นายกรัฐมนตรีระบุประชุม ครม. นัดแรกหารือเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กว่า 2 ชั่วโมง พร้อมเร่งยกร่างนโยบายรัฐบาลให้ ครม. พิจารณาในสัปดาห์หน้า
เมื่อเวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะประชุม ครม.เพียง 1 ชั่วโมง แต่ก็ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงครึ่ง เพราะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน คือ เรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรของไทย หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มาชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่และเป็นปัญหาที่ไม่น่าเชื่อ ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการทำลายครอบครัว ครอบครัวเขาอยู่กันมาดี ๆ เสียหายครอบครัวหมด เพราะความเกลียดแค้น ชิงชัง ไม่ชอบ ก็มาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ในอดีตเขียนไว้ในระเบียบต่างๆ แต่วันนี้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็ต้องระมัดระวัง เฉพาะเรื่องนี้ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง เพราะไม่เคยคิดว่าจะเป็นอันตราย แต่วันนี้ถือว่าอันตรายมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาถึงเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่สามารถดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีได้ เพราะยังมีพรรคการเมืองสงสัย จะให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ไม่มีเหตุ สรุปว่าจะส่งให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ แต่ถ้าอยากจะลองกันก็จะใช้คนที่เป็น ส.ส.มาทดลองกัน ก็เลยจะลองเอา ส.ส.ระบบสัดส่วนมาเป็นเลขาฯ ก่อน 1 คนก็ต้องยอมเสีย หากชี้ว่าดำรงตำแหน่งเลขาฯ ไม่ได้ ก็จะมีคนส่งเรื่องให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คงต้องทดลองแบบนั้น ทุกอย่างยุ่งยากไปหมด ต้องระมัดระวัง
ต่อข้อถามว่า เมื่อเจอปัญหาเหล่านี้จะดำเนินการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องแก้ของเราก่อน เพราะไม่มีทางอื่น หากเราแก้ของเราได้ เราก็แก้ของเรา เพราะการแก้รัฐธรรมนูญควรแก้ทีเดียวทั้งหมด ไม่ใช่แก้ทีละประเด็น ดังนั้น ขณะนี้เราต้องแบกภาระตรงนี้ก่อน และหาทางออก เรามีเวลาถึงวันที่ 6 มีนาคม ช่วงนี้ต้องหารือกับทาง ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิดว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ เพราะมีปัญหากับ ส.ส. ของเราหลายคน คนที่รับตำแหน่งรับหน้าที่ไว้แล้วเดินทางมาครึ่งทางแล้วอย่างนี้สิ่งที่เขามีก็เสียหายหมด
“ไม่ได้หมายความถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างเดียว ภรรยาของรัฐมนตรีบางคนทำงานมีอาชีพเรียบร้อยแต่เมื่อสามีมารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลับทำไม่ได้เลย แบ่งหุ้นแยกหุ้นทำไม่ได้ แม้กระทั่งการหย่า เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ได้ เพราะรู้ว่ามีเจตนา” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาลว่า ในวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์นี้คงจะเสร็จเรียบร้อย และอยากให้ ครม. ทั้ง 35 คนได้อ่านก่อน จากนั้นในการประชุม ครม. วันอังคารจะได้สรุปนโยบายและขอความเห็นชอบ ซึ่งจะขอแถลงนโยบายต่อสภาฯ ในวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 11.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ตอนแรกตั้งใจว่าจะประชุม ครม.เพียง 1 ชั่วโมง แต่ก็ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงครึ่ง เพราะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน คือ เรื่องการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรของไทย หลังจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มาชี้แจงรายละเอียดและขั้นตอนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่และเป็นปัญหาที่ไม่น่าเชื่อ ที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนั้นเป็นการทำลายครอบครัว ครอบครัวเขาอยู่กันมาดี ๆ เสียหายครอบครัวหมด เพราะความเกลียดแค้น ชิงชัง ไม่ชอบ ก็มาเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด ในอดีตเขียนไว้ในระเบียบต่างๆ แต่วันนี้บรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็ต้องระมัดระวัง เฉพาะเรื่องนี้ใช้เวลาไป 1 ชั่วโมง เพราะไม่เคยคิดว่าจะเป็นอันตราย แต่วันนี้ถือว่าอันตรายมาก
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาถึงเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ไม่สามารถดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีได้ เพราะยังมีพรรคการเมืองสงสัย จะให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ไม่มีเหตุ สรุปว่าจะส่งให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ แต่ถ้าอยากจะลองกันก็จะใช้คนที่เป็น ส.ส.มาทดลองกัน ก็เลยจะลองเอา ส.ส.ระบบสัดส่วนมาเป็นเลขาฯ ก่อน 1 คนก็ต้องยอมเสีย หากชี้ว่าดำรงตำแหน่งเลขาฯ ไม่ได้ ก็จะมีคนส่งเรื่องให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คงต้องทดลองแบบนั้น ทุกอย่างยุ่งยากไปหมด ต้องระมัดระวัง
ต่อข้อถามว่า เมื่อเจอปัญหาเหล่านี้จะดำเนินการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องแก้ของเราก่อน เพราะไม่มีทางอื่น หากเราแก้ของเราได้ เราก็แก้ของเรา เพราะการแก้รัฐธรรมนูญควรแก้ทีเดียวทั้งหมด ไม่ใช่แก้ทีละประเด็น ดังนั้น ขณะนี้เราต้องแบกภาระตรงนี้ก่อน และหาทางออก เรามีเวลาถึงวันที่ 6 มีนาคม ช่วงนี้ต้องหารือกับทาง ป.ป.ช. อย่างใกล้ชิดว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ เพราะมีปัญหากับ ส.ส. ของเราหลายคน คนที่รับตำแหน่งรับหน้าที่ไว้แล้วเดินทางมาครึ่งทางแล้วอย่างนี้สิ่งที่เขามีก็เสียหายหมด
“ไม่ได้หมายความถึงการแสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างเดียว ภรรยาของรัฐมนตรีบางคนทำงานมีอาชีพเรียบร้อยแต่เมื่อสามีมารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลับทำไม่ได้เลย แบ่งหุ้นแยกหุ้นทำไม่ได้ แม้กระทั่งการหย่า เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ได้ เพราะรู้ว่ามีเจตนา” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาลว่า ในวันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์นี้คงจะเสร็จเรียบร้อย และอยากให้ ครม. ทั้ง 35 คนได้อ่านก่อน จากนั้นในการประชุม ครม. วันอังคารจะได้สรุปนโยบายและขอความเห็นชอบ ซึ่งจะขอแถลงนโยบายต่อสภาฯ ในวันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--