นายกรัฐมนตรีสั่งทุกหน่วยงาน เร่งแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า ให้สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 7 วัน ระบุเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่ ย้ำหัวใจสำคัญการแก้ไขปัญหาต้องลดการจุดไฟเผาป่า
วันนี้ (2 เมษายน 2562) เวลา 11.30 น. ณ หอประชุมอเนกประสงค์ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังการเป็นประธานการประชุมแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้กำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในระยะแรกหรือระยะเร่งด่วน คือการเน้นลดจุดเผาไหม้หรือจุด Hotspot ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดวันนี้มีจุดเผามากกว่า 3,000 จุด และลดลงแล้วเหลือ 1,900 จุด ขณะที่แผนการป้องกันและแก้ปัญหาระยะกลางจะอยู่ที่ 1 - 2 ปี นอกจากนี้ยังวางแผนการแก้ปัญหาในระยะยาวคือ 5 ปีขึ้นไป ย้ำว่า การบูรณาการการแก้ปัญหาจะต้องทำให้สถานการณ์ดีขึ้นภายใน 7 วัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำให้ปัญหาหมดไปได้ภายใน 7 วันเพราะต้องยอมรับว่าปัญหานี้ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากการจุดไฟเผาป่าเป็นส่วนใหญ่ และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่จุดไฟเผาพื้นที่ทางการเกษตร พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีย้ำว่ารัฐบาลได้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและมีการจับกุมไปแล้วในหลายกรณี แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลก็คำนึงถึงผู้ที่มีผลกระทบทุกส่วนด้วย โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่และดีที่สุดเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การนำคณะลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ เนื่องจากยังไม่พอใจผลของการทำงานเพื่อแก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ แต่ไม่ใช่ไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะรู้ว่าทุกฝ่ายได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งวันนี้ค่าของฝุ่นละอองก็มีการปรับขึ้นลงตามสถานการณ์และจุดที่เกิดการเผาไหม้
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดูแลกลุ่มของเด็กและผู้สูงอายุซึ่งมีความอ่อนไหวต่อปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น พร้อมกับย้ำว่าภาครัฐได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองให้กับประชาชนแล้วเฉพาะในจังหวัดเชียงใหม่ถึง 1,700,000 ชิ้น
----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th