วันนี้ (20 มิถุนายน 2562) เวลา 09.30 น. นายจิน ลีฉวิน (Mr. Jin Liqun) ประธานธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (Asian Infrastructure Investment Bank: AIIB) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเดินทางมาเข้าร่วมการประชุม Bloomberg ASEAN Business Summit ที่กรุงเทพฯ ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระสำคัญการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่ได้พบกับประธาน AIIB อีกครั้ง หลังจากที่เคยพบกัน เมื่อปี 2560 และชื่นชมประธาน AIIB ที่ได้นำพาองค์กรให้มีการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเอเชียจำนวนมาก ขณะที่ประธาน AIIB กล่าวยินดีกับนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งนี้อีกครั้ง โดยเห็นถึงพัฒนาการที่ก้าวหน้าของประเทศไทยภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีเรื่อยมา
สำหรับความร่วมมือในภูมิภาค นายกรัฐมนตรีเห็นว่า มีหลายประเทศในภูมิภาคที่ต้องการแหล่งเงินทุนสนับสนุนเพื่อไปดำเนินโครงการและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จึงสนับสนุนให้ AIIB มาเป็นหุ้นส่วนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานกับอาเซียน และสร้างความร่วมมือในกรอบ ACMECS ผ่านการให้เงินกู้หรือการเข้าร่วมสมทบกองทุน ACMECS (ACMECS Fund) เพื่อให้กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนและ ACMECS เติบโตไปพร้อมกัน โดยประธาน AIIB ยืนยันความพร้อมที่จะสนับสนุนการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค เนื่องจาก AIIB มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่างกันของประเทศสมาชิกในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับความเชื่อมโยง และต้องการเห็นอาเซียนเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ต้องการเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางกายภาพ (Hard Connectivity) โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง และความเชื่อมโยงที่จับต้องไม่ได้ (Soft Connectivity) อาทิ ความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล กฏระเบียบ และภาคเอกชน ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ประธาน AIIB ยืนยันว่าประเทศไทยยังมีโอกาสในการพัฒนาหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเชื่อมโยงของภูมิภาคในอนาคต ทางธนาคาร AIIB จึงพร้อมให้การสนับสนุนทางการเงินในการพัฒนาโครงการสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนาภูมิภาคร่วมกัน
นอกจากนี้ ประธาน AIIB ชื่นชมนโยบายประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดความร่วมมือเชิงหุ้นส่วนอย่างรอบด้านกับประเทศสมาชิกในภูมิภาค ทั้งอาเซียน CLMV และจีน (โดยเฉพาะนโยบาย Belt & Road Initiative) ผ่านโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC) และหากประเทศไทยร่วมมือกับ AIIB จะส่งผลดีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ประเทศไทยยินดีสนับสนุนและให้ความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย พร้อมเชื่อมั่นว่า AIIB จะยังคงดำเนินงานอย่างแข็งขันต่อไป และมีบทบาทในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคอาเซียนและทวีปเอเชียมากขึ้นในอนาคต
ที่มา: http://www.thaigov.go.th