นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมไปมอบบัตรเลขศูนย์ให้ชาวมอร์แกนที่จังหวัดระนอง
เช้าวันนี้ ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 อาคารใหม่ ดอนเมือง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปจังหวัดยะลาถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ (21 ม.ค.) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป สำหรับสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะยุติได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องติดตามดูและหาทางแก้ไขปัญหา ขณะนี้คิดว่ามีความพยายามจากทุกฝ่ายที่จะให้ความร่วมมือมากขึ้น แม้แต่สภาที่ปรึกษาของ ศอ.บต. เอง ก็บอกว่ามีประชาชนให้ความร่วมมือ และให้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนการทำงานของทหาร ก็ต้องมีการติดตามกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร และการดำเนินการในปัจจุบันก็ต้องมีการปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมและทันกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องยอมรับว่า มีทหารบางคนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการนำข้อมูลข่าวสารออกไปข้างนอก ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องดูแลกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าทหารในพื้นที่อาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหน้าที่แล้วทหารคงรู้ตัวเองดีว่า ควรจะตกเป็นเครื่องมือหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในทุก ๆ ภาคส่วนเอง ก็มีโอกาสที่จะมีข้อมูลที่รั่วไหลออกไปได้ ซึ่งจุดนี้ก็ต้องช่วยกันระมัดระวังกันต่อไป
สำหรับช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปมอบบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือที่รู้จักกันในนาม “บัตรเลขศูนย์” ซึ่งเป็นบัตรการสำรวจเบื้องต้นก่อนที่จะพิจารณาออกบัตรประชาชนให้กับชาวมอร์แกนจำนวน 258 คน ที่โรงยิมเนเซียมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง พร้อมพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เช้าวันนี้ ณ ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 อาคารใหม่ ดอนเมือง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก บุญรอด สมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก พงษ์เทพ เทศประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายพงศ์โพยม วาศภูติ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปจังหวัดยะลาถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้ว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ (21 ม.ค.) เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องติดตามกันต่อไป สำหรับสถานการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะยุติได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องติดตามดูและหาทางแก้ไขปัญหา ขณะนี้คิดว่ามีความพยายามจากทุกฝ่ายที่จะให้ความร่วมมือมากขึ้น แม้แต่สภาที่ปรึกษาของ ศอ.บต. เอง ก็บอกว่ามีประชาชนให้ความร่วมมือ และให้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์มากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนการทำงานของทหาร ก็ต้องมีการติดตามกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องของข้อมูลข่าวสาร และการดำเนินการในปัจจุบันก็ต้องมีการปรับปรุงให้เกิดความเหมาะสมและทันกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องยอมรับว่า มีทหารบางคนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องของการนำข้อมูลข่าวสารออกไปข้างนอก ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องดูแลกันต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่าทหารในพื้นที่อาจตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อความไม่สงบ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยหน้าที่แล้วทหารคงรู้ตัวเองดีว่า ควรจะตกเป็นเครื่องมือหรือไม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าในทุก ๆ ภาคส่วนเอง ก็มีโอกาสที่จะมีข้อมูลที่รั่วไหลออกไปได้ ซึ่งจุดนี้ก็ต้องช่วยกันระมัดระวังกันต่อไป
สำหรับช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางไปมอบบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือที่รู้จักกันในนาม “บัตรเลขศูนย์” ซึ่งเป็นบัตรการสำรวจเบื้องต้นก่อนที่จะพิจารณาออกบัตรประชาชนให้กับชาวมอร์แกนจำนวน 258 คน ที่โรงยิมเนเซียมองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง พร้อมพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--