วันนี้ (5 กันยายน 2562) เวลา 13.30 น. ณ อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานให้ข้อคิดเห็นในการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 เข้าร่วมด้วย
ในการนี้ นักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 ได้นำเสนอผลงานภายใต้แนวคิด “จากเอกลักษณ์ภูมิปัญญาสู่การเป็นศูนย์สร้างชีวิตและสุขภาพที่ดีของโลก” โดยนำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ชีวิตคุณภาพ (Wellness Economy) ผ่านโครงการต้นแบบ 2 โครงการ ได้แก่ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม (Gastronomy Tourism) และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub) สะท้อนถึงแผนการพัฒนาประเทศผ่านโครงสร้างและการบริหารงานภาครัฐที่สอดคล้องกับบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ ตามโมเดลประเทศไทย 4.0 เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผสมผสานกับรากเหง้าทางวัฒนธรรม เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ลดความเลื่อมล้ำอย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืน โดยยึดหลัก “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”“การพัฒนาที่ยั่งยืน” และ “คนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีให้ข้อคิดเห็นในการแถลงผลการศึกษา ความตอนหนึ่งว่า ยินดีที่ได้มาฟังการนำเสนอในวันนี้ ซึ่งเป็นวาระที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการอยู่ ให้ไปสู่การปฏิบัติขับเคลื่อนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะโลกก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกผัน (Disruptive Technology) ส่งผลกระทบทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม จึงต้องมีนโยบายเชิงโครงสร้างและการบริหารภาครัฐ ที่สอดรับกับบริบทของโลกที่เปลี่ยนแปลง โดยรัฐบาลมุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิต และเป็นอุตสาหกรรมที่เน้นพัฒนาด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม รวมไปถึง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ ที่เรียกว่า S - Curve Industries ให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในอนาคต และสร้างพลเมืองให้เป็นผู้ตื่นรู้
นายกรัฐมนตรีย้ำบทบาทหลักของกองทัพ คือป้องกันอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติในทุกมิติ รวมทั้งการดำเนินการต่อภัยคุกคามที่มิใช่ทางทหาร ซึ่งถือเป็นภารกิจสำคัญของกองทัพในการสนับสนุนรัฐบาล จึงต้องอาศัยการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย มีความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ขอฝากให้ทุกคนทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการเศรษฐกิจสร้างสรรค์ชีวิตคุณภาพ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ และแนวความคิดการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ แบบ Agile government ก่อนเดินทางกลับ
-----------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th