พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกรอบตีกอล์ฟร่วมกับสนช.และคณะเอกอัครราชทูตเพื่อกระชับความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างกัน
เช้าวันนี้ ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ที่สนามกอล์ฟเดอะรอยัล กอล์ฟ ลาดกระบัง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรี อาทิ นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายมงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และฝ่ายนิติบัญญัติ คณะเอกอัครราชทูตอาเซียน รวมทั้งเอกอัครราชทูตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้ออกรอบตีกอล์ฟร่วมกัน โดยเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อกระชับความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างกัน โดยในช่วงเที่ยงได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันด้วย
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประกาศจะนำนโยบายประชานิยมมาสานต่อ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็นำแนวทางส่วนหนึ่งของนโยบายประชานิยมมาปรับปรุงบางส่วนที่เห็นว่าควรทำให้ดีกว่าเดิม เช่น โครงการอยู่ดีมีสุข แต่รัฐบาลนี้ได้นำมาดัดแปลงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพราะหากจะหยิบมาใช้ก็ควรทำให้ดีกว่าของเดิม แต่ที่ยังห่วงคืออาจไม่ได้เน้นที่การสร้างผลผลิต แต่เป็นการใช้เงินมากกว่า จึงอยากฝากให้รัฐบาลใหม่นำนโยบายที่เป็นประโยชน์มาดำเนินการและนำไปปรับใช้ในทางที่ดีขึ้น
ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา แม้จะเป็นพลเรือน แต่นายสมัครก็เป็นนักการเมืองมานาน และคงไม่มีปัญหาเรื่องเวลาการทำงาน เพราะตนก็ยังควบดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีการเข้ามาล้างบางในกองทัพนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะขณะนื้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายไปได้และเกิดความสมานฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะรุ่นพี่จะพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเพื่อให้คำแนะนำหรือไม่ เพราะหากนายสมัครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจพูดคุยกันลำบาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะพูดคุยเรื่องการทำงานกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในฐานะฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ เพราะเหล่าทัพมีส่วนดูและร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอยู่แล้ว
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 หากจะโยกย้ายข้าราชการระดับนายพลจะต้องผ่านมติคณะกรรมการ 7 คนเป็นการตีกันนายสมัครนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ถือเป็นการตีกันนายสมัครฯ แต่เป็นกฎหมายที่พิจารณามานานแล้ว และผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามขั้นตอน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เช้าวันนี้ ตั้งแต่เวลา 06.30 น. ที่สนามกอล์ฟเดอะรอยัล กอล์ฟ ลาดกระบัง พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรี อาทิ นายนิตย์ พิบูลสงคราม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายมงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และฝ่ายนิติบัญญัติ คณะเอกอัครราชทูตอาเซียน รวมทั้งเอกอัครราชทูตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้ออกรอบตีกอล์ฟร่วมกัน โดยเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เพื่อกระชับความสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างกัน โดยในช่วงเที่ยงได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันด้วย
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ประกาศจะนำนโยบายประชานิยมมาสานต่อ ว่า ไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ก็นำแนวทางส่วนหนึ่งของนโยบายประชานิยมมาปรับปรุงบางส่วนที่เห็นว่าควรทำให้ดีกว่าเดิม เช่น โครงการอยู่ดีมีสุข แต่รัฐบาลนี้ได้นำมาดัดแปลงเพื่อให้เกิดความเหมาะสม เพราะหากจะหยิบมาใช้ก็ควรทำให้ดีกว่าของเดิม แต่ที่ยังห่วงคืออาจไม่ได้เน้นที่การสร้างผลผลิต แต่เป็นการใช้เงินมากกว่า จึงอยากฝากให้รัฐบาลใหม่นำนโยบายที่เป็นประโยชน์มาดำเนินการและนำไปปรับใช้ในทางที่ดีขึ้น
ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่มีปัญหา แม้จะเป็นพลเรือน แต่นายสมัครก็เป็นนักการเมืองมานาน และคงไม่มีปัญหาเรื่องเวลาการทำงาน เพราะตนก็ยังควบดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีการเข้ามาล้างบางในกองทัพนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะขณะนื้ทุกฝ่ายต้องช่วยกันดูแลให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายไปได้และเกิดความสมานฉันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะรุ่นพี่จะพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพเพื่อให้คำแนะนำหรือไม่ เพราะหากนายสมัครเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อาจพูดคุยกันลำบาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่จะพูดคุยเรื่องการทำงานกับผู้บัญชาการเหล่าทัพในฐานะฝ่ายบริหาร ไม่ว่าจะควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ เพราะเหล่าทัพมีส่วนดูและร่วมประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอยู่แล้ว
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 หากจะโยกย้ายข้าราชการระดับนายพลจะต้องผ่านมติคณะกรรมการ 7 คนเป็นการตีกันนายสมัครนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ถือเป็นการตีกันนายสมัครฯ แต่เป็นกฎหมายที่พิจารณามานานแล้ว และผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามขั้นตอน
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--