วันนี้ (2 ธันวาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม นายโจเซฟ แอนโทนี คอตเตอร์ (Mr. Joseph Anthony Cotter) เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ของเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ฯ จะนำไปสู่ความสำเร็จในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับไอร์แลนด์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ทั้งนี้การเปิดสถานเอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เมื่อ 4 ปีที่แล้วประสบความสำเร็จในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองและนำไปสู่การแลกเปลี่ยนการเยือนที่เพิ่มขึ้นในทุกระดับ
เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์กล่าวว่าการเสด็จฯ เยือนไอร์แลนด์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2557 นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ไอร์แลนด์ ทั้งนี้ไอร์แลนด์หวังว่าไทยจะพิจารณาการเปิดสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงดับลิน ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในทุกมิติ พร้อมทั้งเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศด้วย
ทั้งสองฝ่ายหารือถึงการเพิ่มพูนความสัมพันธ์ทวิภาคีในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สองฝ่ายเห็นพ้องว่ายังมีโอกาสที่จะขยายการค้า การลงทุนระหว่างกันได้อีกมาก โดยรองนายกรัฐมนตรีย้ำศักยภาพและบทบาทของไทยที่สามารถเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอาเซียนโดยส่งเสริมให้ไอร์แลนด์เข้ามามีความร่วมมือกับไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 รวมทั้งการขยายการลงทุนในพื้นที่ EEC
สำหรับด้านการศึกษา ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและไอร์แลนด์จะกระชับความร่วมมือด้านการศึกษา โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยและไอร์แลนด์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ
โอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรียืนยันเจตนารมณ์ของไทยที่จะกระชับความสัมพันธ์กับ EU และสหราชอาณาจักรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นภายหลังสหราชอาณาจักรออกจาก EU และหวังว่า Brexit จะส่งผลกระทบต่อทุกฝ่ายน้อยที่สุด หากทั้งสองฝ่ายบรรลุความตกลงร่วมกันได้ และ EU และสหราชอาณาจักรจะยังมีบทบาทที่สร้างสรรค์ต่อไปในเวทีระหว่างประเทศ
ที่มา: http://www.thaigov.go.th