นายกรัฐมนตรีประชุมร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพที่กระทรวงกลาโหม เผยแนวทางการทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
วันนี้ เวลา 11.45 น. ที่กระทรวงกลาโหม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นการให้นโยบายเพียงแต่ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้รายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ฟังว่าเป็นไปอย่างไร ซึ่งแนวทางการทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้ตกลงทำงานร่วมกันอย่างเรียบร้อย ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรคงบอกในรายละเอียดไม่ได้ สำหรับเรื่องเงินประจำตำแหน่งของทหารนั้น เพิ่งทราบว่าความจริงกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ผ่านความเห็นชอบไปแล้ว
ต่อข้อถามว่า มีความกังวลเรื่องการทำงานระหว่างนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำไมถึงต้องกังวล วันนี้มาก็พูดจากันดีทุกอย่าง ดังนั้น ไม่ต้องไปแบกความกังวลอะไรเลย ทุกคนดีหมด คุยกันยาว และคนที่คุยกันยาวที่สุดคือพลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการคุยกันในเรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และได้ถามปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งพลเอก สพรั่งฯ รู้เรื่องและมีประสบการณ์ดีก็ตอบให้ทราบ
ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งในวงเล็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างการนัดสถานที่ วันนี้ไม่ได้หารือเรื่องนี้เพราะเป็นการพูดคุยครั้งแรกและเป็นเวทีใหญ่ ส่วนจะไปร่วมประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเมื่อไร ทางเจ้าหน้าที่จะประสานงานมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางเข้ามาทำหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมครั้งแรก รู้สึกประหลาดใจว่าทำไมข้างในถึงได้โล่งและสะอาดเรียบร้อย เพราะไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่ก่อนนี้เขาบอกว่าเป็นโรงทหารที่รุงรัง จึงปรับเปลี่ยนเอาตัวหนอนมาปูใหม่เพื่อใช้สำหรับรับแขก และจะเข้ามาทำงานที่กระทรวงกลาโหมต่อเมื่อมีงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วางเป้าหมายการทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำให้กองทัพอยู่กับบ้านเมืองอย่างเรียบร้อยดี ส่วนการหารือเกี่ยวกับการโยกย้ายนายทหารที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ก็ไม่ได้เป็นห่วง ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเล่าถึงบทบาททางการเมืองให้ทหารเข้าใจด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องเล่าให้สื่อฟัง เพราะเป็นการพูดกันเป็นการภายใน และไม่ต้องมีการปรับความเข้าใจอะไรกัน เพราะไม่เคยเข้าใจอะไรกันผิด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 11.45 น. ที่กระทรวงกลาโหม นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมประชุมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่า การมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นการให้นโยบายเพียงแต่ผู้บัญชาการเหล่าทัพได้รายงานสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ฟังว่าเป็นไปอย่างไร ซึ่งแนวทางการทำงานร่วมกันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้ตกลงทำงานร่วมกันอย่างเรียบร้อย ส่วนแนวทางจะเป็นอย่างไรคงบอกในรายละเอียดไม่ได้ สำหรับเรื่องเงินประจำตำแหน่งของทหารนั้น เพิ่งทราบว่าความจริงกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้ผ่านความเห็นชอบไปแล้ว
ต่อข้อถามว่า มีความกังวลเรื่องการทำงานระหว่างนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการเหล่าทัพหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำไมถึงต้องกังวล วันนี้มาก็พูดจากันดีทุกอย่าง ดังนั้น ไม่ต้องไปแบกความกังวลอะไรเลย ทุกคนดีหมด คุยกันยาว และคนที่คุยกันยาวที่สุดคือพลเอก สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นการคุยกันในเรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัว และได้ถามปัญหาหลายเรื่อง ซึ่งพลเอก สพรั่งฯ รู้เรื่องและมีประสบการณ์ดีก็ตอบให้ทราบ
ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งในวงเล็ก ขณะนี้อยู่ระหว่างการนัดสถานที่ วันนี้ไม่ได้หารือเรื่องนี้เพราะเป็นการพูดคุยครั้งแรกและเป็นเวทีใหญ่ ส่วนจะไปร่วมประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในเมื่อไร ทางเจ้าหน้าที่จะประสานงานมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางเข้ามาทำหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมครั้งแรก รู้สึกประหลาดใจว่าทำไมข้างในถึงได้โล่งและสะอาดเรียบร้อย เพราะไม่เคยคิดมาก่อนเลย แต่ก่อนนี้เขาบอกว่าเป็นโรงทหารที่รุงรัง จึงปรับเปลี่ยนเอาตัวหนอนมาปูใหม่เพื่อใช้สำหรับรับแขก และจะเข้ามาทำงานที่กระทรวงกลาโหมต่อเมื่อมีงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วางเป้าหมายการทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทำให้กองทัพอยู่กับบ้านเมืองอย่างเรียบร้อยดี ส่วนการหารือเกี่ยวกับการโยกย้ายนายทหารที่จะมีขึ้นในเดือนเมษายนนี้ ก็ไม่ได้เป็นห่วง ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการเล่าถึงบทบาททางการเมืองให้ทหารเข้าใจด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องเล่าให้สื่อฟัง เพราะเป็นการพูดกันเป็นการภายใน และไม่ต้องมีการปรับความเข้าใจอะไรกัน เพราะไม่เคยเข้าใจอะไรกันผิด
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--