เชค คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัลคอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนพบปะหารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีถวายพระกระยาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
วันนี้เวลา 12.45 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เชค คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัลคอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนพบปะหารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีถวายพระกระยาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการสนทนา สรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และยินดีที่ได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ได้มีการพบหารือเมื่อวันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีบาห์เรนกล่าวยืนยันสานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือทางการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งจะสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนของสองประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บาห์เรนได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและบาห์เรนมีความใกล้ชิดกันและมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับให้มากขึ้น นอกจากนี้ บาห์เรนมีความสนใจส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับไทย โดยเฉพาะด้านการแพทย์ที่ไทยมีความพร้อมและความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับ ทำให้มีผู้เดินทางเข้ามารับการรักษาในประเทศไทยจำนวนมาก จึงยินดีสนับสนุนให้มีความร่วมมือในลักษณะการร่วมทุนของโรงพยาบาลของไทยกับบาห์เรน และยินดีสนับสนุนให้ไทยเป็น medical hub ในภูมิภาค ทั้งนี้ หากมีการเพิ่มเที่ยวบินจากบาห์เรนสู่กรุงเทพฯ จะยิ่งช่วยส่งผลให้มีการเดินทางระหว่างกันสะดวกยิ่งขึ้น และจะมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาหรับเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและบาห์เรนในด้านต่างๆให้กว้างขวางและเกิดประโยชน์ระหว่างกันยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมนโยบายสนับสนุนให้ไทยและบาห์เรนเป็นประตูสู่ภูมิภาคระหว่างกัน ทั้งนี้ ไทยและบาห์เรนต่างเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมาโดยตลอด อีกทั้ง บาห์เรนให้ความช่วยเหลือกับไทยในการสร้างความเข้าใจกับ OIC ในด้านต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มประเทศอาหรับอีกด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น medical hub เพราะไทยมีความพร้อมในหลายๆด้าน เช่น แพทย์ไทยมีความรู้ความเชียวชาญเป็นที่ยอมรับ และปัจจุบันมีแพทย์ไทยที่มีชื่อเสียงที่สหรัฐฯจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายสนับสนุนให้แพทย์เหล่านี้ได้กลับมาไทย เพื่อช่วยสร้างศักยภาพแก่การแพทย์ไทย ลักษณะที่โดดเด่นด้านการให้บริการที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี ( hospitality ) เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามารับการรักษาในประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการสร้างเมืองใหม่ เพื่อการแพทย์โดยเฉพาะที่ส่งเสริมให้มีทั้งมหาวิทยาลัยการแพทย์ และโรงพยาบาลระดับโลกที่ทันสมัย อีกด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้เวลา 12.45 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เชค คอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัลคอลิฟะห์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนพบปะหารือกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีถวายพระกระยาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติ ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการสนทนา สรุปดังนี้
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน กล่าวแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรีที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และยินดีที่ได้มีโอกาสพบกันอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ได้มีการพบหารือเมื่อวันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ 2551 ณ โรงแรมโอเรียนเต็ล ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีบาห์เรนกล่าวยืนยันสานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกับไทย โดยเฉพาะการส่งเสริมความร่วมมือทางการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งจะสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนของสองประเทศให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บาห์เรนได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนประจำประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยและบาห์เรนมีความใกล้ชิดกันและมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับให้มากขึ้น นอกจากนี้ บาห์เรนมีความสนใจส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับไทย โดยเฉพาะด้านการแพทย์ที่ไทยมีความพร้อมและความเชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับ ทำให้มีผู้เดินทางเข้ามารับการรักษาในประเทศไทยจำนวนมาก จึงยินดีสนับสนุนให้มีความร่วมมือในลักษณะการร่วมทุนของโรงพยาบาลของไทยกับบาห์เรน และยินดีสนับสนุนให้ไทยเป็น medical hub ในภูมิภาค ทั้งนี้ หากมีการเพิ่มเที่ยวบินจากบาห์เรนสู่กรุงเทพฯ จะยิ่งช่วยส่งผลให้มีการเดินทางระหว่างกันสะดวกยิ่งขึ้น และจะมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาหรับเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้นด้วย
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทยและบาห์เรนในด้านต่างๆให้กว้างขวางและเกิดประโยชน์ระหว่างกันยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งเสริมนโยบายสนับสนุนให้ไทยและบาห์เรนเป็นประตูสู่ภูมิภาคระหว่างกัน ทั้งนี้ ไทยและบาห์เรนต่างเป็นมิตรประเทศที่ดีต่อกันมาโดยตลอด อีกทั้ง บาห์เรนให้ความช่วยเหลือกับไทยในการสร้างความเข้าใจกับ OIC ในด้านต่างๆ รวมถึงการส่งเสริมการลงทุนจากกลุ่มประเทศอาหรับอีกด้วย ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็น medical hub เพราะไทยมีความพร้อมในหลายๆด้าน เช่น แพทย์ไทยมีความรู้ความเชียวชาญเป็นที่ยอมรับ และปัจจุบันมีแพทย์ไทยที่มีชื่อเสียงที่สหรัฐฯจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินนโยบายสนับสนุนให้แพทย์เหล่านี้ได้กลับมาไทย เพื่อช่วยสร้างศักยภาพแก่การแพทย์ไทย ลักษณะที่โดดเด่นด้านการให้บริการที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี ( hospitality ) เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามารับการรักษาในประเทศไทย นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมการสร้างเมืองใหม่ เพื่อการแพทย์โดยเฉพาะที่ส่งเสริมให้มีทั้งมหาวิทยาลัยการแพทย์ และโรงพยาบาลระดับโลกที่ทันสมัย อีกด้วย
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--