ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) ยินดีไทยได้รัฐบาลจากการเลือกตั้ง เผยพร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจภายใต้กรอบ JTEPA
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายฮิโระชิ ชิโมะสุมะ (Mr. Hiroshi Shimozuma) ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมหารือด้วย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนไทย ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ที่มาจากการเลือกตั้ง ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นการยืนยันถึงบรรยากาศการค้าและการลงทุน สำหรับอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย และก็ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง รัฐบาลก็พร้อมที่จะบริหารประเทศ ในโอกาสนี้ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) กล่าวแสดงความยินดีต่อรัฐบาลและแจ้งถึงวัตถุประสงค์การเดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเขตธุรกิจคันไซ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คันไซเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เศรษฐกิจของเขตคันไซกว่าร้อยละ 50 ได้มีความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญ
ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) ยังได้เสนอแนวทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและเขตคันไซว่า เสถียรภาพที่มั่นคงของรัฐบาล เป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้พิจารณาประกอบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะใช้ความสามารถและความเป็นผู้นำ ในการบริหารประเทศได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ และเชื่อว่า รัฐบาลจะให้ความสนับสนุนการดำเนินการ ภายใต้ความร่วมมือเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและญี่ปุ่น (JTEPA) นั้น ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือแล้ว นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังจะได้ขยายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการท่องเที่ยว เนื่องจากไทยและเขตคันไซ ต่างมีมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง มีศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะสนามบิน สามารถพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างคันไซกับภูเก็ต ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางหนึ่ง ในการเพิ่มการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างกัน นอกเหนือจากการเดินทางของนักธุรกิจระหว่างเขตคันไซและกรุงเทพ ในโอกาสนี้ ยังได้กล่าวเชิญชวนนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยือนเมืองโอซาก้าและเมืองเกียวโต ซึ่งศูนย์กลางวัฒนธรรมและอาหารของญี่ปุ่นด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและเขตธุรกิจคันไซและเห็นว่า ไทยยังคงเน้นความร่วมมือกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และเชื่อมั่นว่า เขตธุรกิจคันไซจะให้ความไว้วางใจไทย ในการส่งเสริมการประกอบการและผลิตสินค้าที่เป็นที่ไว้วางใจของญี่ปุ่นในไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--
วันนี้ เวลา 10.00 น. นายฮิโระชิ ชิโมะสุมะ (Mr. Hiroshi Shimozuma) ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) เข้าเยี่ยมคารวะนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพาณิชย์ และนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมหารือด้วย สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนไทย ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ที่มาจากการเลือกตั้ง ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เป็นการยืนยันถึงบรรยากาศการค้าและการลงทุน สำหรับอุบัติเหตุทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น ถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย และก็ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง รัฐบาลก็พร้อมที่จะบริหารประเทศ ในโอกาสนี้ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) กล่าวแสดงความยินดีต่อรัฐบาลและแจ้งถึงวัตถุประสงค์การเดินทางมาเยือนไทยในครั้งนี้ว่า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและเขตธุรกิจคันไซ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คันไซเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เศรษฐกิจของเขตคันไซกว่าร้อยละ 50 ได้มีความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศคู่ค้าสำคัญ
ประธานสมาพันธ์ธุรกิจเขตคันไซ (Kankeiren) ยังได้เสนอแนวทางความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและเขตคันไซว่า เสถียรภาพที่มั่นคงของรัฐบาล เป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้พิจารณาประกอบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะใช้ความสามารถและความเป็นผู้นำ ในการบริหารประเทศได้อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ และเชื่อว่า รัฐบาลจะให้ความสนับสนุนการดำเนินการ ภายใต้ความร่วมมือเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดระหว่างไทยและญี่ปุ่น (JTEPA) นั้น ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือแล้ว นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังจะได้ขยายความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) และการท่องเที่ยว เนื่องจากไทยและเขตคันไซ ต่างมีมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียง มีศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะสนามบิน สามารถพิจารณาเพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างคันไซกับภูเก็ต ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางหนึ่ง ในการเพิ่มการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างกัน นอกเหนือจากการเดินทางของนักธุรกิจระหว่างเขตคันไซและกรุงเทพ ในโอกาสนี้ ยังได้กล่าวเชิญชวนนายกรัฐมนตรีเดินทางมาเยือนเมืองโอซาก้าและเมืองเกียวโต ซึ่งศูนย์กลางวัฒนธรรมและอาหารของญี่ปุ่นด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวสนับสนุนแนวทางความร่วมมือระหว่างไทยและเขตธุรกิจคันไซและเห็นว่า ไทยยังคงเน้นความร่วมมือกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะการถ่ายทอดเทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา และเชื่อมั่นว่า เขตธุรกิจคันไซจะให้ความไว้วางใจไทย ในการส่งเสริมการประกอบการและผลิตสินค้าที่เป็นที่ไว้วางใจของญี่ปุ่นในไทยอย่างต่อเนื่องต่อไป
--กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก--