วันนี้ (31 ตุลาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดใช้แดนภาคใต้ (กพต.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2562 เพื่อสรุปความก้าวหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา และเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สำคัญของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม
ที่ประชุมได้มีการหารือด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้ ประกอบด้วย การขยายผลโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ไปสู่เมืองต้นแบบที่ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรม ก้าวหน้าแห่งอนาคต” การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณีการเร่งรัดออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ด้านความมั่นคงได้มีการพูดคุยหารือด้านการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคง ผ่าน “โครงการตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ด้านการอำนวยความเป็นธรรมและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่ประชุมได้เสนอให้มีการพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยังยืน กรณีครอบครัวนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ รวมทั้งการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กยต.) เพื่อบูรณาการงานด้านเยียวยาอย่างเป็นระบบ ครบวงจร
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมในวันนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่เป้าหมายที่รัฐบาลต้องการจะให้เกิดขึ้นโดยเร็ว คือ การยุติสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกับเร่งรัดการพัฒนาทุกมิติให้มีความก้าวหน้าไปพร้อมกัน รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะให้ประชาชนทุกคนมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีเศรษฐกิจที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะจังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพหลายเรื่องที่จะพัฒนาไปสู่ศูนย์กลางเชื่อมโยงการพัฒนาในระดับของอนุภูมิภาคได้ โดยเฉพาะประเทศโลกมุสลิม เชื่อมั่นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีจะเป็นรากฐานการทำงานที่สำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างโอกาสที่ดีให้กับประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ในพื้นที่ สามารถดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีคุณค่า และเป็นต้นทางที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งผลของการพัฒนาจะนำไปสู่การพัฒนาสังคม การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาการบริหารจัดการภาครัฐ การสื่อสารเพื่อสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศที่มีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างความมั่นคงในพื้นที่ได้
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำการทำงานของทุกฝ่าย โดยหน่วยงานด้านความมั่นคง ได้แก่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะต้องเป็นเจ้าภาพในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ด้านการพัฒนา ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเจ้าภาพเพื่อกำหนดกรอบการพัฒนาที่ชัดเจน ตามเป้าหมายของรัฐบาลให้ทุกส่วนราชการร่วมดำเนินการในการบูรณาการและประสานความร่วมมือการทำงานให้เป็นไปตามลำดับก่อน-หลัง เกิดระบบการส่งต่อการทำงานระหว่างหน่วยงานให้เป็นเอกภาพ โดยมีสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นเจ้าภาพเชื่อมโยงมิติความมั่นคงและการพัฒนา ให้เป็นไปตามนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การประชุมในวันนี้ จึงมุ่งเน้นมิติการพัฒนาให้มากขึ้น โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ไปสู่การปฏิบัติและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว รวมทั้งเกิดการพัฒนาพื้นที่ที่สมดุลเท่าเทียมการพัฒนาในภูมิภาคอื่นของประเทศไทย ตามแนวนโยบายของคณะรัฐมนตรีเพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป
------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th