วันนี้ (วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2562) เวลา 13.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายฮิโรชิ โอซากิ (Mr. Hiroshi Ozaki) ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เข้าเยี่ยมคารวะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนไทย สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมโอซากา พร้อมยินดีที่ภาคเอกชนท้องถิ่นของญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในไทย โดยภาคเอกชนญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของไทยที่มีส่วนช่วยการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมาอย่างยาวนาน ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมดำเนินความสัมพันธ์กับเอกชนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง และจะดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นในไทยเป็นอย่างดี
ประธานสภาหอการค้าโอซากาขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีที่สละเวลาให้เข้าพบ พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของไทยในฐานะประเทศคู่ค้าทางเศรษฐกิจ โดยปัจจุบันมีภาคเอกชนของญี่ปุ่นจำนวนมากเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย รวมถึงภาคเอกชนจากโอซากาด้วย ชื่นชมนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจโดยมุ่งสู่อนาคตตามนโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งสอดคล้องกับญี่ปุ่นที่กำลังดำเนินธุรกิจโดยมุ่งสู่อนาคตเช่นกัน พร้อมหวังว่าไทย-ญี่ปุ่น จะได้ร่วมมือส่งเสริมกันตามนโยบายมุ่งสู่อนาคตต่อไป
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายชื่นชมโครงการ EEC ที่มีเอกชนญี่ปุ่น ทั้งรายใหญ่ และ SME สนใจ จำนวนมาก โดยรองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการ EEC ว่าจะสามารถลงนามโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินได้ในเร็ว ๆ นี้ พร้อมขอบคุณนักลงทุนญี่ปุ่นที่ให้ความสนใจ และเชิญชวนนักลงทุนจากญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในโครงการ EEC เพิ่ม ทั้งนี้รัฐบาล และ BOI พร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นการพัฒนาทรัพยากรบุคคลร่วมกัน เห็นพ้องกันว่าการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นเรื่องที่ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกัน ทั้งนี้ รัฐบาลไทยมีนโยบายสนับสนุนเอกชนที่จัดตั้งสถาบันฝึกอบรมบุคลากรให้ได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น พร้อมขอให้หอการค้าโอซากาช่วยผลักดันให้สถาบันการศึกษาญี่ปุ่นมาตั้งสาขาที่ไทย เพื่อให้ได้บุคลากรคุณภาพตรงตามความต้องการของเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาขาวิชา STEM ศึกษา (Science Technology Engineering and Mathematics Education)
นอกจากนี้ ภาคเอกชนญี่ปุ่นหวังว่าไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรียืนยันความตั้งใจที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP โดย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นความจำนงเข้าร่วมในโอกาสแรกแล้ว และขอบคุณญี่ปุ่นที่ให้การสนับสนุนการเร่งรัดการเจรจา RCEP โดยคาดว่าจะสามารถบรรลุผลได้เร็ว ๆ นี้
ที่มา: http://www.thaigov.go.th