วันนี้ (13 ธ.ค. 62) เวลา 13.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการมอบนโยบาย จุดเน้นย้ำในการเปิดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ปี 2563 ซึ่งมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้กล่าวรายงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดงานความว่า รัฐบาลมีนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง โดยในเรื่องของการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู ต้องแก้ปัญหาอย่างเป็นองค์รวม ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่มีความสำคัญ เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคง และบั่นทอนความสงบสุขของสังคมในภาพรวม ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ทุกภูมิภาคทั่วโลกก็กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ และมีแนวโน้มการผลิตและแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ องค์การสหประชาชาติ ได้จัดให้มีการระดมความคิดเห็นกับผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด บทเรียน ประสบการณ์และผลของการแก้ไขปัญหายาเสพติดของหลายประเทศ ทั้งที่ล้มเหลวและที่ประสบผลสำเร็จ เพื่อนำไปสู่การปรับยุทธศาสตร์และนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดระดับโลก โดยเฉพาะการประชุม UNGASS 2016 ซึ่งชี้แนะการมองปัญหายาเสพติด และกำหนดแนวทางแก้ไขแนวใหม่แบบองค์รวม สำหรับประเทศสมาชิกได้นำไปประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ โดยมีเป้าหมายคือ ให้โลกปลอดภัยจากปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยดูกรณีศึกษาจากต่างประเทศและนำมาปรับใช้กับประเทศไทย ซึ่งประเทศจะมีความเข้มแข็งก็ด้วยทรัพยากรคน ยาเสพติดจะเป็นสิ่งบั่นทอนความมั่นคงของชาติ ลดทอนศักยภาพของประเทศ ทั้งทางเศรษฐกิจและทางสังคม
นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำมาตรการป้องกัน มากกว่าการปราบปรามและบำบัดรักษา เพราะไม่ต้องการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และมีการดำเนินงานอย่างบูรณาการ ประสานสอดคล้องกันของทุกหน่วยงานในทุกมาตรการ โดยต้องลดอุปสงค์ในประเทศไปพร้อม ๆ กับการขจัดอุปทานจากนอกประเทศ ทั้งการสกัดกั้นสารตั้งต้น และการทำลายแหล่งผลิต อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนทุกคน ในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแส และร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน ขึ้นมาถึงระดับชาติ
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหายาเสพติด จะต้องให้ความสำคัญกับหมู่บ้าน ชุมชน ผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องบูรณาการทรัพยากรทุกอย่าง ทั้งแผนงาน งบประมาณ ของทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ผนึกกำลังเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการทำงานในทุกด้าน ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยรูปแบบหนึ่งที่เป็นตัวอย่างที่ดีคือ “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ซึ่งเป็นการสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยมีกองทุนแม่ของแผ่นดินประมาณ 20,000 หมู่บ้าน ถ้าสามารถขยายออกไปให้ครบทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ก็จะเป็นพลังทางสังคมในการต่อสู้กับภัยยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลประสบผลสำเร็จ สัมฤทธิ์ผลเป็นรูปธรรม รัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติขึ้นมา สำหรับถ่ายทอดนโยบายและอำนวยการไปสู่การปฏิบัติ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนและอำนวยการนโยบายของรัฐบาล ผ่านศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในระดับต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ปี 2563 โดยสร้างแผนแม่บทให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติเพื่อให้การบริหารจัดการการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ประสบผลอย่างเป็นรูปธรรม
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการสถานการณ์ยาเสพติด 2562 การป้องกันผู้เสพรายใหม่ สร้างพื้นที่ปลอดภัย ลดผู้เสพ สร้างพลังคน เสริมพลังชาติ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ให้สร้างเครือข่ายความร่วมมือและป้องกันภายในชุมชน พร้อมทั้งทำงานเชิงรุกบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน เช่น สาธารณสุข ชุมชน ขยายเครือข่ายในระดับตำบล จังหวัด ภาค และประเทศ โดยฝากทุกหน่วยงานช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ไม่ติดยาเสพติด และร่วมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้อย่างทั่วถึง
-----------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
ที่มา: http://www.thaigov.go.th