่งมีกิจกรรมหลัก ๆ เช่น การบรรยายการป้องกันอุบัติภัย การช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย การสาธิตการขับขี่ปลอดภัย การศึกษาและเรียนรู้การป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การส่องสัตว์ การดูดาว การดูนก เป็นต้น
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบวุฒิบัตรแก่เยาวชนที่ร่วมโครงการฯ พร้อมกล่าวให้โอวาทและกล่าวปิดการอบรม สรุปว่า การเกิดพิบัติภัยในประเทศมีทั้งภัยที่เกิดจากธรรมชาติและภัยที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของประชาชนผู้ประสบเหตุเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน การป้องกันและแก้ไขอุบัติภัยจึงมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัยและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างถูกวิธี จึงเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนการได้เรียนรู้และศึกษาถึงคุณค่าของธรรมชาติ จะทำให้เราได้มีความเข้าใจในระบบและวิธีการเกื้อหนุนสรรพชีวิตของธรรมชาติ ทำให้สามารถปกป้องธรรมชาติได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานในเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยหลายภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชน เป็นการทำงานที่ยากลำบาก หากไม่มีความตั้งใจจริง พร้อมขอชื่นชมทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานมาโดยตลอด และเชื่อว่าผลที่จะได้รับในระยะยาวมีความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยส่วนรวมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เยาวชนจะเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงาน เพื่อลดปัญหาอุบัติภัยและลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป และขอให้เยาวชนช่วยเป็นกำลังสำคัญที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้คนอื่น ๆ ได้รับทราบอย่างกว้างขวางต่อไปด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้มีพลังในการสร้างสรรค์และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวมสืบต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น. พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนรักความปลอดภัย ร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รุ่นที่ 13 ทำกิจกรรมสร้างสรรค์ตามสถานีต่าง ๆ จำนวน 6 สถานี ได้แก่ สร้างบ้าน พรางตา สมุนไพร ปัจจัยกำหนด ระบบนิเวศน์ และรอยเท้ากำหนด ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์การป้องกันอุบัติภัยแห่งชาติ กล่าวรายงานสรุปว่า โครงการค่ายเยาวชนรักความปลอดภัย ร่วมใจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ได้จัดให้มีการอบรมแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2543 และได้ดำเนินโครงการฯ มาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงในปี 2551 เป็นรุ่นที่ 13 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างพื้นฐานด้านความรู้และทักษะแก่เยาวชนในการควบคุม ป้องกันอุบัติภัยต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตประจำวัน ซึ่งการอบรมครั้งนี้มีสถาบันการศึกษาต่าง ๆ จำนวน 26 แห่ง ได้ส่งนักเรียนและครูเข้าร่วมโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 250 คน ระยะเวลาดำเนินการอบรม รวม 2 วัน 1 คืน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และจะได้รับมอบวุฒิบัตรหลังจากผ่านการอบรมด้วย ซึ่งมีกิจกรรมหลัก ๆ เช่น การบรรยายการป้องกันอุบัติภัย การช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย การสาธิตการขับขี่ปลอดภัย การศึกษาและเรียนรู้การป้องกันและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ การส่องสัตว์ การดูดาว การดูนก เป็นต้น
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้มอบวุฒิบัตรแก่เยาวชนที่ร่วมโครงการฯ พร้อมกล่าวให้โอวาทและกล่าวปิดการอบรม สรุปว่า การเกิดพิบัติภัยในประเทศมีทั้งภัยที่เกิดจากธรรมชาติและภัยที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ ซึ่งได้สร้างความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของประชาชนผู้ประสบเหตุเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน การป้องกันและแก้ไขอุบัติภัยจึงมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ฝึกอบรมเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัยและการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างถูกวิธี จึงเป็นประโยชน์ต่อการนำไปใช้เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้น ส่วนการได้เรียนรู้และศึกษาถึงคุณค่าของธรรมชาติ จะทำให้เราได้มีความเข้าใจในระบบและวิธีการเกื้อหนุนสรรพชีวิตของธรรมชาติ ทำให้สามารถปกป้องธรรมชาติได้อย่างถูกต้องมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การดำเนินงานในเรื่องเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยหลายภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ท้องถิ่น ชุมชน และประชาชน เป็นการทำงานที่ยากลำบาก หากไม่มีความตั้งใจจริง พร้อมขอชื่นชมทุกคนที่ได้ร่วมกันทำงานมาโดยตลอด และเชื่อว่าผลที่จะได้รับในระยะยาวมีความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยโดยส่วนรวมอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เยาวชนจะเป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงาน เพื่อลดปัญหาอุบัติภัยและลดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป และขอให้เยาวชนช่วยเป็นกำลังสำคัญที่จะนำความรู้เหล่านี้ไปเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้คนอื่น ๆ ได้รับทราบอย่างกว้างขวางต่อไปด้วย
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานดังกล่าว และขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้มีพลังในการสร้างสรรค์และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติโดยส่วนรวมสืบต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--