พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยไม่หนักใจในการทำงาน เตรียมขอคำแนะนำจากนายกรัฐมนตรี และจะทำงานด้วยความสมานฉันท์-สร้างสรรค์
เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก ภายหลังมีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 โดยได้เข้าสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งค่อนข้างมีแรงปะทะมากว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะเคยทำงานด้านการข่าวและการทำความเข้าใจการประชาสัมพันธ์ ส่วนเรื่องปะทะ คือ การต่อสู้ ก็คงจะไม่ต่อสู้กับใคร สิ่งใดที่เป็นความจริงก็พูดความจริง สิ่งใดที่เป็นเท็จก็ต้องว่าไปตามนั้น และไม่รู้สึกหนักใจ เพราะรับราชการมา ซึ่งในช่วงนั้นก็มีการแก้ไขปัญหาในราชการมาตลอดเวลา ดังนั้น การทำงานอย่างนี้ต้องมีความบริสุทธิ์ใจ และเชื่อว่าคงไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับคำปรามาสที่ว่าจะไม่สามารถทำงานได้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไร และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน ถ้าทำแล้วมีข้อบกพร่องก็ต้องว่ากันไป โดยสื่อจะเป็นคนสะท้อนว่าควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร สิ่งไหนมีประโยชน์ก็จะแก้ไข หากไม่มีประโยชน์ก็ต้องมานั่งคุยกัน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน ส่วนแนวทางการทำงานนั้นจะหารือกับทีมงานก่อน ซึ่งจะตั้งใจทำงานด้วยแนวทาง 2 ประการคือ ทำงานด้วยความสมานฉันท์และสร้างสรรค์ เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศบอบช้ำ ทั้งนี้ จากที่ได้ลงพื้นที่ในช่วงหาเสียง 45 วัน ได้ทราบว่าประชาชนต้องการอะไร
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจโท วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก ภายหลังมีคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 โดยได้เข้าสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล เพื่อความเป็นสิริมงคล
จากนั้น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งค่อนข้างมีแรงปะทะมากว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะเคยทำงานด้านการข่าวและการทำความเข้าใจการประชาสัมพันธ์ ส่วนเรื่องปะทะ คือ การต่อสู้ ก็คงจะไม่ต่อสู้กับใคร สิ่งใดที่เป็นความจริงก็พูดความจริง สิ่งใดที่เป็นเท็จก็ต้องว่าไปตามนั้น และไม่รู้สึกหนักใจ เพราะรับราชการมา ซึ่งในช่วงนั้นก็มีการแก้ไขปัญหาในราชการมาตลอดเวลา ดังนั้น การทำงานอย่างนี้ต้องมีความบริสุทธิ์ใจ และเชื่อว่าคงไม่มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรกับคำปรามาสที่ว่าจะไม่สามารถทำงานได้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่รู้สึกอะไร และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ระยะทางพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คน ถ้าทำแล้วมีข้อบกพร่องก็ต้องว่ากันไป โดยสื่อจะเป็นคนสะท้อนว่าควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร สิ่งไหนมีประโยชน์ก็จะแก้ไข หากไม่มีประโยชน์ก็ต้องมานั่งคุยกัน อย่างไรก็ตาม ในวันนี้จะขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอคำแนะนำในการทำงาน ส่วนแนวทางการทำงานนั้นจะหารือกับทีมงานก่อน ซึ่งจะตั้งใจทำงานด้วยแนวทาง 2 ประการคือ ทำงานด้วยความสมานฉันท์และสร้างสรรค์ เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ประเทศบอบช้ำ ทั้งนี้ จากที่ได้ลงพื้นที่ในช่วงหาเสียง 45 วัน ได้ทราบว่าประชาชนต้องการอะไร
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--