วันนี้ (23 ก.ย. 60) เวลา 09.00 น. ณ ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อการเสริมสร้างทักษะและเพิ่มความรู้ด้านจิตวิทยาแก่บุคลากรกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคมระหว่างกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)โดยมีนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายสุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนาม
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐในการยกระดับคุณภาพชีวิตและจิตใจของกลุ่มเป้าหมายผู้ประสบปัญหาทางสังคม ในการพัฒนาระบบการดูแลทางจิตใจกับกลุ่มเป้าหมายในสถานรองรับ ให้มีประสิทธิภาพ มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนเพื่อประโยชน์ในการฟื้นฟูสภาพจิตใจ และการให้ความคุ้มครองช่วยเหลือทางจิตใจให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรในสังกัดกระทรวง พม. ให้มีความรู้เพิ่มพูนทักษะในการปฏิบัติงานและสามารถเป็นวิทยากรด้านจิตวิทยา เพื่อแลกเปลี่ยนให้ความรู้กับบุคลากรอื่นในหน่วยงาน และส่งต่อแรงบันดาลใจให้กลุ่มเป้าหมายในสถานรองรับ เกิดแรงบันดาลใจในการช่วยเหลือตนเองและครอบครัวได้อย่างปกติ พร้อมกันนี้ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชื่นชมและขอบคุณกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ช่วยดำเนินการเร่งรัดให้เกิดโครงการความร่วมมือนี้ขึ้นมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการประชาชนและผู้รับบริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก เยาวชน สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ และคนไร้ที่พึ่ง รวมทั้งผู้ที่ประสบปัญหาทางสังคม ซึ่งการขับเคลื่อนงานดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความสามารถด้านสังคมสงเคราะห์และด้านจิตวิทยาของผู้ปฏิบัติงาน ในการคุ้มครองและเยียวยาผู้ประสบปัญหาทางสังคมโดยเฉพาะด้านจิตใจ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสุขภาพจิต จะดำเนินการจัดทำหรือเสนอหลักสูตรเพื่อใช้อบรมบุคลากรของกระทรวง พม. ที่ปฏิบัติงานดูแลกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในและนอกสถานรองรับ ความรู้ที่เกี่ยวกับทักษะด้านจิตวิทยาการเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน รวมถึงสนับสนุนวิทยากรในการให้ความรู้ ฝึกปฏิบัติและให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยาต่อไป
.....................
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่
ที่มา: http://www.thaigov.go.th