นายกรัฐมนตรีเผยที่ประชุมครม.เห็นชอบร่างนโยบายรัฐบาล และส่งให้สภาพัฒน์ฯ รับไปดำเนินการก่อนแถลงต่อสภาฯ 18 ก.พ.นี้
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ ครม. ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีวาระที่น่าสนใจและใช้เวลาหารือกันค่อนข้างนานคือร่างนโยบายรัฐบาลที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันยกร่างมา 4 ครั้ง และได้ส่งให้รัฐมนตรีพิจารณา แต่ไม่ได้บังคับให้รัฐมนตรีต้องเห็นชอบตามร่างดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีได้อ่านกันแล้ว ทั้งหมดมี 26 หน้า อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม. วันนี้ได้มีรัฐมนตรี 6-7 คนมีข้อทักท้วงในบางส่วน และเมื่อที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างนโยบายแล้ว ก็ให้ส่งไปสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะเจ้าของเรื่องรับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง ส่วนกระแสข่าวการเลื่อนแถลงนโยบายจากวันที่ 18 กุมภาพันธ์ มาเป็นวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นั้น ยังไม่ได้ยินข่าวดังกล่าว แต่ยืนยันรัฐบาลจะแถลงนโยบายวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ ว่า ในส่วนพรรคอื่นไม่มีปัญหาได้เสนอแต่งตั้งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของพรรคพลังประชาชนได้ขอเลื่อนไปอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีจะต้องไปหารือกับรัฐมนตรีทั้งหมดก่อน
“บางทีเลขาฯ เจ๋ง แต่ที่ปรึกษาใครก็ไม่รู้ ถามว่ารัฐมนตรีว่าอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชื่อ น.ส.ศิลัมภา เลิศนุวัฒน์ ก็โอเค มีที่ปรึกษาชื่อ ดร.วิทยา อนมาน เป็นอดีตเอกอัครราชทูต อย่างนี้ถือว่าใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยน แต่บางครั้งที่ปรึกษาไม่มีอะไรยิ่งกว่าเลขาฯ เสียอีก ดังนั้น ผมควรจะต้องให้ข้อคิดกับรัฐมนตรีหน่อย ไม่ใช่ใครจะจับยัดใส่มาให้ก็ได้ และการทำเช่นนี้ผมไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาหรือเพิ่มแรงเสียดทานในพรรค เพราะผมเองก็ต้องรักษาหน้าของผมและหน้ารัฐมนตรีด้วย เป็นการรักษาหน้ากันเองในฐานะที่อยู่พรรคเดียวกัน แต่ถ้าเขาชี้แจงว่าหาคนเป็นที่ปรึกษาไม่ได้ เพราะติดขัดกฎหมาย 7 ชั่วโคตร ก็จะได้รู้ว่าหาคนไม่ได้จึงต้องเอาแบบนี้ แต่ความจริงคนที่สอบตกที่มีสถานะดีๆ ก็มี ซึ่งคนเป็นเลขาฯ จะเป็นใครผมไม่ขัดข้อง ถ้าเขาจะเอาอย่างนั้น แต่คนเป็นที่ปรึกษาก็อยากให้หน้าตาเข้าท่าเข้าทางหน่อย ก็จะถามตัวรัฐมนตรีว่าเป็นไปได้อย่างไร ใครเขาจัดการใส่มาให้อย่างนี้ จะทำกันแบบว่าเอาพรรคพวกมาใส่เพื่อให้เดือนเงินอย่างนี้ ไม่คิดถึงหน้าตาตัวเองบ้าง ไม่ยุติธรรมกับสังคม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ ครม. ใช้เวลาประชุม 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีวาระที่น่าสนใจและใช้เวลาหารือกันค่อนข้างนานคือร่างนโยบายรัฐบาลที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมกันยกร่างมา 4 ครั้ง และได้ส่งให้รัฐมนตรีพิจารณา แต่ไม่ได้บังคับให้รัฐมนตรีต้องเห็นชอบตามร่างดังกล่าว ซึ่งรัฐมนตรีได้อ่านกันแล้ว ทั้งหมดมี 26 หน้า อย่างไรก็ตามในการประชุม ครม. วันนี้ได้มีรัฐมนตรี 6-7 คนมีข้อทักท้วงในบางส่วน และเมื่อที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างนโยบายแล้ว ก็ให้ส่งไปสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติในฐานะเจ้าของเรื่องรับไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขอีกครั้ง ส่วนกระแสข่าวการเลื่อนแถลงนโยบายจากวันที่ 18 กุมภาพันธ์ มาเป็นวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์นั้น ยังไม่ได้ยินข่าวดังกล่าว แต่ยืนยันรัฐบาลจะแถลงนโยบายวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแต่งตั้งตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีและที่ปรึกษารัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ ว่า ในส่วนพรรคอื่นไม่มีปัญหาได้เสนอแต่งตั้งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนของพรรคพลังประชาชนได้ขอเลื่อนไปอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งในฐานะนายกรัฐมนตรีจะต้องไปหารือกับรัฐมนตรีทั้งหมดก่อน
“บางทีเลขาฯ เจ๋ง แต่ที่ปรึกษาใครก็ไม่รู้ ถามว่ารัฐมนตรีว่าอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชื่อ น.ส.ศิลัมภา เลิศนุวัฒน์ ก็โอเค มีที่ปรึกษาชื่อ ดร.วิทยา อนมาน เป็นอดีตเอกอัครราชทูต อย่างนี้ถือว่าใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยน แต่บางครั้งที่ปรึกษาไม่มีอะไรยิ่งกว่าเลขาฯ เสียอีก ดังนั้น ผมควรจะต้องให้ข้อคิดกับรัฐมนตรีหน่อย ไม่ใช่ใครจะจับยัดใส่มาให้ก็ได้ และการทำเช่นนี้ผมไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาหรือเพิ่มแรงเสียดทานในพรรค เพราะผมเองก็ต้องรักษาหน้าของผมและหน้ารัฐมนตรีด้วย เป็นการรักษาหน้ากันเองในฐานะที่อยู่พรรคเดียวกัน แต่ถ้าเขาชี้แจงว่าหาคนเป็นที่ปรึกษาไม่ได้ เพราะติดขัดกฎหมาย 7 ชั่วโคตร ก็จะได้รู้ว่าหาคนไม่ได้จึงต้องเอาแบบนี้ แต่ความจริงคนที่สอบตกที่มีสถานะดีๆ ก็มี ซึ่งคนเป็นเลขาฯ จะเป็นใครผมไม่ขัดข้อง ถ้าเขาจะเอาอย่างนั้น แต่คนเป็นที่ปรึกษาก็อยากให้หน้าตาเข้าท่าเข้าทางหน่อย ก็จะถามตัวรัฐมนตรีว่าเป็นไปได้อย่างไร ใครเขาจัดการใส่มาให้อย่างนี้ จะทำกันแบบว่าเอาพรรคพวกมาใส่เพื่อให้เดือนเงินอย่างนี้ ไม่คิดถึงหน้าตาตัวเองบ้าง ไม่ยุติธรรมกับสังคม” นายกรัฐมนตรี กล่าว
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--